1 ก.พ. 2566 – นางสาวกุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า กรมบัญชีกลางดำเนินงานภายใต้คณะทำงานพิจารณาแนวทางปรับปรุงและพัฒนาระบบเบิกจ่ายค่ายากลุ่มโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูง มีมติเห็นชอบให้ปรับปรุงหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งและโลหิตวิทยาซึ่งจำเป็นต้องใช้ยาที่มีค่าใช้จ่ายสูง เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาพยาบาลตามความเหมาะสม จำเป็น และมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมทั้งเพื่อให้การเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลเป็นไปอย่างสมเหตุผล โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1. ปรับปรุงรายการยาและเงื่อนไขข้อบ่งชี้ในการเบิกจ่ายค่ายารักษาโรคมะเร็งในระบบ OCPA ดังนี้
(1) ปรับปรุงเงื่อนไขข้อบ่งชี้ในการเบิกจ่ายค่ายา Sorafenib ที่ใช้ในการรักษาโรคมะเร็งตับชนิด hepatocellular carcinoma (HCC) และโรคมะเร็งไทรอยด์ระยะแพร่กระจาย
(2) เพิ่มรายการยา Lenvatinib ที่ใช้ในการรักษาโรคมะเร็งตับ ชนิด hepatocellular carcinoma และโรคมะเร็งไทรอยด์ระยะแพร่กระจาย พร้อมทั้งกำหนดเงื่อนไขข้อบ่งชี้ในการเบิกจ่ายค่ายาดังกล่าว
สถานพยาบาลจะต้องดำเนินการลงทะเบียนแพทย์ผู้ทำการรักษา และผู้ป่วย และส่งข้อมูลตามโปรโตคอลที่กำหนดในระบบ OCPA เพื่อขออนุมัติเบิกค่ายา หรือขอต่ออายุการเบิกค่ายา หรือขอหยุดการใช้ยา ตามแนวทางที่หน่วยงานซึ่งได้รับมอบหมายจากกรมบัญชีกลางกำหนด และให้เบิกจ่ายค่ายาในระบบเบิกจ่ายตรงค่ารักษาพยาบาลเท่านั้น รวมทั้งการใช้ยาดังกล่าวต้องเป็นไปตามเงื่อนไขข้อบ่งชี้ที่กำหนด จึงจะสามารถเบิกจ่ายจากทางราชการได้
2. กำหนดอัตราเบิกจ่ายค่ายา Lenvatinib และ Sorafenib สำหรับการรักษาทุกข้อบ่งชี้ โดยให้เบิกจ่ายค่ายาได้ไม่เกินอัตราที่กำหนด ดังนี้
Lenvatinib ขนาด 4 มิลลิกรัม และ 10 มิลลิกรัม อัตรา 835 บาทต่อแคปซูล และ 1,552 บาทต่อแคปซูล ตามลำดับ โดยในกรณีที่ใช้ยา 20 มิลลิกรัมต่อวัน ให้เบิกได้เฉพาะความแรง 10 มิลลิกรัมเท่านั้น ทั้งนี้ หลังจากผู้ป่วยใช้ยาครบ 120 วัน และยังจำเป็นต้องได้รับการรักษาต่อ บริษัทผู้จำหน่ายยาจะสนับสนุนยาให้ผู้ป่วยรายนั้นจนกว่าแพทย์จะพิจารณาให้หยุดยาหรือผู้ป่วยไม่ตอบสนองต่อการรักษา
* Sorafenib ขนาด 200 มิลลิกรัม อัตรา 319 บาทต่อเม็ด ทั้งนี้ กรณีผู้ป่วยรายเดิมที่ลงทะเบียนขออนุมัติการเบิกจ่ายค่ายาดังกล่าวในระบบ OCPA ก่อนวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 บริษัทผู้จำหน่ายยาจะยังคงสนับสนุนยาหลังจากผู้ป่วยใช้ยาครบ 4 เดือน และยังตอบสนองต่อการรักษาดี
“โดยหลักเกณฑ์ฯ ดังกล่าว จะมีผลใช้บังคับสำหรับค่ารักษาพยาบาลที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นต้นไป ทั้งนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่กองสวัสดิการรักษาพยาบาล กรมบัญชีกลาง หมายเลขโทรศัพท์ 02 127 7000 ต่อ 6850 หรือ 6851 ในวัน เวลาราชการ” หรือสืบค้นข้อมูลได้ที่เว็บไซต์กรมบัญชีกลาง www.cgd.go.th หัวข้อ รักษาพยาบาล/ข้อมูลน่ารู้เกี่ยวกับค่ารักษาพยาบาล/รายการยาที่กรมบัญชีกลางกำหนดหลักเกณฑ์ไว้เป็นการเฉพาะ” อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บัญชีกลางแนะแนวจัดซื้อจัดจ้างกรณีใช้งบประมาณปี 66 ไปพลางก่อน
กรมบัญชีกลางซ้อมความเข้าใจแนวทางการจัดซื้อจัดจ้าง ตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ กรณีใช้งบประมาณปี 66 ไปพลางก่อน
บัญชีกลางลุยจ่ายเงินเพิ่มเดือนละ100 อัดฉีดคนแก่ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
“บัญชีกลาง” เคาะ 12 ก.ย. 2566 เริ่มเดินเครื่องเงินจ่ายเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ อีกเดือนละ 100 บาท เป็นเวลา 6 เดือน ตั้งแต่ เม.ย.-ก.ย. 2566
เช็กเลย บัญชีกลางอัปเดตสวัสดิการแห่งรัฐ เดือน ก.ค. จ่ายอะไรบ้าง
นางสาวทิวาพร ผาสุข รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ผู้มีสิทธิจะสามารถใช้สิทธิผ่านบัตรประจำตัวประชาชนแบบสมาร์ทการ์ด
เตรียมพร้อม 'บัญชีกลาง' ลุยใช้ระบบ New GFMIS Thai ทั่วประเทศ ดีเดย์! 4 เม.ย. 65
บัญชีกลางเตรียมนำระบบมาใช้
อย่าหลงเชื่อข่าวปลอม บัญชีกลาง ยันไม่มีนโยบายลดหรือยกเลิกการจ่ายเงินบำนาญ
ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย รายงานว่า ตามที่มีข้อความแจ้งในสื่อสังคมออนไลน์เกี่ยวกับประเด็นเรื่อง คลังอนุมัติ ให้ยกเลิกจ่ายเงินบำนาญแก่ข้าราชการ
บัญชีกลางดีเดย์ 1 ก.พ. ใช้แอปฯบริหารจัดการเงินบำเหน็จบำนาญ
1 ก.พ. 65 กรมบัญชีกลางพร้อมใช้ ระบบ Digital Pension บูรณาการฐานข้อมูลภาครัฐ บำเหน็จบำนาญยุคใหม่ ใส่ใจวัยเกษียณ