ครม. อนุมัติ NT เดินหน้าบริการ 5G ทุ่มลงทุน 6.7 พันล้าน

ครม.อนุมัติ บมจ.โทรคมนาคมฯ เดินหน้าโครงการบริการ 5G สำหรับลูกค้าองค์กร เบื้องต้นภายใน 6 ปีเล็งให้บริการแบบ Private 5G Network 438 องค์กร กรอบวงเงินตลอดโครงการ 14 ปี  6,705.6 ล้านบาท

31 ม.ค. 2566 – น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า  ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) วันที่ 31 ม.ค. 66  ได้อนุมัติหลักการโครงการบริการ 5G สำหรับลูกค้าองค์กรของบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด(มหาชน) กรอบวงเงินจำนวน 4,964.30 ล้านบาท และรับทราบกรอบวงเงินค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานกรอบวงเงิน 1,741.3 ล้านบาท รวมเป็นวงเงินตลอดโครงการระยะเวลา 14 ปี 6,705.6 ล้านบาท

โดยโครการนี้เกิดขึ้นจากการที่ บมจ.โทรคมนาคมฯ ประสงค์จะนำเทคโนโลยี 5G มาให้บริการบนย่านความถี่ 26 GHz ที่ได้รับการจัดสรรจากสำนักงาน กสทช. จากการเข้าร่วมประมูลเมื่อปี 2563 ที่ผ่านมา โดยมีกลุ่มเป้าหมายองค์กรที่จะรับบริการตามโครงการนี้ภายใน 6 ปีทั้งสิ้น 438  ราย ได้แก่ หน่วยงานภาครัฐ  11 ราย กลุ่มโรงพยาบาล 47 ราย กลุ่มสถาบันการศึกษา 30 ราย และโรงงานอุตสาหกรรมและพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ เช่น อีอีซี 350 ราย  ให้บริการ 3 กลุ่ม ได้แก่ 1.บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงแบบประจำที่ (Fixed Wireless Access :FWA) 2.ให้บริการเชื่อมต่อในพื้นที่จำกัด (Campus Network) อาทิ ในโรงงานอุตสาหกรรม ท่าเรือขนส่ง ท่าอากาศยาน และ 3.ให้บริการเพื่อสนับสนุนการบริการสาธารณะและการบริการภาครัฐ  เพื่อสนับสนุนแนวทางการพัฒนารัฐบาลดิจิทัล เศรษฐกิจดิจิทัล เมืองอัจฉริยะ และดิจิทัลไทยแลนด์

โครงการจะเน้นบริการ 5G ลักษณะเฉพาะองค์กร(Private 5G Network) ที่การออกแบบตามความต้องการใช้งานต่างๆ ดังนั้น บมจ.โทรคมนาคมฯ จะมีการลงทุนงานที่เป็นลักษณะโครงการเป็นรายๆ (Project-based) เมื่อมีโอกาสทางธุรกิจและลูกค้าที่แน่นอน โดยมีรูปแบบการดำเนินงานประกอบด้วย การลงทุนพัฒนาระบบโครงข่ายหลักและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง การลงทุนพัฒนาสถานีฐานเทคโนโลยี 5G และ ให้บริการ Business solution

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า โครงการนี้จะมีระยะเวลา 14 ปี ภายใต้กรอบวงเงินลงทุน 6,705.6 ล้านบาท ซึ่งใช้จ่ายจากรายได้ของ บมจ.โทรคมนาคมฯ แยกเป็น ค่าใช้จ่ายในการลงทุน (CAPEX) เช่น ค่าลงทุนระดับโครงจ่ายหลัก (Core Network) สถานีฐานเทคโนโลยี 5G ต้นทุนอุปกรณ์ ค่าบริการติดตั้งอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องวงเงิน 4,964.3 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (OPEX) เช่น ค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ ดูแลรักษาและซ่อมบำรุงโครงข่าย วงเงิน 1,741.3 ล้านบาท

นอกจากนี้ บมจ.โทรคมนาคมฯ ระบุว่า ได้ทำการประเมินแล้วโครงการมีความคุ้มค่าในการลงทุนโดยมีผลตอบแทนทางการเงิน อยู่ที่ร้อยละ 28.71 มีระยะเวลาคืนทุน 6 ปี 6 เดือน  ขณะที่ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจอยู่ที่ ร้อยละ 16 เกิดมูลค่าเพิ่มเชิงเศรษฐกิจเฉลี่ยต่อปีเท่ากับ 263 ล้านบาท มากกว่าศูนย์ ซึ่งหมายความว่าโครงการสามารถสร้างรายได้เหนือค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานโดยเฉลี่ย

ทั้งนี้ การดำเนินโครงการของ บมจ.โทรคมนาคมฯ จะมีส่วนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานโครงข่ายโทรคมนาคมและบริการดิจิทัลซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเมืองอัจฉริยะ การพัฒนาอุตสาหกรรม4.0 การพัฒนาแรงงานดิจิทัล พื้นที่พัฒนาพิเศษ และ 5G ยังจะสามารถต่อยอดการพัฒนาการศึกษา การแพทย์และเทคโนโลยีเสมือนจริง และเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าองค์กรที่ต้องการใช้บริการ 5G ด้วย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คปท.บุกทำเนียบฯ ยื่น นายกฯ-ครม. ค้าน ‘กิตติรัตน์’ นั่งปธ.บอร์ดแบงก์ชาติ

คปท. ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี คัดค้านการเสนอชื่อนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง เป็นประธานกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ บอร์ดแบงก์ชาติ

‘ภูมิธรรม’ มั่นใจนายกฯกลับมาประชุมตั้ง ‘เจทีซี’ เสร็จ ชงเข้าครม.19 พ.ย.ทันที

‘ภูมิธรรม’ ระบุ หากนายกฯกลับมา เรียกถก ตั้ง เจทีซี วันนี้ก็ เข้าครม.ทันพรุ่งนี้ โยน กต.เคาะรายชื่อ ลั่น เกาะกูดไม่จบซํ้ารอยเขาพระวิหารแน่ ยัน ไม่มีเหตุผลต้องยกเลิกเอ็มโอยู 44

ครม. ไฟเขียวร่างพ.ร.ฎ. 2 ฉบับ แก้ปัญหาที่ดินทำกินในเขตป่าอนุรักษ์ ยันไม่ได้จำกัดสิทธิเสรีภาพ

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า ครม.เห็นชอบทบทวนร่างพระราชกฤษฎีกา โครงการอนุรักษ์ดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติภายในอุทยานแห่งชาติ มาตรา 64

'เผ่าภูมิ' เผย ครม.อนุมัติโครงการสินเชื่อสร้างอาชีพ 1.5 หมื่นล้าน

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า กระทรวงการคลังได้เสนอ 2 เรื่องเข้าสู่ที่ประชุม โดยเรื่องที่ 1.เป็นเรื่องสินเชื่อสร้างงานสร้างอาชีพ เป็นโครงการของธนาคารออมสิน ยอดวงเงิน 15,000 ล้านบาท

ครม. ตั้ง 5 ข้าราชการการเมือง 'อ๋อม สกาวใจ' เป็นที่ปรึกษา รมว.วัฒนธรรม

น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีแต่งตั้งคณะกรรมการเมือง ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เสนอ ประกอบด้วย

ครม. ไฟเขียววันหยุดราชการเพิ่มเป็นกรณีพิเศษ ปี 2568-2569

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.เห็นชอบกำหนดวันหยุดราชการเพิ่มเป็นกรณีพิเศษ ประจำปี 2568 และปี 2569 โดย 1.กำหนดให้วันจันทร์ที่ 2 มิ.ย. 2568 เป็นวันหยุดราชการเพิ่มเติม