“เอ็กซิมแบงก์” คาดปล่อยสินเชื่อใหม่ปี 2566 โตพรวด 1.2 แสนล้านบาท วาดกำไรสุทธิแตะ 1.8 พันล้านบาท พร้อมรักษาระดับหนี้เสียไม่เกิน 3% ปักธงหนุนสินเชื่อในธุรกิจที่เป็นเทรนด์โลก ชู “ธุรกิจซอฟท์ พาวเวอร์- Future Industry- Future food-พลังงานสะอาด” มาแรง รับส่งออกไทยโตแผ่วเหลือ 2% แนะผู้ประกอบการขยายตลาดที่มีศักยภาพ มองตะวันออกกลาง-เอเชียใต้-อาเซียนยังแจ่ม เล็งออกกรีนบอนด์อีก 5 พันล้านบาท
31 ม.ค. 2566 – นายรักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) หรือ เอ็กซิมแบงก์ กล่าวว่า ในปี 2566 ธนาคารตั้งเป้าหมายปล่อยสินเชื่อใหม่เติบโตที่ 1.2 แสนล้านบาท ส่วนยอดสินเชื่อคงค้างไม่ต่ำกว่า 1.8 แสนล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น 10% จากปี 2565 ขณะที่คาดว่าจะมีกำไรสุทธิ อยู่ที่ 1.8 พันล้านบาท พร้อมทั้งจะพยายามรักษาระดับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ไว้ไม่ให้สูงเกินกว่า 3%
โดยในปีนี้ ธนาคารจะเน้นการเข้าไปสนับสนุนสินเชื่อในธุรกิจที่เป็นเทรนด์ของโลกมากขึ้น เช่น ธุรกิจซอฟท์ พาวเวอร์, ธุรกิจที่เป็น Future Industry และ Hospitality ทั้งในส่วนของ Medical และ Tourism จากในปี 2565 ที่ได้เข้าไปสนับสนุนสินเชื่อให้แก่ธุรกิจประเภทพลังงานสะอาด, Future food, โลจิสติกส์ และซับพลาย เชน รวมทั้งยังมีแผนที่จะระดมทุนเพิ่มด้วยการออกพันธบัตรสีเขียว (กรีนบอนด์) ราว 5,000 ล้านบาท ซึ่งต้องรอให้ผ่านการอนุมัติการเพิ่มทุนจำนวน 2 พันล้านบาทก่อน จึงจะสามารถกำหนดระยะเวลา และรายละเอียดต่าง ๆ ได้ จากที่ในปี 2565 ธนาคารได้เคยมีการออกกรีนบอนด์ไปแล้ว 2 รุ่น วงเงินรวม 5 พันล้านบาท
“การทำงานในปีนี้มีความยากที่ต้องเลือกสินเชื่อให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งเราก็ได้พิจารณาไว้หลายกลุ่ม อาทิ พลังงานสะอาด และ Future food เป็นต้น ส่วนแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. 2566 ธนาคารจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรก ที่ 0.25% ต่อปี และหลังจากนั้นคาดว่าจะปรับขึ้นอีกครั้งในช่วงกลางปี 2566 โดยจะปรับขึ้นครั้งละ 0.25% ต่อปี ส่วนแนวโน้มเงินบาทที่แข็งค่าในขณะนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากสินทรัพย์ในประเทศมีราคาดี หลังจากการปรับขึ้นดอกเบี้ย จึงทำให้มีเม็ดเงินต่างชาติทยอยไหลเข้ามา ดังนั้นผู้ประกอบการควรอาศัยจังหวะนี้ในการนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศมาสต็อกไว้ ซึ่งคาดว่าภายในช่วงไตรมาส 1/2566 เงินบาทน่าจะยังแข็งค่าที่ระดับ 32-34 บาทต่อดอลล่าร์ ซึ่งจะทำให้การนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศได้ในราคาที่ถูก จะช่วยลดต้นทุนให้กับผู้ประกอบการ” นายรักษ์ กล่าว
นายรักษ์ กล่าวอีกว่า ในปี 2566 ประเมินว่าแนวโน้มเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวลง โดยธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) และEconomist Intelligence Unit (EIU)คาดว่าเศรษฐกิจโลกในปีนี้จะขยายตัว 2% ต่ำสุดในรอบ 30 ปี ขณะที่คาดว่าภาพรวมการส่งออกของไทยในปีนี้จะขยายตัวได้ดีที่สุดที่ 2% จาก 5.5% ในปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับการส่งออกของประเทศส่วนใหญ่ในภูมิภาค อาทิ จีน เกาหลีใต้ ซึ่งการจะเติบโตได้ที่ระดับดังกล่าว มองว่า ไทยไม่ควรส่งออกไปสหรัฐฯ และอียู แต่ควรต้องหาตลาดส่งออกใหม่ ๆ ที่มีอัตราการเติบโตได้อย่างน้อย 7% ขึ้นไป เช่น กลุ่มประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลาง เอเชียใต้ และอาเซียน ซึ่งยังมีแนวโน้มเศรษฐกิจขยายตัวได้อย่างแข็งแกร่ง
สำหรับผลการดำเนินงานของเอ็กซิมแบงก์ ในปี 2565 นั้น มียอดคงค้างสินเชื่อที่ 1.68 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.55 หมื่นล้านบาท หรือ 10.18% จากปีก่อน เติบโตสองหลักต่อเนื่อง 2 ปี และสูงสุดตั้งแต่ดำเนินงานในปี 2537 โดยอัตราการเติบโตดังกล่าวสูงกว่าระบบธนาคารถึง 2 เท่า ขณะที่วงเงินอนุมัติสินเชื่อใหม่อยู่ที่ 9.44 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.21% จากปีก่อน ส่วนยอดคงค้างสินเชื่อที่สนับสนุนความยั่งยืน อยู่ที่ 4.76 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.83% ปริมาณธุรกิจสะสมบริการประกัน อยู่ที่ 1.69 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.34% จำนวนลูกค้าทั้งด้านสินเชื่อและรับประกัน 6.1 พันราย เพิ่มขึ้น 24% จากปีก่อน
โดยธนาคารได้ช่วยเหลือทั้งด้านการเงินและไม่ใช่การเงินแก่ผู้ประกอบการกว่า 2.1 หมื่นราย วงเงินรวม 9 หมื่นล้านบาท ขณะที่ NPL อยู่ในระดับต่ำเพียง 2.90% เป็นอัตราที่ต่ำกว่าเป้าหมายและต่ำกว่าธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ต่อเนื่อง 2 ปี และมีค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (Expected Credit Loss) จำนวน 1.28 หมื่นล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Coverage Ratio) ที่ 269.99% และธนาคารมีกำไรสุทธิ ที่ 1.5 พันล้านบาท
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'เอ็กซิมแบงก์' โชว์ปล่อยกู้ทุบสถิติ
“เอ็กซิมแบงก์” อวดผลงานปี 66 ปล่อยสินเชื่อใหม่พุ่ง 7 หมื่นล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ โกยกำไร456 ล้านบาท ปี 67ปักธงภารกิจพัฒนาเครื่องมือทางการเงิน เดินหน้า Green Development Bank
'วัชระ 'จี้ 'เศรษฐา' ทวงหนี้ 'ทักษิณ' ตามคำพิพากษาคดีเอ็กซิมแบงก์ 4,000 ล้าน
นายวัชระ เพชรทอง อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่าได้ส่งหนังสือถึงนายเศรษฐา ทวีสิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เรื่อง ขอทราบผลการปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
EXIM BANK แกร่ง ฟิทช์ คงอันดับเรทติ้งส์ในประเทศที่ AAA
EXIM BANK โชว์สถานะทางการเงินแข็งแกร่ง คงอันดับเครดิตภายในประเทศระดับ AAA(tha) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 18 และคงอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวที่ ‘BBB+’ เท่ากับประเทศไทย ต่อเนื่องเป็นปีที่ 11