อั้นไม่อยู่! “เอ็กซิมแบงก์” ประกาศขยับขึ้นอัตราดอกเบี้ย Prime Rate 0.25% ต่อปี จาก 5.75% ต่อปี เป็น 6.00% ต่อปี มีผลตั้งแต่ 1 ก.พ. 2566 พร้อมอัดมาตรการช่วยเหลือ-โปรโมชั่นพิเศษเพื่อบรรเทาผลกระทบด้านภาระดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการ
26 ม.ค. 2566 – นายรักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) หรือเอ็กซิมแบงก์ เปิดเผยว่า ธนาคารได้ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย Prime Rate 0.25% ต่อปี จาก 5.75% ต่อปี เป็น 6.00% ต่อปี ซึ่งยังคงเป็นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดีที่ต่ำที่สุดในระบบ โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. 2566 เป็นต้นไป
ซึ่งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว เพื่อให้การดำเนินงานของเอ็กซิมแบงก์ สอดคล้องกับทิศทางของเศรษฐกิจและแนวโน้มเงินเฟ้อ และเพื่อสนับสนุนการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งจะช่วยให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยเป็นไปอย่างมีเสถียรภาพ
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เมื่อวันที่ 25 ม.ค. ที่ผ่านมา มีมติเอกฉันท์ให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.25% ต่อปี จาก 1.25% ต่อปี เป็น 1.50% ต่อปี โดยก่อนหน้านี้ธนาคารจะได้มีการตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ Prime Rate ไว้ในอัตราที่ต่ำที่สุดในระบบมาเป็นเวลากว่า 3 ปี แม้ กนง. จะทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นจำนวน 4 ครั้ง รวม 1% ต่อปี ตั้งแต่เดือน ส.ค. 2565 จนถึงปัจจุบัน เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการปรับตัวรับกับแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น
อย่างไรก็ดี เอ็กซิมแบงก์ยังมีมาตรการช่วยเหลือและโปรโมชันพิเศษอย่างต่อเนื่อง เพื่อบรรเทาผลกระทบด้านภาระดอกเบี้ยเงินกู้ของผู้ประกอบการ และเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการโดยเฉพาะคนตัวเล็กในกลุ่มเศรษฐกิจฐานรากและเอสเอ็มอีให้สามารถปรับตัวกับภาวะอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นและเติบโตในตลาดการค้าโลกได้อย่างยั่งยืนท่ามกลางปัจจัยท้าทายของเศรษฐกิจโลกที่ยังคงมีความไม่แน่นอนสูง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวดี กรุงไทย ประกาศลดดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 0.25%
ธนาคารกรุงไทย ขานรับมาตรการภาครัฐ ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ MOR MLR และ MRR พร้อมต่ออายุมาตรการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง
เกษตรกรเฮ! ธ.ก.ส. ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ สูงสุด 0.25%
ธ.ก.ส. ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ สูงสุดร้อยละ 0.25 พร้อมตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก ส่งเสริมวินัยการออม
SCB EIC คาด กนง. จะเริ่มลดดอกเบี้ยในไตรมาส 4
กนง. มีมติไม่เป็นเอกฉันท์ 6 ต่อ 1 เสียงให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.50% โดย 1 เสียง เห็นควรให้ลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% เช่นเดียวกับการประชุมครั้งที่แล้ว โดยเศรษฐกิจไทยในภาพรวมขยายตัวสอดคล้องกับที่ กนง. ประเมินไว้