ศูนย์ข้อมูลอสังหาชี้พิษดอกเบี้ยขาขึ้นกระทบเชื่อมั่น

REIC แจงดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ไตรมาส 4/65 แผ่ว ชี้พิษดอกเบี้ยขาขึ้นทุบความเชื่อมั่นด้านผลประกอบการ ยอดขาย การจ้างงานและการเปิดโครงการใหม่/เฟสใหม่ พร้อมประเมินความเชื่อมั่น 6 เดือนข้างหน้ายังเป็นบวกหนุนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

12 ม.ค. 2566 – นายวิชัย วิรัตกพันธ์ รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า ภาพรวมดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ-ปริมณฑลในภาวะปัจจุบัน ในไตรมาส 4/2565 มีค่าดัชนีเท่ากับ 51.5 ลดลงเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนหน้า สะท้อนให้เห็นว่าผู้ประกอบการในภาพรวมยังคงมีความเชื่อมั่นต่อธุรกิจในภาวะปัจจุบัน

ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาที่มาของการลดลงพบว่า มีความเชื่อมั่นในด้านผลประกอบการ ยอดขาย การจ้างงาน และการเปิดโครงการใหม่และ/หรือเฟสใหม่ ที่ลดลงระหว่าง -1.7 ถึง -2.3 หน่วย ซึ่งอาจเป็นผลมาจากทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้นในประเทศ โดยช่วงไตรมาส 4/2565 มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในช่วงเวลาใกล้เคียง แต่ความเชื่อมั่นในด้านการลงทุนและต้นทุนผลประกอบการที่ปรับเพิ่มขึ้นจากระดับถึง 1.8 และ 4.4 หน่วย ตามลำดับ ซึ่งสะท้อนว่า ผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ – ปริมณฑลยังคงมีความมั่นใจในการลงทุนในการพัฒนาที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่องในปี 2566

เมื่อจำแนกความเชื่อมั่นตามกลุ่มผู้ประกอบการฯ พบว่า ความเชื่อมั่นในภาวะปัจจุบันของผู้ประกอบการกลุ่ม Listed Companies มีค่าดัชนีเท่ากับ 55.2 ต่ำกว่าไตรมาสก่อนหน้า เป็นผลจากความเชื่อมั่นในด้านผลประกอบการ ยอดขาย การจ้างงาน และการเปิดโครงการใหม่และ/หรือเฟสใหม่ แต่ยังคงสูงกว่าค่ากลางที่ระดับ 50.0 แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการกลุ่ม Listed Companies มีความเชื่อมั่นต่อธุรกิจในภาวะปัจจุบัน

ขณะที่ผู้ประกอบการกลุ่ม Non-listed Companies มีค่าดัชนีความเชื่อมั่นเท่ากับ 46.0 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า และเป็นการเพิ่มขึ้นของความเชื่อมั่นในทุกด้าน แม้ว่าจะยังคงต่ำกว่าค่ากลางที่ระดับ 50.0 แต่แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการรายย่อยกลุ่ม Non-listed Companies ยังมีความกังวลต่อปัจจัยลบดังกล่าวมากกว่ากลุ่ม Listed Companies แต่เริ่มคลายความกังวลลงบ้าง
สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ – ปริมณฑล ในภาพรวมอีก 6 เดือนข้างหน้า (Expectations Index) มีค่าเท่ากับ 60.5 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า สะท้อนให้เห็นว่าผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่นในมุมมองเชิงบวกต่อสถานการณ์ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น แต่เมื่อพิจารณาถึงความเชื่อมั่นในแต่ละด้านพบว่า ความเชื่อมั่นได้เพิ่มขึ้นในด้านการลงทุน การจ้างงาน ต้นทุนการประกอบการ และการเปิดโครงการใหม่และ/หรือเฟสใหม่ ที่เพิ่มขึ้นระหว่าง 2.4 ถึง 4.9 เนื่องจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในภาพรวม ที่ได้รับผลจาการขยายตัวของภาคการท่องเที่ยว ซึ่งจะได้รับปัจจัยสนับสนุนสำคัญจากการเปิดประเทศของจีนตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค.2566

ขณะที่ด้านผลประกอบการ และยอดขาย ลดลงจากไตรมาสก่อน -2.1 และ -3.0 หน่วยตามลำดับ เนื่องจากการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.ป ได้ประกาศไม่ต่ออายุการผ่อนคลายมาตรการ LTV ที่ได้สิ้นสุดไปเมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 2565 และการที่จะมีการลดค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์จาก 2% เหลือ 1% ซึ่งเคยลดให้ถึง 0.01% ในช่วงปี 2563 – 2564

ทั้งนี้ เมื่อจำแนกกลุ่มผู้ประกอบการตามประเภทบริษัท พบว่า กลุ่ม Listed Companies มีค่าดัชนีความเชื่อมั่นในอีก 6 เดือนข้างหน้าเท่ากับ 61.2 ลดลงเล็กน้อยจากไตรมาสก่อน แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการยังคงมีความเชื่อมั่นต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ แต่มีเพียงด้านผลประกอบการ และยอดขาย ที่น้อยกว่าไตรมาสก่อนหน้าอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่ผู้ประกอบการกลุ่ม Non-listed Companies มีค่าดัชนีเท่ากับ 59.3 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการกลุ่ม Non-listed Companies เริ่มมีความเชื่อมั่นความเพิ่มขึ้นจากปัจจัยบวกต่าง ๆ ดังกล่าว โดยเฉพาะความเชื่อมั่นในด้านผลประกอบการ ยอดขาย การลงทุน การเปิดโครงการใหม่และ/หรือเฟสใหม่

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ธอส.' ปล่อยกู้คนอยากมีบ้านดอกเบี้ยถูก 1.90%

ธอส. จัดทำ 6 ผลิตภัณฑ์สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ เอาใจคนอยากมีบ้านเป็นของตนเองเริ่มต้นเพียง 1.90% ต่อปี กู้ 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเงินงวด 3,000 บาท เท่านั้น!!

ธอส. ยืนยันให้ความช่วยเหลือลูกค้าประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) พร้อมให้ความช่วยเหลือลูกค้าในพื้นที่ภาคเหนือที่ประสบอุทกภัย ผ่าน 7 มาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ ปี 2567