สนค. วิเคราะห์จีนผ่อนคลายมาตรการ Zero-COVID ชี้สัญญาณดีต่อภาคการส่งออกของไทย

10 ม.ค. 2566 – นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า(สนค.) เปิดเผยว่า สนค.ได้วิเคราะห์การผ่อนคลายมาตรการ Zero-COVID และการเปิดประเทศของจีนตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค.2566 พบว่า มีสัญญาณที่ดีต่อการส่งออกสินค้าไทยไปยังจีน และตลาดจีนจะกลับมาเป็นบวกได้เพิ่มขึ้น จากการที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจภายในจีนที่กลับมาดำเนินการใกล้เข้าสู่ระดับปกติและด้วยประชากรจีนที่มีจำนวนมาก เมื่อการบริโภคและการผลิตฟื้นตัว จะผลักดันการนำเข้าสินค้าเพิ่มขึ้น จากความต้องการที่อั้นไว้ในช่วงล็อกดาวน์ ประกอบกับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ภายใต้กรอบเขตการค้าเสรีอาเซียน-จีน และความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ทำให้จีนนำเข้าสินค้าจากไทยในราคาถูก จึงส่งผลดีต่อการส่งออกสินค้าไทยที่จะขยายตัวได้ดีขึ้น

ทั้งนี้ สินค้าที่มีแนวโน้มฟื้นตัวดี เช่น ผลไม้ จะผ่านด่านทางบกได้อย่างสะดวกขึ้น และปัจจุบันจีนมีความพร้อมในการตรวจสอบ กักกันผลไม้นำเข้า ของด่านรถไฟโม่ฮาน ที่จะช่วยให้ต้นทุนผู้ส่งออกต่ำลง รวมทั้งสินค้าอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าแฟชัน ที่เติบโตตามการเปิดเมือง ก็จะกลับมา ในขณะที่สินค้าเกี่ยวกับการแพทย์และสินค้าสำหรับป้องกันรักษาโรค ก็จะได้อานิสงส์จากการติดเชื้อโควิด-9 ที่จะเพิ่มขึ้นในจีนเช่นเดียวกันอย่างไรก็ตาม ยังต้องจับตา หากมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 และจีนอาจจะกลับไปล็อกดาวน์อีกครั้ง ก็จะมีผลกระทบต่อการส่งออกของไทย เช่น ทุเรียน มันสำปะหลัง ไม้ยางพารา และเคมีภัณฑ์เนื่องจากพึ่งพาตลาดจีนเป็นอย่างมาก โดยมีส่วนแบ่งในตลาดจีนมากกว่า 90% ดังนั้น ในระยะกลาง ผู้ประกอบการที่พึ่งพาตลาดจีนเป็นหลัก อาจจะได้รับผลกระทบ หากจีนเลือกนำเข้าสินค้าเหล่านี้จากคู่แข่งหรือผลิตเองทดแทนตามนโยบายพึ่งพาตนเอง ที่อยู่ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติของจีนฉบับที่ 14 (ปี 2564–2568) จึงควรวางแผนกระจายความเสี่ยงไปยังตลาดศักยภาพอื่น ๆ ให้มากขึ้น รวมทั้งสร้างความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ตลอดจนการวางแผนทางการเงินที่รัดกุม เพื่อรับมือความเสี่ยงของตลาดจีนที่อาจจะยังไม่ฟื้นตัวอย่างเต็มที่

ส่วนในปี 2565 เศรษฐกิจจีนฟื้นตัวในระดับต่ำกว่าที่ควรจะเป็น โดยมีปัจจัยหลักมาจากการดำเนินนโยบาย Zero-COVID สวนทางประเทศอื่นที่ใช้มาตรการผ่อนคลาย มีการคุมเข้มการตรวจสอบการปนเปื้อนในสินค้าและคนที่ผ่านเข้าจีน ส่งผลให้การผลิต การค้าชะงักงัน มีนโยบายพึ่งพาตนเอง ทำให้ลดการนำเข้า แต่ยังค้าขายกับต่างประเทศอยู่ มีปัญหาขาดสภาพคล่องและผิดนัดชำระหนี้ของภาคอสังหาริมทรัพย์ กระทบต่อภาคการก่อสร้าง มีปัญหาความตรึงเครียดทางการค้ากับสหรัฐฯ โดยเฉพาะสินค้าเทคโนโลยี แต่การปรับลดมาตรการคุมโควิด-19 และการเปิดประเทศ ทำให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตปกติ กิจกรรมทางเศรษฐกิจจะกลับมา ส่งผลให้การบริโภค การท่องเที่ยว การลงทุนฟื้นตัว โดยยังต้องจับตา หากมีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตมาก ระบบสาธารณสุขของจีนรับไม่ไหวจนต้องกลับไปล็อกดาวน์ ก็จะทำให้เงินเฟ้อกลับมาเร่งตัวสูงขึ้น กดดันให้จีนใช้นโยบายการเงินที่ตึงตัวมากขึ้น จะกระทบต่อหนี้สินภาคอสังหาริมทรัพย์ และภาคครัวเรือน

ขณะที่ปัจจุบันจีนเป็นตลาดหลักที่มีความสำคัญต่อการค้าระหว่างประเทศของไทย เป็นตลาดส่งออกอันดับที่ 2 มีสัดส่วน 12% ของการส่งออกรวม รองจากสหรัฐฯ โดยเป็นตลาดส่งออกหลักของผลไม้ และเป็นแหล่งส่งออกสินค้าขั้นกลาง เช่น ส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนอุปกรณ์ยานยนต์ และเป็นแหล่งนำเข้าอันดับ 1 สัดส่วน 23.3% ของการนำเข้ารวม โดยส่วนใหญ่ไทยนำเข้าเครื่องจักรไฟฟ้าเคมีภัณฑ์ และเครื่องจักรกล ซึ่งในช่วง 11 เดือนของปี 2565 (ม.ค.-พ.ย.) มูลค่าการค้าไทยกับจีน ขยายตัวเพียง 3.1% โดยการส่งออก ลด 6.5% เป็นการหดตัวในรอบ 3 ปี แต่การนำเข้า เพิ่ม 8.6% สินค้าส่งออกที่หดตัว ได้แก่ ผลไม้สดแช่เย็นแช่แข็งและแห้ง เม็ดพลาสติก เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ ยางพารา เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ รถยนต์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ เป็นต้น

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

พาณิชย์โชว์ส่งออกเดือนพ.ย.โต 7.1%

พาณิชย์ปลื้มส่งออกเดือน พ.ย.68โต 7.1% มูลค่า 27,445.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวต่อเนื่อง 17 เดือนติด รวม 11 เดือน มูลค่า 310,706.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่ม 12.6% ทำสถิตินิวไฮ  คาดเดือน ธ.ค. หากทำได้ 2.5 หมื่นดอลลาร์สหรัฐ ทั้งปีโต 11.6% คาดทั้งปีโต 12.1% ส่วนปี 69 ประเมินขยายตัวติดลบ 3.1% ถึงบวก 1.1%

‘เอ็กซิมแบงก์’กางแผนงานปี69 ปั้มSMEภาคส่งออกเพิ่ม2พันราย

‘เอ็กซิมแบงก์’ ปักธงปี 69 ปั๊มลูกค้าเอสเอ็มอีภาคส่งออกเพิ่ม 2 พันราย ผ่าน 4 แนวทางบูมเต็มสูบ ชูธง Export Co-pilot ยกระดับชีดความสามารถการแข่งขันผู้ประกอบการให้เติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน ผ่านเครื่องมือการเงินและการบริหารความเสี่ยง พร้อมคาดส่งออกไทยปี 68 โต 10% ส่วนปี 69 เหลือ 0-2%

เอกฉันท์!‘กนง.’ลดดอกเบี้ย0.25% คงจีดีพีปี68ที่2.2%ครึ่งปีหลังชะลอ

เอกฉันท์! ‘กนง.’ มีมติลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ต่อปี จาก 1.50% ต่อปี เป็น 1.25% ต่อปี โดยให้มีผลทันที พร้อมคงจีดีพีปี 68 ไว้ที่ 2.2% แต่ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจปี 69 เหลือ 1.5% ส่วนปี 70 ที่ 2.3%

‘ศุลกากร’ยันส่งออกน้ำมันไปลาวไม่ได้พุ่งจนผิดสังเกต

‘ศุลกากร’ แจงข้อมูลส่งออกน้ำมันไป สปป.ลาว ตรงกันทุกหน่วยงาน ยืนยันหลังตรวจสอบทุกด่านพบปริมาณไม่ได้เพิ่มขึ้นจนผิดสังเกต ย้ำชัดไทยงดส่งออกน้ำมันไปกัมพูชาแล้ว 100% ตั้งแต่ ก.ค. 2568 พร้อมขอความร่วมมือคู่ค้าไทยงดส่งต่อน้ำมันไปประเทศที่สาม

‘พลังงาน’ สั่งเข้ม! ตรวจสอบส่งออกน้ำมัน สกัดลักลอบส่งน้ำมันไปกัมพูชา

"พลังงาน" สั่งเข้ม! ตรวจสอบปริมาณการส่งออกน้ำมัน ทั้งทางบก-ทางเรือ พร้อมร่วมมือกองทัพเต็มที่ สกัดลักลอบส่งน้ำมันเข้ากัมพูชา