9 ม.ค. 2566 – ในช่วงระหว่างที่มีการแพร่ระบาดโควิด-19 ต้องยอมรับว่าธุรกิจร้านอาหารก็ได้รับผลกระทบไม่แตกต่างจากส่วนอื่น โดยผู้ประกอบการมีการเร่งปรับตัวกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้อยู่รอดท่ามกลางวิกฤต ไม่ว่าจะเป็นร้านขนาดเล็กหรือใหญ่ ต่างก็หันมาขยายช่องทางการจำหน่ายผ่านช่องทางเดลิเวอรี่มากขึ้น ส่งผลให้หลายๆ ค่ายมียอดขายเติบโตอย่างก้าวกระโดด
หลังจากสภาวะการณ์เริ่มกลับเข้าสู่ปกติ ผู้คนเริ่มมีการเดินทางข้ามประเทศกันมากขึ้น ทำให้เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว แม้จะยังมีปัจจัยลบอีกมาก แต่ก็เป็นช่วงที่ร้านอาหารได้กลับมาสร้างยอดขายอีกครั้ง โดยเฉพาะหน้าร้านที่ต้องบอกว่าจากมารตรการช่วงการแพร่ระบาดโควิด ทำให้การเข้ามารับประทานอาหารในร้านอาหารค่อนข้างเงียบเหงา โดย “โออิชิ” นับเป็นแบรนด์ใหญ่ที่พัฒนารูปแบบของธุรกิจช่วงโควิดค่อนข้างตอบโจทย์กับสถานการณ์ ซึ่งแน่นอนว่าความเป็นญี่ปุ่นยังคงได้รับความนิยมจากผู้บริโภคนไทย และเติบโตอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากหลังจากที่ประเทศญี่ปุ่นผ่อนคลายมาตรการเดินทางเข้าประเทศ คนไทยก็เดินทางไปญี่ปุ่นกันจำนวนมาก
นางนงนุช บูรณะเศรษฐกุล กรรมการผู้จัดการ บมจ. โออิชิ กรุ๊ป (OISHI) เปิดเผยว่า ในปัจจุบันแนวโน้มอาหารญี่ปุ่นยังมีการเติบโตดีอยู่ แต่อาจจะไม่เติบโตเหมือนเดิมหลังจากมีการแพร่ระบาดโควิด แน่นอนว่าในช่วงที่ผ่านมานั้นมีบางรายต้องปิดตัวลงไป และผู้ประกอบการที่แข็งแกร่งก็จะยังสามารถดำเนินธุรกิจได้อยู่ ขณะเดียวกันอาหารญี่ปุ่นเป็นท็อป 5 ในเรื่องของอาหารสุขภาพ ซึ่งก็สอดคล้องกับเทรนด์ผู้บริโภคของโลกที่ให้ความสำคัญเรื่องสุขภาพ
ในฐานะผู้นำและสร้างสรรค์ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มสไตล์ญี่ปุ่น สำหรับธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่น บริษัทไม่เคยหยุดนิ่งที่จะนำเสนอนวัตกรรมใหม่ ๆ ด้วยการพัฒนาที่มีคุณภาพ และยกระดับมาตรฐานสินค้าและบริการให้ดีขึ้นมาโดยตลอด ล่าสุดเดินหน้าเปิดตัวรูปโฉมใหม่ “โออิชิ แกรนด์” บนพื้นที่ใหม่ โซน ฟู้ด พาสสาจ ชั้น 4 ศูนย์การค้าสยามพารากอน พร้อมยกระดับครั้งใหญ่ สู่การเป็นภัตตาคารบุฟเฟต์อาหารญี่ปุ่นเต็มรูปแบบ โดยชูจุดเด่นด้านคุณภาพสินค้าและอาหาร โดยวัตถุดิบจะถูกคัดเลือกมาอย่างดี นำเข้าสดและใหม่ จากตลาดปลาชั้นนำของญี่ปุ่น พร้อมอาหารญี่ปุ่นต้นตำรับ เมนูยอดนิยมต่าง ๆ ที่ครบครัน และหลากหลายกว่าที่เคย รวมแล้วกว่า 200 รายการ ครอบคลุมแทบทุกประเภทของอาหารญี่ปุ่น อาทิ ซูชิ ซาชิมิ ดงบุริ เทปปันยากิ ยากิโมโนะ อาเกะโมโนะ เป็นต้น โดยจะมีบริการแบบบุฟเฟต์ 3 ระดับราคา เพื่อตอบโจทย์ความคุ้มค่า คุ้มราคา และเพิ่มทางเลือกในการใช้บริการแก่ผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น
นางนงนุช กล่าวว่า สำหรับรูปโฉมใหม่ “โออิชิ แกรนด์” สาขาสยามพารากอน จะมาพร้อมกลยุทธ์สำคัญ คือ 1. มุ่งส่งมอบประสบการณ์อาหารญี่ปุ่นต้นตำรับ วัตถุดิบคุณภาพ สะอาด สดใหม่ ที่ครบครัน และหลากหลายกว่าที่เคย 2. ผสานการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาเป็นส่วนหนึ่งของการบริการอย่าง ระบบการสั่งอาหารอัตโนมัติผ่านคิวอาร์โค้ดด้วยแท็บเล็ต ณ จุดให้บริการภายในร้าน หรือโทรศัพท์มือถือส่วนตัว เป็นต้น 3. ประกอบกับการปรุงประกอบอาหารแบบจานต่อจาน (ในลักษณะ Made-to-Order) และ 4. มีส่วนช่วยลดการสูญเสียอาหาร (Food Loss) และขยะอาหาร (Food Waste) โดยเปล่าประโยชน์ รับเทรนด์การบริโภคอาหารแบบยั่งยืน
อย่างไรก็ดี โออิชิแกรนด์ได้เปิดให้บริการมาเป็นระยะเวลา 20 ปี และนับว่าเป็นยุคแรกๆ ที่มีร้านอาหารญี่ปุ่นในช่วงนั้น ซึ่งปัจจุบันพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ ต้องการความวาไร้ตี้ของอาหารมากกว่าในอดีต ทำให้โออิชิต้องเพิ่มเมนูที่หลากหลาย เพื่อเป็นทางเลือกแก่ผู้บริโภค ส่วนการขยายสาขาใหม่ของโออิชิแกรนด์นั้น อยากจะเปิดมากขึ้น แต่คงเน้นทำเลศักยภาพที่เหมาะสมกับแบรนด์มากกว่า