ภาคเอกชนภูเก็ต พังงา กระบี่ กังวล!! มาตรการรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีพิจารณาทบทวน
8 มกราคม 2566 ภาคเอกชนจังหวัดภูเก็ต พังงา กระบี่ ประกอบด้วย สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต สมาคมสปาเพื่อสุขภาพจังหวัดภูเก็ต สมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ สมาคมโรงแรมป่าตอง สมาคมโรงแรมหาดกะตะกะรน สมาคมผู้ประกอบการนำเที่ยวจังหวัดภูเก็ต สมาคมโรงแรมจังหวัดกระบี่ สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดพังงา สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดพังงา ลงนามร่วมกันเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2566 ถึงนายกรัฐมนตรี เรื่อง มาตรการการรับนักท่องเที่ยวต่างชาติและสำเนาถึงรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ) ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (นายยุทธศักดิ์ สุภสร)
สาระสำคัญ ดังนี้
จากการที่ประเทศจีนได้เปลี่ยนนโยบายควบคุมโควิด19 ทำให้ประเทศไทยได้ออกมาตรการในการรับนักท่องเที่ยวซึ่งทางรัฐบาลชูนโยบายยึดหลักเท่าเทียมทุกชาติไม่เลือกปฏิบัติ เป็นผลให้ทางกระทรวง
สาธารณสุขได้ออกแนวทางดังต่อไปนี้
1.ผู้เดินทางต้องรับวัคซีนโควิดอย่างน้อย 2 เข็ม
2. หากประเทศต้นทางมีเงื่อนไขผลตรวจ RT- PCR เป็นลบก่อนกลับ ต้องซื้อประกันสุขภาพที่ครอบคลุมการตรวจรักษาโรคโควิด 19
3. แนะนำให้ผู้เดินทางป้องกันตนเองตลอดระยะเวลาที่อยู่ในประเทศ เช่น สวมหน้ากากเมื่ออยู่ในพื้นที่สาธารณะ/ขนส่งสาธารณะ ล้างมือบ่อยๆ
4. หากมีอาการทางเดินหายใจ ให้ตรวจคัดกรองด้วย ATK และหากมีอาการป่วยรุนแรงขึ้นให้ไปตรวจรักษาที่สถานพยาบาล แนะนำให้พักในโรงแรม SHA+ สำหรับผู้ต้องการทำ RT-PCR ก่อนเดินทางกลับประเทศ
ทางภาคเอกชนเข้าใจถึงแนวทางที่ถูกกำหนดมาข้างต้นและความเป็นห่วงของรัฐบาล แต่อย่างไรก็ตามเอกชนมีความกังวลโดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อมาตรการที่ 1 ในการดำเนินการและกระบวนการตรวจสอบที่กำหนดให้ผู้เดินทางต้องรับวัคซีนอย่างน้อย 2 เข็ม เนื่องจากมาตรการนี้จะบังคับใช้กับผู้เดินทางทุกราย
ทางภาคเอกชนได้รับการติดต่อจากผู้ประกอบการท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมากที่แสดงความเป็นกังวลต่อมาตรการดังกล่าวซึ่งจะเป็นการเพิ่มความยุ่งยากในการเดินทาง ทำให้กลุ่มนักท่องเที่ยวหลักในปัจจุบันอาจตัดสินใจยกเลิกการเดินทางมาประเทศไทย และเลือกที่จะเดินทางไปจุดหมายปลายทางอื่น เนื่องจากขณะนี้ประเทศหลักที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย เช่น ประเทศในทวีปยุโรป รัสเซีย ออสเตรเลีย ได้ยกเลิกมาตรการโควิด19 ทั้งหมดแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นการยกระดับมาตรการดังกล่าวจักทำให้ประเทศต่าง ๆกังวลกับมาตรการที่ย้อนกลับของประเทศไทยที่จะบังคับใช้กับทุกประเทศ ซึ่งจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นต่อการท่องเที่ยวในภาพรวม
ทางภาคเอกชนจึงขอเสนอให้รัฐบาลปรับเปลี่ยนนโยบายจำกัดการบังคับวัคซีน 2 เข็มเฉพาะกับผู้เดินทางจากประเทศที่มีมาตรการบังคับทำ RT-PCR ก่อนกลับเข้าประเทศเท่านั้น (ดังเช่นในมาตรการ ข้อที่ 2) เนื่องจากประเทศที่ยังให้ตรวจ RT-PCR ก่อนเข้าประเทศอาจยังมีความกังวลเรื่องการระบาดที่ยังไม่จบในพื้นที่
ส่วนในประเทศที่ไม่มีมาตรการตรวจ RT-PCR ก่อนกลับเข้าประเทศขอให้งดเว้นการตรวจการฉีดวัคซีน 2 เข็ม เนื่องจากส่วนใหญ่ในประเทศที่ไม่มีมาตรการเหล่านั้น การระบาดของโรคได้ผ่านพ้นกลายเป็นโรคประจำถิ่นที่ไม่เฝ้าระวังแล้วอีกทั้งประชากรส่วนใหญ่ได้รับวัคซีนมากกว่า 2เข็มแล้ว
ขณะนี้การท่องเที่ยวของประเทศได้ฟื้นกว่าร้อยละ 70 เมื่อเทียบกับปี 2562 ซึ่งจะเป็นตัวจักรสำคัญในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจ เอกชนขอให้ท่านพิจารณาทบทวนมาตรการดังกล่าวเพื่อเร่งสร้างความเชื่อมั่นโดยเร็วที่สุด จักเป็นพระคุณยิ่ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ศรชล.ภาค 3' ปฏิบัติภารกิจด่วนช่วยลูกเรือปานามา ป่วยฉุกเฉินกลางทะเลอันดามัน
'ศรชล.ภาค 3' ปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลูกเรือสินค้าปานามา ป่วยฉุกเฉินกลางทะเลอันดามัน เร่งนำขึ้นฝั่งส่งตัวรักษาโรงพยาบาลภูเก็ต
แสงแรกของปีมะเส็งที่ 'เสม็ดนางชี'
แสงแรกของปี 2568 บนจุดชมวิวสุดปังฝั่งอันดามัน เสม็ดนางชีพังงา
'ทักษิณ' ยอมรับแล้ว! ดอดพบ 'อันวาร์' บนเรือยอชต์กลางทะเล
นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกระแสข่าวสะพัดขึ้นเรือยอชต์จาก จ.ภูเก็ต ไปเกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล เพื่อพูดคุยกับนายอันวาร์ อิบราฮิม