'ทิพานัน'เผยผลสำเร็จ พล.อ.ประยุทธ์แก้จนแบบพุ่งเป้าในระดับพื้นที่ปี 2565 กว่า 6.5 แสนครัวเรือน ยันรัฐบาลเดินหน้ามุ่งแก้จนทุกมิติอย่างเป็นรูปธรรมควบคู่พัฒนาเศรษฐกิจฐานราก
04 ม.ค.2565 - น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำและความยากจนของประชาชนใจทุกมิติ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น โดยมีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 347/2563 ลงวันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2563 เรื่อง จัดตั้งศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง หรือ ศจพ. เพื่อเป็นกลไกในการแก้ไขปัญหาความยากจน โดยใช้ข้อมูลคนจน 5 มิติจากระบบบริหารจัดการข้อมูลการพัฒนาคนจนแบบชี้เป้า ได้แก่ มิติด้านสุขภาพ มิติด้านความเป็นอยู่ มิติด้านการศึกษา มิติด้านรายได้ และมิติด้านการเข้าถึงบริการภาครัฐ เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างเบ็ดเสร็จและตรงกับกลุ่มเป้าหมาย
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ข้อมูลจากกรมพัฒนาชุมชน รายงานผลการขับเคลื่อนงานขจัดความยากจนในระดับพื้นที่ ในปี 2565 ที่ผ่านมา ได้ดำเนินการกับกลุ่มเป้าหมายในระบบ TPMAP ไปแล้วกว่า 653,524 ครัวเรือน ซึ่งเป็นคนจนใน 5 มิติ ได้มีการบูรณาการให้ความช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมายครบถ้วนแล้ว ถือเป็นความก้าวหน้าความสำเร็จในการแก้ไขปัญหาความยากจนของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ที่แก้ไขปัญหาความยากจนอย่างเป็นระบบ และมีความเข้มข้น นอกจากการให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาความยากจนแบบพุ่งเป้าแล้ว ยังมุ่งแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนที่เป็นปัญหาสั่งสมมาช้านานอย่างจริงจัง การจัด “มหกรรมร่วมใจแก้หนี้” สัญจรในภูมิภาคต่างๆ โดยจัดมาแล้ว 3 ครั้งในปีที่ผ่านมา คือครั้งที่ 1 วันที่ 4 - 6 พฤศจิกายน 2565 ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี กรุงเทพฯ ครั้งที่ 2 วันที่ 18 - 20 พฤศจิกายน 2565 ที่ จ.ขอนแก่น ครั้งที่ 3 วันที่ 16 - 18 ธันวาคม 2565 ที่ จ.เชียงใหม่ และเดินหน้าต่อในปีนี้จะจัดอีก 2 ครั้งคือ ครั้งที่ 4 วันที่ 20 - 22 มกราคม 2566 ที่ จ.ชลบุรี และครั้งที่ 5 วันที่ 27 - 24 มกราคม 2566 ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พร้อมกับ “มหกรรมร่วมใจแก้หนี้ออนไลน์”ที่เริ่มลงทะเบียนมาตั้งแต่วันที่ 26 กันยายน 2565 และลงทะเบียนได้จนถึงวันที่ 31 มกราคม 2566 ผ่านทาง www.bot.or.th/debtfair
รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมายังได้อนุมัติโครงการสินเชื่อแก้หนี้เพิ่มทุน เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่เข้าร่วมมหกรรมร่วมใจแก้หนี้ เพื่อให้มีสภาพคล่องทางการเงินในการดำรงชีวิต และลงทุนประกอบอาชีพ ผ่านมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ และมีหลักเกณฑ์ผ่อนปรนกว่าเกณฑ์ปกติ ของธนาคารออมสิน วงเงินโครงการรวมทั้งสิ้น 2,000 ล้านบาท โดยมีเป้าหมายช่วยเหลือพี่น้องประชาชนให้ได้ไม่น้อยกว่า 100,000 ราย เพื่อไม่ให้ประชาชนต้องไปกู้หนี้นอกระบบ
“จะเห็นได้ว่าพล.อ.ประยุทธ์มุ่งมั่นให้การแก้ไขปัญหาเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมด้วย จึงแก้ปัญหาแบบลงลึกถึงต้นตอ ทั้งต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำ โดยนอกจากการแก้ไขปัญหาความยากจนแบบพุ่งเป้า และแก้ปัญหาหนี้สินครัวเรือนแล้ว ยังหาแนวทางเพิ่มรายได้ เช่น แนวทาง Smart Farmer ให้กับเกษตรกร เพื่อให้มีความเข้มแข็ง พึ่งพาตนเองได้ ควบคู่ไปกับการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เพื่อกระจายความเจริญเติบโตทางด้านเศรษฐกิจทั้งในระดับพื้นที่ เชื่อมโยงภาพรวมของประเทศ เพื่อให้ประชาชนพ้นความยากจน”น.ส.ทิพานันกล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เช็กเลย! ของเล่นประเภทไหนบ้าง ผู้ปกครองอย่าซื้อให้เด็ก
'คารม' เตือนผู้ปกครอง ระวังอย่าซื้อของเล่นที่เป็นอันตรายกับเด็ก พร้อมแนะเลือกของเล่นที่ช่วยเสริมทักษะการเรียนรู้-พัฒนาการ-จินตนาการ และผู้ปกครองควรแนะวิธีการเล่นของเล่นอย่างถูกต้อง
รัฐบาลคิกออฟโครงการปลดหนี้เอสเอ็มอี
รัฐบาลเดินหน้าช่วย SMEs เต็มสูบ ประกาศคิกออฟโครงการ 'บสย. พร้อมค้ำ พร้อมช่วย' ชู 3 มาตรการปลดหนี้
แนะ 8 วิธีเที่ยวงานวันเด็กอย่างปลอดภัย
'อนุกูล' เผยรัฐบาลห่วงใยสุขภาพเด็ก ๆ แนะ 8 วิธีเที่ยวงานวันเด็กปลอดภัย กำชับผู้ปกครองดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด
รัฐบาลปลื้มนักท่องเที่ยวมาไทยเฉลี่ยวันละ 1 แสน
รัฐบาลเผยจบปีนักท่องเที่ยวทะลุเกิน 35.54 ล้าน เม็ดเงินทะลุสูงถึง 1.67 ล้านล้านบาท เผยเที่ยวไทยยังปังตั้งแต่1 ม.ค.มาไทยเฉลี่ยวันละ 1 แสนคน สร้างรายได้แล้วเพียง 7 วันกว่า 2.5 หมื่นล้าน
ข่าวดี! กรมชลฯ เปิดรับแรงงานเกษตรกร 8.4 หมื่นราย
กรมชลฯเปิดรับแรงงานเกษตรกร หารายได้เสริมกว่า 8.4 หมื่นคน ช่วยงานโครงการพระราชดำริและงานขุดลอกคูคลองต่างๆ ทั่วประเทศสนใจสมัครด่วนวันนี้
นายกฯอิ๊งค์เปิดงานวันเด็กที่กระทรวงศึกษาฯ
นายกฯ เตรียมเปิดงานวันเด็กกระทรวงศึกษาฯ จัดเต็มกิจกรรมสร้างความรู้ สนุกสนาน