ส่งออกไทยตก 6% ติดลบเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน

ส่งออกพ.ย.65 มีมูลค่า 22,308 ล้านเหรียญสหรัฐ ลด 6% ขยายตัวติดลบเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน แต่ยอดรวม 11 เดือน ยังขยายตัวได้ดี มีมูลค่า 265,349.1 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 7.6% คิดเป็นเงินบาท 9.167 ล้านล้านบาท โตเกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้แล้ว

28 ธ.ค. 2565 – นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกเดือนพ.ย.2565 มีมูลค่า 22,308 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 6% คิดเป็นเงินบาทมีมูลค่า 846,191 ล้านบาท ส่วนยอดรวม 11 เดือนของปี 2565 (ม.ค.-พ.ย.) มีมูลค่า 265,349.1 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 7.6% คิดเป็นเงินบาทมูลค่า 9,167,993 ล้านบาท ซึ่งถือว่าภาพรวมการส่งออกยังทำได้ดี เพราะปี 2565 กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าการส่งออกไว้ที่ 4% มูลค่าเป็นเงินบาทตั้งไว้ที่ 9 ล้านล้านบาท แต่ผ่านมาแค่ 11 เดือนทำได้แล้ว 9.168 ล้านล้านบาท เกินเป้าหมายไปแล้ว

สำหรับปัจจัยสำคัญที่ทำให้การส่งออกในเดือนพ.ย.2565 ขยายตัวติดลบ มาจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง โดยปี 2564 เพิ่ม 6% แต่ปีนี้จะเพิ่มแค่ 3.2% และปี 2566 จะเพิ่ม 2.7% ซึ่งมีผลกระทบต่อการส่งออกของไทย อัตราเงินเฟ้อที่ยังสูง และการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารประเทศต่าง ๆ จะมีผลไปถึงปี 2566 ทำให้ความต้องการบริโภคได้รับผลกระทบ และมีปัญหาภูมิรัฐศาสตร์สงครามรัสเซีย-ยูเครน และอื่น ๆ ที่ยังมีแนวโน้มไม่ยุติ ทำให้ต้นทุนการผลิตสูงจากพลังงาน อาหารสัตว์ และความต้องการบริโภคลดลงไปด้วย

ส่วนปัจจัยที่ยังช่วยสนับสนุนการส่งออก มาจากการดำเนินงานอย่างเข้มข้นของกระทรวงพาณิชย์ร่วมกับภาคเอกชน เช่น การลงนามขยายความร่วมมือด้านอีคอมเมิร์ซกับจีน ซึ่งเป็นช่องทางนวัตกรรมทางการตลาดที่มีผลให้ตัวเลขในจีนยังไปได้ การเร่งรัดการเปิดด่านรอบประเทศจาก 97 ด่าน เปิดได้แล้ว 72 ด่าน ข้อมูลจากองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) คาดการณ์ว่าปี 2565 โลกจะนำเข้าอาหารมากขึ้นประมาณ 10% ส่งผลต่อการขยายตัวด้านอาหารและการส่งออกของไทย การเติบโตของ 5G รวมทั้ง Digital Economy ช่วยให้ความต้องการสินค้าเทคโนโลยี เช่น สมาร์ทโฟนมีมากขึ้น และสถานการณ์การขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์เริ่มคลี่คลาย ทำให้ยานพาหนะ เครื่องใช้ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์กลับมาดีขึ้น

ทั้งนี้ การส่งออกในเดือนพ.ย.2565 สินค้าเกษตร ลด 4.5% สินค้าสำคัญที่ลด เช่น ยางพารา เพราะความต้องการใช้ถุงมือยางในจีนและมาเลเซียลดลง แต่มีสินค้าที่ขยายตัวได้ดี เช่น ไก่สดแช่เย็นแช่แข็งและแปรรูป ผลไม้สดแช่เย็นแช่แข็งและแห้ง โดยเฉพาะสับปะรด ทุเรียน ที่เติบโตได้ดี สินค้าอุตสาหกรรมเกษตร เพิ่ม 1% สินค้าสำคัญที่เพิ่ม เช่น น้ำตาลทราย ผลิตภัณฑ์ข้าวสาลีและอาหารสำเร็จรูปอื่น ๆ ไอศกรีม ที่ยังคงเป็นดาวรุ่ง บวก 30 เดือนติดต่อกัน เครื่องดื่ม และสินค้าอุตสาหกรรม ลด 5.1% แต่มีสินค้าที่ขยายตัวเพิ่ม เช่น เครื่องโทรสาร โทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ อุปกรณ์กึ่งตัวนำทรานซิสเตอร์และไดโอด รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ รถยนต์อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ และอัญมณีและเครื่องประดับ เป็นต้น

ทางด้านตลาดส่งออกสำคัญที่ขยายตัวได้ดี 10 ลำดับแรก ได้แก่ 1.อิรัก เพิ่ม 215.6% 2.บาห์เรน เพิ่ม 153.1% 3.ซาอุดิอาระเบีย เพิ่ม 40.1% 4.สหราชอาณาจักร เพิ่ม 22.2% 5.สปป.ลาว เพิ่ม 21.3% 6.เบลเยียม เพิ่ม 11.4% 7.เม็กซิโก เพิ่ม 10.5% 8.เมียนมา เพิ่ม 3.7% 9.สหรัฐฯ เพิ่ม 1.2% และ 10.อินเดีย เพิ่ม 0.7%

ส่วนการค้าชายแดนและผ่านแดนเดือนพ.ย.2565 การส่งออกมีมูลค่า 89,349 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.23% และ 11 เดือนของปี 2565 (ม.ค.-พ.ย.) มีมูลค่า 944,105 ล้านบาท ลดลง 0.51% และหากแยกเป็นการส่งออกชายแดนเดือน พ.ย.2565 มีมูลค่า 55,001 ล้านบาท เพิ่ม 7.04% รวม 11 เดือน มูลค่า 598,483 ล้านบาท เพิ่ม 16.32% และการค้าผ่านแดน มีมูลค่า 34,347 ล้านบาท ลดลง 4.64% รวม 11 เดือน มูลค่า 345,622 ล้านบาท ลดลง 20.44% เพราะหันไปส่งออกทางเรือและทางอากาศมากขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า การส่งออกในเดือนพ.ย.2565 ที่กลับมาติดลบ 6% เป็นการกลับมาติดลบเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน หลังจากที่เดือนต.ค.2565 ติดลบครั้งแรกในรอบ 20 เดือนนับจากก.พ.2564 ส่วนการนำเข้าพ.ย.2565 มีมูลค่า 23,650.3 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 5.6% ขาดดุลการค้า 1,342.3 ล้านเหรียญสหรัฐ รวม 11 เดือน นำเข้ามูลค่า 280,438 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 16.3% ขาดดุลการค้า 15,088.9 ล้านเหรียญสหรัฐ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'พาณิชย์' ชี้เป้าส่งออกอาหารเสริมเจาะตลาดสหรัฐฯ

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) ชี้เป้าส่งออกอาหารเสริมเจาะตลาดผู้บริโภคสหรัฐฯ เน้นกลุ่มคนรักสุขภาพ และคนออกกำลังกาย เน้นสินค้าที่ช่วยฟื้นฟูสุขภาพ ขายส่วนผสมจากสมุนไพรไทย มั่นใจมีโอกาสเติบโต

'ภูมิธรรม' รับลูก 'เศรษฐา' ดึงเจ้าสัวช่วยซื้อผลผลิตทางการเกษตรไปจำหน่าย

“ภูมิธรรม”รับลูก “เศรษฐา” ดึงเจ้าสัว ปตท. ซีพี ไทยเบฟ ห้าง ปั๊มน้ำมัน ช่วยซื้อผลผลิตทางการเกษตรไปจำหน่ายหรือนำไปทำตลาด เพื่อดูแลเกษตรกร 

ตั้ง“จ.อ.ยศสิงห์”เป็นผู้ช่วยเลขานุการ รมว.พาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่เลขานุการ รมช.สุชาติ ช่วยดูแลปากท้องประชาชน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่มีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคมที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติ/เห็นชอบแต่งตั้ง ข้าราชการและข้าราชการการเมืองหลายตำแหน่ง หลายกระทรวงนั้น

พาณิชย์ ยอมรับภาพรวมค่าบริการขนส่งสินค้าทางถนน ปรับเพิ่มสูงขึ้น

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ เผยว่า ภาพรวมดัชนีค่าบริการขนส่งสินค้าทางถนน ไตรมาสที่ 2 ปี 2567 ปรับตัวเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2566 หลังจากที่ชะลอตัวตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ปี 2566 และปรับตัวลดลงตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 ปี 2566