สนพ.เดินหน้าทำพีดีพีฉบับใหม่ชูระบบกักเก็บพลังงาน

สนพ.เผยไทยมีความมั่นคงด้านไฟฟ้า เดินหน้าทำพีดีพีฉบับใหม่ ชูระบบกักเก็บพลังงานเป็นหัวใจสำคัญ โชว์โมเดลสมาร์ทไมโครกริดบนดอยอินทนนท์ ที่ใช้แบตเตอรี่ลดความเสี่ยงไฟฟ้าขาดในพื้นที่ห่างไกล

26 ธ.ค. 2565 – นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่เยี่ยมชมโครงการระบบสมาร์ทไมโครกริดบ้านขุนกลาง บริเวณพื้นที่โรงไฟฟ้าบ้านขุนกลาง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ว่าประเทศไทยถือว่ามีความมั่นคงทางพลังงานอย่างมาก โดยเฉพาะด้านไฟฟ้า ทั้งนี้มาจากการดำเนินงานให้มีสำรองไฟฟ้าที่เพียงพอ รวมถึงการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาบริหารแหล่งไฟฟ้าในพื้นที่ชุมชนห่างไกล ผ่านการใช้ระบบกักเก็บพลังงาน ซึ่งปัจจุบัน สนพ. อยู่ระหว่างการจัดทำแผนพัฒนาการผลิตไฟฟ้าของประเทศฉบับใหม่ (PDP 2022) จึงจำเป็นที่จะต้องคำนึงถึงระบบกักเก็บพลังงานหรือแบตเตอรี่เป็นอันดับต้น ๆ
เนื่องจากจะช่วยเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานทดแทนให้ได้ตามแผนแล้ว ยังช่วยแก้ไขปัญหาความไม่เสถียรของพลังงานทดแทนอย่างลงตัวและช่วยส่งเสริมระบบไมโครกริด ซึ่งเป็นระบบไฟฟ้าขนาดเล็กที่รวมเอาระบบผลิตไฟฟ้า โหลดไฟฟ้า ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร รวมถึงระบบกักเก็บพลังงานและระบบควบคุมอัตโนมัติเข้าไว้ด้วยกัน โดยสามารถลดภาระในการบริหารจัดการไฟฟ้าและต้นทุนของระบบโครงข่ายไฟฟ้าหลัก ทำให้ระบบมีความมั่นคงขึ้น

“การส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนและระบบสมาร์ทกริด นอกจากนี้แบตเตอรี่ยังเป็นชิ้นส่วนสำคัญในการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า การใช้ไฟฟ้าในพื้นที่ห่างไกลหรือสร้างเสถียรภาพของพลังานทดแทนการใช้แบตเตอรี่ก็ถือเป็นหัวใจสำคัญ ซึ่งภาครัฐได้เตรียมการออกมาตรการส่งเสริมสนับสนุนและพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตแบตเตอรี่สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าและการใช้แบตเตอรี่ที่ผลิตในประเทศแล้ว”นายวัฒนพงษ์ กล่าว

โดยที่ผ่านมา สนพ.ได้ดำเนินการระบบไฟฟ้าชุมชนแบบอัจฉริยะขนาดเล็ก (สมาร์ทไมโครกริด) ที่ผสมผสานระหว่างไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงและไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน เข้าเก็บในแบตเตอรี่หรือระบบกักเก็บพลังงาน เพื่อรองรับกรณีระบบไฟฟ้าหลักขัดข้องในพื้นที่ห่างไกล ส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับประโยชน์และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โครงการดังกล่าว เป็นการดำเนินงานร่วมกันระหว่างการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ทั้งนี้หากในพื้นที่ดังกล่าวเกิดปัญหาไฟฟ้าจากสายส่งหลักมีปัญหาไม่สามารถส่งไฟได้ สมาร์ทไมโครกริดนี้จะดึงไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนมาช่วยเสริมในทันที แบบไม่มีหน่วงเวลา

นายวัฒนพงษ์ กล่าวว่าการติดตั้งระบบสมาร์ทไมโครกริดบ้านขุนกลาง พร้อมแบตเตอรี่ประเภท Li-Ion ขนาด 100 kW/150Kwh. สามารถช่วยแก้ปัญหาไฟฟ้าตกหรือดับในพื้นที่ได้อย่างน้อย 95% เป็นเวลานานกว่า 8 ชั่วโมงในแต่ละครั้ง โดยระบบสมาร์ทไมโครกริดนี้ มีระบบกักเก็บพลังงานหรือแบตเตอรี่ซึ่งเปรียบเสมือน Power Bank ที่ช่วยกักเก็บพลังงานที่ได้นำพลังงานไฟฟ้าจากพลังน้ำและแสงอาทิตย์มาสำรองไว้ใช้ในยามจำเป็น ลดความผันผวนของระบบไฟฟ้าภายในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี

“ปัจจุบันมีชุมชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ห่างไกลและเป็นถิ่นทุรกันดาร การคมนาคมไม่สะดวกและยากต่อการวางระบบสาธารณูปโภค ดังนั้น เพื่อเป็นการพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับชุมชนให้มีไฟฟ้าใช้อย่างเพียงพอ สนพ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงได้ร่วมกันดำเนินงานด้านสมาร์ทกริดของประเทศไทย มุ่งส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ และการจัดการทรัพยากรในระบบจำหน่ายไฟฟ้า และในพื้นที่โครงการหลวงดอยอินทนนท์ ในปัจจุบันมีการติดตั้งสายส่งไฟฟ้าจากพื้นราบแล้ว แต่ด้วยสภาพพื้นที่เป็นป่าเขาหากเกิดฝนตกหนักหรืออุทกภัยจะส่งผลกระทบต่อระบบสายส่งและเกิดไฟฟ้าดับเป็นเวลานานส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานต่างๆ ในโครงการหลวง รวมถึงการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชน”นายวัฒนพงษ์ กล่าว

เพิ่มเพื่อน