'แอร์เอเชีย' มั่นใจปี 66 ธุรกิจฟื้น ยอมรับขึ้นค่าตั๋ว 20% จากราคาน้ำมันแพง

“ไทยแอร์เอเชีย” ตั้งเป้าปี66 อุตสาหกรรมการบินฟื้นตัว ชี้จีนเป็นตัวแปรสำคัญ พร้อมห่วงต้นทุนน้ำมันพุ่ง ดันราคาตั๋วขึ้น 20% การันตีมีบุคลากร มีเพียงพอต่อการให้บริการ พร้อมรับนักท่องเที่ยวจีนเปิดประเทศ

21 ธ.ค. 2565 – นายสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย เปิดเผยได้คาดการณ์ปี 2566 อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเเละการบินฟื้นตัวเต็มที่ พร้อมให้บริการใกล้เคียงกับก่อนสถานการณ์โควิด-19 จากตลาดภายในประเทศที่เเข็งเเกร่ง และตลาดระหว่างประเทศที่กลับมา ซึ่งแอร์เอเชียพร้อมชิงความได้เปรียบด้วยจำนวนพนักงานและฝูงบินที่ใหญ่ที่สุด 53 ลำ แม้ประเทศจีนยังไม่เปิดน่านฟ้า แต่มีสัญญาณดีขึ้นต่อเนื่อง และน่าจะเริ่มพิจารณาผ่อนคลายมาตรการการท่องเที่ยวภายในไตรมาสแรกของปี 2566

นายสันติสุข กล่าวว่า อุตสาหกรรมการบินจะกลับมาคึกคัก สอดคล้องกับการประเมินตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย จากการท่องเที่ยวเเห่งประเทศไทย(ททท.) ที่คาดการณ์ว่าปี 2566 นักท่องเที่ยวจะอยู่ที่ 18-30 ล้านคน ส่วนแอร์เอเชียคาดในปี 2566 จะมีนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศรวมประมาณ 20 ล้านคน โดยตลาดประเทศจีนคือตัวเเปรสำคัญในการฟื้นตัวของตลาด ซึ่งคาดว่าภายในไตรมาสที่ 1/2566 รัฐบาลจีนน่าจะเริ่มผ่อนคลายมาตรการเข้าออกประเทศ รวมถึงพิจารณานโยบายจำกัดโควต้าเที่ยวบินเข้าประเทศ ซึ่งถือเป็นโอกาสสำคัญของการท่องเที่ยวไทยปัจจุบันแอร์เอเชียมีฝูงบินให้บริการ 43 ลำ จากทั้งหมด 53 ลำ ปัจจจุบันแอร์เอเชียมีส่วนแบ่งทางการตลาดเส้นทางบินภายในประเทศ อยู่ที่ 32% จึงทำให้กลับมาเป็นผู้นำตลาดได้เหมือนที่ผ่านมา

“นอกจากตลาดจีนที่เป็นเป้าหมายสำคัญเเล้ว ไทยแอร์เอเชียได้ปรับแผนกลยุทธ์ในการสร้างเสถียรภาพธุรกิจ โดยไม่พึ่งพาตลาดหนึ่งตลาดใด โดยปี 2565 ที่ผ่านมา สายการบินรุกหนักตลาดอินเดีย เอเชียใต้ และอาเซียน ซึ่งผลตอบรับที่ดีมาก รวมถึงตลาดประเทศญี่ปุ่น บินตรงดอนเมือง-ฟุกุโอกะ สำหรับปี 2566 เราก็วางเเผนเพิ่มเส้นทางบินใหม่ๆในตลาดที่มีศักยภาพต่อเนื่อง อาทิ ประเทศเนปาล ปากีสถาน หรือเมืองอื่นๆ ในประเทศอินเดีย ทำให้คาดการณ์ว่าจะสามารถกลับมาให้บริการเส้นทางระหว่างประเทศ ด้วยปริมาณที่นั่งไม่น้อยกว่า 90% เมื่อเทียบกับก่อนโควิด ทั้งนี้คาดว่าในปี 2566 สัดส่วนการให้บริการรวมจะกลับมาอยู่ที่ ในประเทศ 60% ต่างประเทศ 40% และบริษัทฯ จะกลับมาทำกำไรได้ในปี 2566 โดยมีจีนเป็นตัวแปรสำคัญ” นายสันติสุข กล่าว

นายสันติสุข กล่าวว่า ทั้งนี้ ตลอดปี 2565 สายการบินไทยแอร์เอเชีย สามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว ด้วยตลาดเส้นทางภายในประเทศที่เเข็งเเกร่ง จากการทำงานร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยอย่างใกล้ชิด ทั้งเเคมเปญเราเที่ยวด้วยกัน โครงการลดทั่วฟ้าบินทั่วไทย รวมทั้งแคมเปญในตลาดต่างประเทศต่างๆ ในขณะที่เส้นทางระหว่างประเทศ ก็ทยอยเปิดเส้นทางบิน พร้อมเปิดบินเส้นทางล่าสุด ดอนเมือง-ไทเป 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ โดย ณ สิ้นปี2565 ไทยแอร์เอเชียจะมีฝูงบิน 53 ลำตามเเผนที่วางไว้ และขนส่งผู้โดยสารรวม 10 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ที่ขนส่งผู้โดยสารเพียง 2.93 ล้านคน

นายสันติสุข กล่าวว่า ส่วนปัญหาเรื่องต้นทุนหลักที่สายการบินยังต้องเผชิญในปี 2566 นั้น หลักๆ ยังเป็นเรื่องของการแบกรับราคาน้ำมันที่ยังพุ่งสูงอย่างต่อเนื่อง แม้กรมสรรพสามิต ได้ออกมาตรการลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลแต่เรื่องราคาน้ำมัน ก็ยังคงเป็นต้นทุนหลักที่สายการบินต้องแบกรับอยู่ดี จึงเป็นผลให้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) อนุญาตให้สายการบิน ปรับขึ้นค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับราคาน้ำมันเชื้อเพลิง โดยได้มีการอนุญาต ไปตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคม ที่ผ่านมา ทางแอร์เอเชีย จึงได้มีการปรับราคาตั๋วโดยสารในช่วงไตรมาสที่4/2565 ขึ้นมาประมาณ 20% หรืออยู่ที่ประมาณ 200-250 บาทต่อเที่ยว ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขของ กพท.

“ส่วนเรื่องบุคลากร ในการให้บริการนั้น ยืนยันว่ามีเพียงพอต่อการให้บริการ แม้ในปี 2566 มีแผนนำเครื่องบินกลับมาบินครบ 53 ลำ ก็เพียงพอ ซึ่งปัจจุบันมีบุคลากร รวมทั้งหมด 4,500 คน แต่ในบางตำแหน่ง อาทิ กัปตัน อาจมีชั่วโมงในการทำงานลดลง เนื่องจากทางสายการบินยังกลับมาบินไม่ครบ ส่วนเรื่องการให้บริการภาคพื้นยังเป็นไปด้วยความเรียบร้อยไม่พบปัญหาแต่อย่างใด” นายสันติสุข กล่าว