'เพื่อไทย' หนุนความเห็น สภาอุตสาหกรรมฯ หยุดการขึ้นค่าไฟฟ้า

“เพื่อไทย” เห็นด้วย สภาอุตสาหกรรมฯ หยุดการขึ้นค่าไฟฟ้า ชี้ ความสามารถแข่งขันไทยจะลด เวียดนามหน่วย 2.88 บาท แนะ 4 แนวทางลดค่าไฟฟ้าในระยะสั้นและระยะยาว

18 ธ.ค. 2565 – นางสาวจุฑาพร เกตุราทร ว่าที่ผู้สมัคร สส. กทม. เขต บางรัก สาทร ปทุมวัน และ โฆษกคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลประกาศขึ้นราคาไฟฟ้าสำหรับธุรกิจและอุตสาหกรรมจากหน่วยละ 4.72 บาท เป็น หน่วยละ 5.69 บาท สร้างความเดือดร้อนให้กับภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมอย่างมาก จนสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยต้องออกเรียกร้องขอให้หยุดการขึ้นค่าไฟฟ้าไว้ก่อน เพราะภาคธุรกิจคงแบกกันไม่ไหว เนื่องจากตอนต้นปียังอยู่ที่หน่วยละ 3.70 บาทเลย หรือขึ้นราคาถึง 53% ซึ่งหนักมาก อีกทั้ง ประเทศเวียดนามที่เป็นประเทศคู่แข่งของไทยคิดค่าไฟฟ้าเพียงหน่วยละ 2.88 บาทเท่านั้น ซึ่งแตกต่างกันเกือบเท่าตัว นอกจากนี้การขึ้นค่าไฟฟ้าจะทำให้ต้นทุนการผลิตสินค้าสูงขึ้น ผู้ผลิตก็ต้องขึ้นราคาสินค้าทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้น และประชาชนจะยิ่งเดือดร้อนจากค่าครองชีพที่สูงอยู่แล้ว เหมือนซ้ำเติมความลำบาก

ดังนั้นหากรัฐบาลยังยืนยันจะขึ้นค่าไฟฟ้าในระดับนั้นจะทำให้การแข่งขันของไทยลดลง นักลงทุนต่างประเทศจะไม่มาลงทุนในประเทศไทย แต่จะหันไปลงทุนในประเทศเวียดนามหมด ซึ่งที่ผ่านมาก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว โดยล่าสุดความสามารถแข่งขันของประเทศไทยหล่นลงมาถึง 5 อันดับจากอันดับที่ 28 ลงมาอันดับที่ 33 ซึ่งย่ำแย่อยู่แล้ว ทั้งนี้การที่ประเทศไทยต้องขึ้นราคาไฟฟ้าในระดับสูง เกิดจากการบริหารพลังงานที่ผิดพลาดของรัฐบาลเอง ทำให้ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าพุ่งขึ้นสูงและต้องนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ที่มีราคาสูงเข้ามาใช้ในการผลิตไฟฟ้าเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะปัญหาการส่งมอบสัมปทานการขุดก๊าซในพื้นที่อ่าวไทย ปริมาณก๊าซจากเมียนมาร์ที่ลดลง อีกทั้งยังปล่อยให้มีการผลิตไฟฟ้าเกินความต้องการเป็นจำนวนมาก ทำให้ต้องจ่ายค่าความพร้อมสำหรับโรงงานไฟ้ฟ้าที่สร้างเกินความต้องการใช้เป็นจำนวนมากกว่า 50%

ดังนั้น จึงขอเสนอแนวทางในการแก้ไขราคาค่าไฟฟ้าดังนี้

1.อย่าเพิ่งขึ้นราคาไฟฟ้า ตรึงราคาค่าไฟฟ้าไปก่อน เพราะราคาพลังงานมีแนวโน้มที่จะลดจากภาวะเศรษฐกิจของโลกที่จะเข้าสู่ภาวะถดถอยในปีหน้า อีกทั้งหลังจากฤดูหนาว ความต้องการพลังงานจะลดลง ราคาพลังงานและราคาก๊าซธรรมชาติเหลวน่าจะลดลง

2.รัฐบาลต้องเข้าไปเจรจาหาข้อยุติในกรณีพิพาทเรื่องการส่งมอบสัมปทานในพื้นที่อ่าวไทย เพื่อให้การนำก๊าซขึ้นมาใช้ผลิตไฟฟ้าไม่หยุดชะงัก โดยราคาไฟฟ้าที่ผลิตจากก๊าซในอ่าวไทย และ จากก๊าซจากประเทศเมียนมาร์จะอยู่เพียงหน่วยละ 2-3 บาทเท่านั้น ในขณะที่เชื้อเพลิงจากแหล่งอื่นที่ต้องนำเข้าจะแพงกว่านี้มาก

3.เจรจาลดค่าความพร้อมของโรงไฟฟ้าที่สร้างเสร็จแล้วแต่ไม่ได้จ่ายไฟฟ้าเพราะมีกำลังผลิตเกินความต้องการมาก โดยปัจจุบัน รัฐบาลต้องจ่ายค่าความพร้อมถึงเดือนละ 8,000 ล้านบาท ปีละเป็นแสนล้านบาท ซึ่งสูงมากและต้องนำมารวมกับค่า FT ของราคาไฟฟ้า นอกจากนี้ยังจะมีโรงไฟฟ้าทึ่จะก่อสร้างเสร็จอีกหลายโรงซึ่งต้องจ่ายค่าความพร้อมนี้กันมากขึ้น

4.หยุดการให้ใบอนุญาตผลิตไฟฟ้าทุกชนิด จนกว่าความต้องการไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้น และสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าเกินความต้องการจะลดลง ทั้งนี้ในขณะที่การผลิตไฟฟ้ายังเกินความต้องการแต่รัฐบาลยังจะออกใบอนุญาติไฟฟ้าอีกกว่า 5,203 เมกกะวัตต์ แม้จะอ้างว่าเป็นไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน แต่ก็จะเพิ่มปริมาณไฟฟ้าที่ล้นเกินให้ล้นเกินมากขึ้น

5.เร่งเจรจาแหล่งพลังงาน ในพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทยและกัมพูชา เพื่อนำก๊าซธรรมชาติขึ้นมาใช้ในการผลิตไฟฟ้าได้ในราคาที่ถูกลงและจะทำให้ลดราคาค่าไฟฟ้าได้ อีกทั้งรัฐบาลจะได้รายได้เป็นจำนวนมากในการช่วยเหลือประชาชนกลุ่มเปราะบางทั้งผู้สูงอายุ และ ผู้มีรายได้น้อย จากค่าภาคหลวง และ ภาษีจากธุรกิจต่อเนื่องในด้านต่างๆอีกเป็นจำนวนมาก และ ยังช่วยเศรษฐกิจของประเทศไทยให้ขยายตัวเพิ่มขึ้นอีกมาก

ทั้ง 5 แนวทางนี้สามารถทำได้ทันที และจะทำให้ราคาพลังงานของประเทศไทยลดลง อีกทั้งไทยจะมีความมั่นคงทางพลังงาน รัฐบาลที่มีประสิทธิภาพจะต้องคำนึงผลกระทบของราคาพลังงานที่มีต่อเศรษฐกิจทั้งระบบ ไม่ใช่เฉพาะแค่ราคาพลังงาน ดังนั้นการดูแลราคาพลังงานให้อยู่ในราคาที่ต่ำสุดเพื่อช่วยเหลือประชาชนจึงเป็นเรื่องที่จำเป็น และหากพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล จะลดราคาน้ำมัน ราคาไฟฟ้า และ ราคาก๊าซหุงต้มทันที เพื่อช่วยเหลือลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน และจะเป็นการลดภาวะเงินเฟ้อเลยด้วย ขอให้ประชาชนมั่นใจได้

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

จับตา ส่อแตกหัก! เพลงกระบี่อำมหิตบรรเลงแล้ว 'เพื่อไทย' เดือด! กระซวกคืน 'ภูมิใจไทย'

นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย นักวิจารณ์การเมือง โพสต์ข้อความว่า เพลงกระบี่อำมหิตบรรเลงแล้วเพื่อไทยเดือดกระซวกคื

ยุ่งแล้ว! ‘สนธิญา’ ชี้ ‘ทักษิณ’ รับเองแกนนำพรรคร่วมหม่ำมาม่า เข้าทางร้องยุบ พท.

‘สนธิญา’ ชี้ ทักษิณรับเองแกนนำพรรคร่วมหม่ำมาม่า มัดตัวเข้าหายอมให้ครอบงำ ชี้นำเข้าทางคนร้องเรียนยุบพรรคเพื่อไทย เห็นใจนายกฯอิ๊งค์ ปัญหารุมเร้า เชื่อหาก แม้ว หยุดจ้อ-รัฐบาลพูดน้อย เน้นทำงานน่าจะดีกว่า  

‘เทพไท’ ตอกหน้าลิ่วล้อทักษิณ เมื่อทำเลวเหมือนเดิม ไม่แปลกคนค้านเป็นพวกเดิม

เมื่อสถานการณ์บ้านเมืองเป็นเช่นนี้ จำเป็นอยู่ดี คนที่ออกมาคัดค้านจะเป็นคนหน้าเดิมเป็นส่วนใหญ่ เมื่อคนพวกเดิมในระบอบทักษิณเข้ามาบริหารประเทศ

พฤศจิกายน ศาลรธน. รับคำร้องคดี ทักษิณ-พท. ล้มล้างการปกครองฯ

ความคืบหน้าคำร้องคดีสำคัญทางการเมือง กรณีที่ ธีรยุทธ สุวรรณเกษร ทนายความอิสระ ได้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยสั่งการให้นายทักษิณ ชินวัตร ผู้ถูกร้องที่ 1

จับตา 13 พ.ย. ศาลรธน.พิจารณาคำร้อง 'ทักษิณ-เพื่อไทย' ล้มล้างการปกครองฯ

นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ ว่าศาลรัฐธรรรมนูญจะประชุมในวันพุธที่ 13 พ.ย.นี้ คงต้องจับตาจะพิจารณาคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร หรือไม่