บอร์ดดีอี ประชุมส่งท้ายปี 65 เคาะแผนระดับชาติฯ ดันดิจิทัลเป็นหัวหอกหนุนไทยขึ้นท็อป 30 ในการจัดอันดับ World Digital Competitiveness Ranking
9 ธ.ค. 65 – พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (บอร์ดดีอี) ครั้งที่ 2/2565 โดยมี นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) พร้อมด้วยศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการฯ นายภุชพงค์ โนดไธสง เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ในฐานะผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมการฯ และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ เข้าร่วมประชุม ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล และผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมวันนี้ได้มีการพิจารณาให้ความเห็นชอบ (ร่าง) นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (พ.ศ.2561-2580)ฉบับปรับปรุง โดยมุ่งเน้นการออกแบบกรอบการดําเนินงานตามภูมิทัศน์ดิจิทัลของประเทศไทย ในระยะที่ 3 (พ.ศ.2566–2570) เพื่อให้สอดคล้องกับพลวัตทางเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดดและสถานการณ์เศรษฐกิจและสังคมของโลก และของประเทศไทยรวมทั้งแนวโน้มทิศทางการพัฒนาในอนาคต
สำหรับภูมิทัศน์ดิจิทัลของประเทศไทย ในระยะที่ 3 (Digital Thailand I I: Full Transformation) จะเป็นการขับเคลื่อนการพัฒนาดิจิทัลของประเทศไทย ต่อเนื่องจากระยะที่ 1 ที่มุ่งเรื่องการวางโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล (Digital Foundation) และระยะที่ 2 การทำให้ประชาชนเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียมกัน (Digital Thailand I : Inclusion)
โดยตั้งเป้าหมายความสำเร็จของกรอบการดำเนินงานฯ ในระยะที่ 3 ว่า ภายใน 5 ปี จะสร้างให้เกิดมูลค่าเพิ่มของเศรษฐกิจดิจิทัลมีสัดส่วนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (Digital Contribution to GDP) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 พร้อมทั้งยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศใน World Digital Competitiveness Ranking ขึ้นไปอยู่ใน 30 อันดับแรกของโลก หรือ อยู่ใน 3 อันดับแรกของอาเซียน ขณะที่สถานภาพการเข้าใจดิจิทัล (Digital Literacy: DL) ของประชาชนคนไทยมีคะแนนมากกว่า 75 คะแนน
“ในเรื่องนโยบายและแผนระดับชาติด้านการพัฒนาดิจิทัลฯ ของประเทศไทยอยากเน้นย้ำว่าควรให้ความสำคัญควบคู่กันไป ทั้งประโยชน์ต่อการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจของประเทศ จะมุ่งเพียงด้านเศรษฐกิจเป็นหลักอย่างเดียวไม่ได้ รวมถึงอยากแนะนำให้มีการประมวลผลเกี่ยวกับปัจจัยต่างๆ โดยทบทวนทุก 2 ปีเพื่อให้ทันการเปลี่ยนแปลง” พลเอก ประยุทธ์กล่าว
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า (ร่าง) นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (พ.ศ. 2561-2580) ฉบับปรับปรุง ที่นำเสนอที่ประชุมพิจารณาดังกล่าว ยังให้ความสำคัญกับการกําหนดภูมิทัศน์ดิจิทัล ครอบคลุมไปถึงระยะที่ 4 ที่ตั้งเป้าหมายให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศชั้นนำที่มีมีศักยภาพและความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลในระดับโลก (Global Digital Leadership) โดยภายในปี 2580 จะขยับมูลค่าเพิ่มของเศรษฐกิจดิจิทัลมีสัดส่วนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (Digital Contribution to GDP) ขี้นเป็นไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ขณะที่ ขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศใน World Digital Competitiveness Ranking อยู่ใน 20 อันดับแรกของโลก หรืออยู่ใน 2 อันดับแรกของอาเซียน และสถานภาพการเข้าใจดิจิทัล (Digital Literacy: DL) ของประชาชนคนไทย มีคะแนนมากกว่า 85 คะแนน
ทั้งนี้ ได้มีการกำหนดยุทธศาสตร์และแผนงานภายใต้ (ร่าง) นโยบายฯ ฉบับปรับปรุงใหม่ โดยมีหลักการนำทาง (Leading Principle) สำคัญ 3 เรื่อง ได้แก่ 1.มุ่งเน้นการขับเคลื่อนประเทศด้วยข้อมูล (Data Driven Nation) 2.มุ่งเน้นการสร้างภูมิคุ้มกันทางดิจิทัลรอบด้าน (Digital Resilience) และ 3.มุ่งเน้นให้ภาคเอกชนเป็นแนวหน้าในการขับเคลื่อน และภาครัฐสนับสนุน (Private Lead, Government Support)
ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมฯ ได้รับทราบผลสรุปผลศึกษาโครงการศึกษา Thailand Digital Outlook ประจำปี พ.ศ. 2565 ที่สรุปตัวชี้วัดการพัฒนาด้านดิจิทัลของประเทศไทยที่สำคัญเป็นรายมิติตามกรอบตัวชี้วัดของ OECD ที่มีตัวเลขดีขึ้นหลายด้าน ได้แก่ มิติการเข้าถึง (Access) พบว่า การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของครัวเรือนไทยในปี 2565 อยู่ที่ร้อยละ 88.0 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 85.2 ในปี 2564 มิติการใช้งาน (Use) พบว่าสัดส่วนผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตของไทยปี 2565 เท่ากับร้อยละ 85.0 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปี 2564 ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 84.3
มิติสังคม (Society) สัดส่วนการใช้งานอินเทอร์เน็ตของผู้สูงอายุช่วง 55-74 ปี ในปี 2565 คิดเป็นร้อยละ 63.1 เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 48.8 มิติความน่าเชื่อถือ (Trust) พบว่า ผู้ประสบปัญหาถูกละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล/ความเป็นส่วนตัว เท่ากับร้อยละ 3.4ลดลง (ดีขึ้น) จากปี 2564 ซึ่งมีค่าอยู่ที่ร้อยละ 6.3 และมิติการเปิดเสรีของตลาด (Market Openness) พบว่าสัดส่วนผู้ประกอบการที่มีการจำหน่ายสินค้า/บริการ ผ่านทางออนไลน์ไปตลาดต่างประเทศ สูงถึงร้อยละ 26.3 เทียบกับปี 2564 ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 3.2 เป็นต้น
นายภุชพงค์ โนดไธสง เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กล่าวว่า ที่ประชุมฯ วันนี้ยังได้มีการพิจารณาแนวทางการพัฒนาศักยภาพและความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัล (Digital Competitiveness) เพื่อเพิ่มแรงขับเคลื่อนการส่งเสริมการพัฒนาอันดับความสามารถในการแข่งขันในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ทั้งนี้ สดช. ได้ร่วมมือกับสมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (Thailand Management Association : TMA) จัดทำยุทธศาสตร์การพัฒนาศักยภาพและความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลของประเทศ ในระยะกลาง 5 ปี (พ.ศ. 2566-2570) และระยะยาว 10 ปี (พ.ศ. 2566-2575) เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
ประกอบด้วย 5 ยุทธศาสตร์ ดังนี้ 1) ยกระดับประสิทธิผลของกลไกการทำงานระหว่างหน่วยงานรัฐ ให้เหมาะสมกับการเพิ่มขีดความสามารถด้านดิจิทัล 2) ส่งเสริมศักยภาพอุตสาหกรรมดิจิทัลของไทย โดยหนึ่งในกลไกขับเคลื่อนคือ ผลักดันให้เกิดการใช้งานแอปพลิเคชัน หรือดิจิทัลคอนเทนต์ที่พัฒนาโดยผู้ประกอบการไทยภายในประเทศ โดยใช้มาตรการทางภาษีเป็นเครืองมือสนับสนุน 3) บริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลที่เหมาะสม โดยจัดเตรียมโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลของประเทศให้พร้อมรับกับเทคโนโลยีแห่งอนาคต และนำไปใช้ประโยชน์ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด สามารถให้บริการได้อย่างต่อเนื่องและมีเสถียรภาพ รวมทั้งสนับสนุนให้มีการพัฒนาระบบนิเวศสำหรับกิจการที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง 4) เสริมสร้างทรัพยากรมนุษย์ที่มีศักยภาพ ที่ครอบคลุมถึงการผลิตแรงงานให้ตรงตามความต้องการของอุตสาหกรรมดิจิทัล ตั้งเป้าหมายสร้างงานจำนวน 4 ล้านคน ภายในระยะเวลา 3 ปี และ 5) ส่งเสริมกระบวนการ Digital Transformation ในประเทศไทย ตลอดจนส่งเสริม e-Government และ e-Participation ในประเทศไทยในวงกว้าง
พร้อมกันนี้ เตรียมปรับปรุงแนวทางการจัดเก็บข้อมูลเชิงสถิติภายในประเทศ ด้านตัวชี้วัดสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อให้การเก็บชุดข้อมูลมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้การจัดอันดับความสามารถของประเทศมีความแม่นยำ และอันดับดีขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'นายกฯอิ๊งค์' ถกหัวหน้าส่วนราชการ ลุยลงทุน 9.6 แสนล้าน กระตุ้นจีดีพีประเทศ
นายกฯ ถกหัวหน้าส่วนราชการฯ กำชับผลักดันเม็ดเงินลงทุน 9.6 แสนล้าน สู่ระบบเศรษฐกิจ กระตุ้น ‘จีดีพี’ ประเทศ
จับตา! วุฒิสภาถก 'กม.ประชามติ' 30 ก.ย. ฟื้นเสียงข้างมาก 2 ชั้น แก้รธน.
'วุฒิสภา' นัดประชุม 30 ก.ย. ถกร่าง พ.ร.บ.ออกเสียงประชามติ จับตาฟื้นใช้เกณฑ์ 'เสียงข้างมาก 2 ชั้น' แก้รัฐธรรมนูญ
ประชุมคณะกรรมการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ครั้งที่ 4/2567
(13 กันยายน 2567) เวลา 13.30 น. นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ มอบหมายให้
'เท้ง ณัฐพงษ์' ว่าที่หัวหน้าพรรคคนใหม่ ลั่นพร้อมทำงานเต็มที่
'ณัฐพงษ์' ตัวเต็งหัวหน้าพรรค ลั่นพร้อมทำงานเต็มที่ เต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง หลังเห็นอดีต สส. ย้ายเข้าบ้านใหม่ด้วยกัน ขณะที่ 'ถิ่นกาขาวชาววิไล' โผล่ให้กำลังใจ ร่วมประชุมด้วย
ไลน์ 'สว.' เดือด! เสียงแตกหั่น กมธ. 26 คณะ หวั่นภาพแจกเก้าอี้
ไลน์กลุ่มสว. 200 คน ระอุ! ถกไม่ลงตัว ลด-ไม่ลด กมธ.สามัญ วุฒิสภาฯ เผยศุกร์นี้ปิดดีลไม่จบ ใช้ของเดิม 26 คณะไปก่อน แต่หวั่นเกิดภาพไม่ดี หวังแบ่งเก้าอี้
เคาะแล้ว! ประชุม สว. นัดแรก 23 ก.ค. เลือก 3 เก้าอี้สภาสูง วางตัว 'ปธ.ชั่วคราว'
น.ส.นภาภรณ์ ใจสัจจะ เลขาธิการวุฒิสภา เปิดเผยว่า ขณะนี้มีสมาชิกวุฒิสภา (สว.) มาแสดงตนแล้ว 198 คน ซึ่งคาดว่าอีก 2คน จะมาแสดงตนในช่วงบ่ายของวันนี้