พาณิชย์โชว์ผลงานตรวจตลาด ยันราคาสินค้าเกือบทุกหมวดลดลงต่อเนื่อง

กรมการค้าภายในโชว์ผลตรวจตลาด พบสินค้าราคาปรับลดต่อเนื่อง หมูเนื้อแดง กก.ละ 180-190 บาท เนื้อไก่ 80-90 บาท แต่ในห้างลดกว่านี้ สินค้าอุปโภคบริโภค เครื่องใช้ไฟฟ้า ผักสด ก็ลงต่อเนื่อง ส่วนสินค้าเกษตรสำคัญ มัน ข้าวโพด ปาล์ม ราคาขยับขึ้น พร้อมกางแผนดูแลสินค้าปี 66 ขอความร่วมมือผู้ผลิตตรึงราคาต่อ บังคับใช้กฎหมายเข็ม ทั้งปิดป้าย จัดการขายแพง หรือเข้มสุดขึ้นบัญชีควบคุม หากปั่นป่วน ผันผวน ส่วนพาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน ก็ไปต่อ ตามเหมาะสม

นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ติดตามสถานการณ์ราคาสินค้า พบว่า หลายกลุ่มมีราคาปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยหมูเนื้อแดง ราคาเฉลี่ยอยู่ที่กิโลกรัม (กก.) ละ 180-190 บาท ส่วนในห้างมีการจัดโปรโมชัน เช่น แม็คโคร บิ๊กซี ราคาอยู่ที่ กก.ละ 165 บาท เนื้อไก่ ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ กก.ละ 80-90 บาท ในตลาดสดเฉลี่ยอยู่ที่ กก.ละ 74-87 บาท ส่วนอกไก่ กก.ละ 79 บาท และน้ำมันปาล์มราคาขวดลิตรละ 47-50 บาท น้ำมันถั่วเหลือง 55-68 บาท ขณะที่ข้าวหอมมะลิ ข้าวขาว ราคาทรงตัว แต่เริ่มปรับลดลง ปลากระป๋อง น้ำปลา ซีอิ้ว ราคาทรงตัว แต่ห้างมีการจัดโปรโมชันลดราคาต่อเนื่อง

สำหรับสินค้าอุปโภคบริโภค ผลิตภัณฑ์ซักล้าง ชำระล้าง ราคาทรงตัว โดยห้างมีการจัดโปรโมชันลดราคาสลับกันไปในแต่ละสินค้า และเครื่องใช้ไฟฟ้า ราคาปรับลดลงต่อเนื่อง จากการที่ห้างจัดโปรโมชัน ส่วนผักสด ราคาปรับลดลงชัดเจน เช่น ผักคะน้า ถั่วฝักยาว กะหล่ำปลี แต่บางชนิดราคาปรับขึ้นบ้าง เช่น ต้นหอม แต่ราคายังถูกกว่าเดือนที่แล้ว และผักชี ราคาเริ่มปรับลดลงแล้ว

ทั้งนี้ ในช่วงเดือนธ.ค.2565 กรมฯ ยังจะเดินหน้าจัดโครงการพาณิชย์ลดราคา Lot 20 และ Lot 21 อย่างต่อเนื่อง ทั้งการจำหน่ายผ่านรถโมบาย และการเปิดจุดจำหน่ายสินค้าราคาถูก โดยนำสินค้าจำเป็นต่อการครองชีพ ทั้งข้าวสาร เนื้อหมู เนื้อไก่ ไข่ไก่ น้ำตาลทราย น้ำมันพืช ไปจำหน่ายให้กับประชาชน โดยสามารถตรวจสอบจุดจำหน่ายได้ทางเว็บไซต์ www.dit.go.th และแอปพลิเคชัน Line @mobilepanich

นายวัฒนศักย์กล่าวว่า ราคาสินค้าเกษตรสำคัญ เช่น มันสำปะหลัง พบว่า ราคาเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยขณะนี้ราคากก.ละ 2.85-3.30 บาท สูงกว่าเดือนก่อนเฉลี่ยกก.ละ 3.08 บาท ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ กก.ละ 12-12.10 บาท สูงกว่าเดือนก่อน กก.ละ 11-12 บาท น้ำมันปาล์ม กก.ละ 5.80-6.70 บาท สูงกว่าเดือนก่อนเฉลี่ย 6.21 บาท โดยเชื่อว่าราคายังมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อไป

ส่วนแนวโน้มราคาปุ๋ยเคมี ซึ่งเป็นต้นทุนสำคัญในการเพาะปลูกสินค้าเกษตร พบว่า ขณะนี้ราคาเริ่มทรงตัวและปรับตัวลดลง แต่ยังต้องจับตาราคาก๊าซธรรมชาติว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป เพราะเป็นต้นทุนสำคัญในการผลิตปุ๋ยเคมี

นายวัฒนศักย์กล่าวว่า แนวทางการดูแลราคาสินค้าในปี 2566 กรมฯ ยังจะเน้นขอความร่วมมือให้ผู้ผลิตตรึงราคาสินค้าต่อไป เพื่อดูแลผู้บริโภคในช่วงที่เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว และเชื่อว่า ผู้ประกอบการจะบริหารจัดการต้นทุนได้ เพราะต้นทุนสินค้าหลาย ๆ ตัวพ้นช่วงพีกมาแล้ว และหากสินค้ายังคงราคาไว้ได้ ก็จะยิ่งช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย และผู้ประกอบการก็จะมีรายได้เพิ่มขึ้น

สำหรับโครงการพาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน ก็จะดำเนินการต่อ แต่จะจัดเป็นช่วง ๆ ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการค้าขายปกติ และจะเน้นพื้นที่จำเป็น ในช่วงสถานการณ์ที่จำเป็น

นอกจากนี้ จะนำมาตรการทางกฎหมายมาใช้อย่างเข้มข้น ทั้งการตรวจสอบการปิดป้ายแสดงราคา การตรวจสอบการจำหน่ายสินค้าแพง เพื่อดูแลผู้บริโภคให้ได้รับความเป็นธรรม และหากสินค้ารายการใด มีปัญหาด้านราคา หรือเกิดความผันผวน ก็จะใช้มาตรการเด็ดขาด เช่น การเสนอให้เป็นสินค้าควบคุม เพื่อที่จะสามารถบริหารจัดการได้อย่างเหมาะสม แต่จะยึดหลัก 3 ฝ่ายอยู่ได้ ทั้งเกษตรกร ผู้ผลิต และผู้บริโภค

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลยันผู้ปลูกมันสำปะหลังไม่ถูกกดราคาแน่

รัฐบาลให้ความเชื่อมั่นผู้ปลูกมันสำปะหลัง เตือนพ่อค้ากดราคา โทษจำคุกสูงสุด 7 ปี จัดสายตรวจเฉพาะกิจ ลงพื้นที่ตรวจสอบการซื้อขายมันฯ ในแหล่งเพาะปลูกทั่วประเทศ รับฤดูเก็บเกี่ยวที่จะเริ่ม ธ.ค.นี้

พาณิชย์คุยปิดฤดูกาลผลไม้ราคาพุ่งทุกรายการ มูลค่า 1.5 แสนล้านบาท

ปิดฤดูกาลผลไม้ปี 67 อย่างงดงาม เกษตรกรยิ้ม ราคาพุ่งทุกรายการ ส่งออกผลไม้ 8 เดือนแรกเป็นบวก รวมมูลค่า 1.5 แสนล้านบาท “พิชัย”สั่งเตรียมมาตรการเชิงรุกปี 68 ต่อ