‘ศักดิ์สยาม’ เช็กความพร้อมสนามบินภูธรผุดแผนดึงเอกชนร่วมศูนย์ซ่อมบำรุง

‘ศักดิ์สยาม’ สั่ง ทย.เพิ่มขีดความสามารถรับผู้โดยสาร ปลื้ม พ.ย.ผู้โดยสารเดินทาง 3 ล้านคน มอบ ทย.ศึกษาขยายรันเวย์รับเครื่องบินจากต่างประเทศ ผุดตั้ง MRO 3 แห่ง ‘โคราช สุราษฎร์ธานี พิษณุโลก’

29 พ.ย.2565-นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่าหลังจากการเปิดประเทศตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ขณะนี้พบว่าจำนวนผู้โดยสารจนถึงปัจจุบัน ในและต่างประเทศ มาใช้บริการรวมแล้วกว่า 3 ล้านคนได้มอบนโยบายให้ยึดเป้าหมายการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสาร การเดินทางความสะอาด ความปลอดภัยจาก โควิด-19 และการบริหารสัมภาระให้รวดเร็วซึ่งได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงคมนาคมไปดูแลในเรื่องนี้แล้ว 

นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ได้มอบหมายให้ ทย. บูรณาการท่าอากาศยาน ร่วมกับแผนแม่บทพัฒนาโครงข่ายทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองและระบบราง (MR-Map) เพื่อให้เกิดการพัฒนาการเชื่อมโยงระบบขนส่ง ล้อ ราง อากาศ อย่างสมบูรณ์ เบื้องต้นทราบว่า ทย. อยู่ระหว่างศึกษาการก่อสร้างท่าอากาศยานบึงกาฬ และท่าอากาศยานมุกดาหาร ให้เชื่อมโยงกับ MR-MAP ขณะเดียวกันได้สั่งการให้เพิ่มการศึกษาท่าอากาศยานชุมพร และท่าอากาศยานระนองด้วย เชื่อมกับโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ เพื่อเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทย และอันดามัน (แลนด์บริดจ์)

อย่างไรก็ตามส่วนความคืบหน้าศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน (MRO) ขณะนี้กรมท่าอากาศยาน(ทย.)ได้รองรับการส่งสินค้าทางอากาศ และมีการบินข้ามภูมิภาคโดยไม่ต้องมาต่อเครื่องที่กรุงเทพ โดยสั่งการให้ศึกษาความเป็นไปได้ในการรองรับเครื่องบินจากต่างประเทศ โดยเฉพาะการขยายรันเวย์และอาคารผู้โดยสาร แต่จะต้องดูเรื่องความเหมาะสมของจำนวนผู้โดยสารรวมถึงความคุ้มค่าด้วย 
 
สำหรับการพัฒนาท่าอากาศยานสู่การเป็นท่าอากาศยานนานาชาติแล้ว ทย. ต้องเพิ่มขีดความสามารถของท่าอากาศยานต่างๆ ด้วย โดยขณะนี้ ทย. อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดตั้งศูนย์บริการซ่อมบำรุงอากาศยานด้วย เบื้องต้น สนามบินที่มีความพร้อมได้แก่ สนามบินนครราชสีมา ,สุราษฎร์ธานี และสนามบินพิษณุโลก เบื้องต้นจะเป็นการเปิดให้เอกชนร่วมลงทุน (PPP) ซึ่งจะรวมเป็นแพ็กเกจเดียว และทราบว่าบริษัท แอร์บัส เริ่มให้ความสนใจแล้ว นอกจากนี้ในปีงบประมาณ 2567 จะศึกษาเพิ่มเติมการจัดตั้ง MRO ที่ท่าอากาศยานมุกดาหาร, ท่าอากาศยานบึงกาฬ และท่าอากาศยานสตูล ด้วย

สำหรับความคืบหน้าการให้บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) หรือ ทอท. เข้าไปเป็นผู้รับผิดชอบดูแล และบริหารจัดการท่าอากาศยาน 3 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานอุดรธานี, บุรีรัมย์ และกระบี่ แทน ทย. ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ คาดว่าจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณาเห็นชอบได้ภายในไตรมาสที่ 1 ปี 2566 ซึ่งในส่วนของเงินชดเชยจาก ทอท. เพื่อนำเข้ากองทุนหมุนเวียนกรมท่าอากาศยานนั้น ทย. จะได้รับรายได้มากกว่าที่เคยได้รับ เพื่อนำเงินไปดูแล และพัฒนาท่าอากาศยานแห่งอื่นๆ ต่อไป