'รัชดา' ยกข้อมูล 3 บริษัทจัดอันดับตบหน้าพวกไม่หวังดีมั่วนิ่มเรื่องเศรษฐกิจ

รองโฆษกรัฐบาลตำหนิกลุ่มผู้ไม่หวังดี หยุดให้ข้อมูลมั่ว เผยตัวเลขเศรษฐกิจไทยดีขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุด JCR ปรับเพิ่มความน่าเชื่อถือไทยจาก A- เป็น A เสถียรภาพ

23 พ.ย.2565 - นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง ปรากฏชัดจากตัวเลขรายได้แผ่นดินปีงบประมาณ 2565 ที่จัดเก็บได้มากกว่าที่ประมาณการไว้ถึง 1.5 แสนล้านบาท ภาพรวมเศรษฐกิจ 9 เดือนแรกของปี ขยายตัว 3.1 % ซึ่งขอตำหนิกลุ่มผู้ไม่หวังดี บิดเบือนข้อมูลเพื่อทำลายความมั่นใจต่อเศรษฐกิจประเทศ โดยล่าสุด มีการแชร์ส่งต่อข้อความอันเป็นเท็จว่า รัฐบาลกู้เงินจนหนี้ท่วม คลังไม่สามารถจัดการหนี้ได้ ขอยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง ดูได้จากการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณในปี 2565 นั้น รัฐบาลกู้จริง 6.52 แสนล้านบาทจากที่ประมาณการไว้ 7 แสนล้านบาท ขณะที่ภาพรวมของการกู้เงินในช่วงที่เกิดการระบาดของ COVID-19 นับตั้งแต่ปี 2563 เป็นไปเพื่อแก้ไขปัญหา ช่วยเหลือและเยียวยาทุกภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบ ส่งผลให้เศรษฐกิจไทย (GDP) ปี 2563 หดตัวลดลงเพียง 5.1% ซึ่งดีกว่าที่ไอเอ็มเอฟคาดการณ์ว่าจะหดตัวที่ 8%

นอกจากนี้ ระดับหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือน ก.ย.2565 อยู่ที่ 10.37 ล้านบาท หรือคือเป็น 60.41% ต่อ GDP ต่ำกว่าที่กำหนดเพดานไว้ 70% ซึ่งกระทรวงการคลังให้ความมั่นใจว่าไม่ก่อให้เกิดปัญหาการคลังแต่อย่างใด เนื่องจากรัฐบาลมีความสามารถในการชำระหนี้ (Debt affordability) รวมทั้งยังมีการติดตามสัดส่วนภาระดอกเบี้ยต่อประมาณการรายได้ประจำปีอย่างใกล้ชิด

รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ ยังเผยว่า สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ชั้นนำระดับสากล ล้วนมีความมั่นใจในภาพรวมเศรษฐกิจไทย โดยได้ทยอยออกการรายงานอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทยที่ BBB+ Stable Outlook ซึ่งเป็นระดับที่น่าพอใจค่อนข้างมากภายใต้สถานการณ์วิกฤติ COVID-19 ดังนี้ 1.Moody’s (7 เม.ย. 2565) เชื่อว่า แม้หนี้รัฐบาลเพิ่มสูงขึ้นแต่ตัวชี้วัดภาคการคลังและหนี้สาธารณะยังคงแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับกลุ่มประเทศอันดับความน่าเชื่อถือระดับเดียวกัน และมีแนวโน้มที่จะรักษาระดับความแข็งแกร่งดังกล่าวได้ต่อไป 2. Fitch Ratings (21 มิ.ย.2565) รายงานว่า รัฐบาลได้บรรเทาความเสี่ยงของหนี้ภาครัฐบาลด้วยการบริหารจัดการทางการคลังอย่างรอบคอบ มีตลาดทุนในประเทศที่มั่นคง และหนี้สาธารณะส่วนใหญ่เป็นหนี้สกุลเงินบาท และล่าสุด 3.Japan Credit Rating Agency (11 พ.ย.2565) ได้ปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทยจากระดับ A- เป็น A และคงมุมมองความน่าเชื่อถือในระดับมีเสถียรภาพ (Stable Outlook)

“ขอให้ประชาชนรับฟังข้อมูลด้วยความระมัดระวัง เพราะมีผู้ที่มีพฤติกรรมชอบบินเบือนข้อมูลเพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของประเทศการมีมุมมองและการวิเคราะห์ที่แตกต่างเป็นเรืองปกติ แต่ต้องมาจากฐานข้อมูลที่ถูกต้องด้วย ประเด็นสถานะทางการคลัง ประชาชนสามารถติดตามตัวเลขที่ถูกต้องจากการเผยแพร่จากส่วนราชการ และยังมีการรายงานภาพรวมเศรษฐกิจประเทศจากสถาบันชั้นนำของต่างประเทศ ซึ่งจะได้ทราบข้อเท็จจริงจากการประเมินของหลายมุมมอง และปัจจุบันนี้มีข้อสรุปว่า สถานะการเงินการคลังไทยมีความแข็งแกร่ง และภาพรวมเศรษฐกิจที่ดี อัตราการว่างงานต่ำมากด้วย” นางสาวรัชดากล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นับหนึ่ง! รัฐบาลลุยแก้ปัญหาบัญชีม้านิติบุคคล

ดีเดย์วันนี้วันแรก 1 ม.ค. รัฐบาลเดินหน้าแก้ไขปัญหาบัญชีม้านิติบุคคล เชื่อมโยงข้อมูลรายชื่อบุคคลที่มีความเสี่ยงสูงด้านการฟอกเงิน สกัดกั้นการเปิดบัญชีม้านิติบุคคล

ดร.อาทิตย์ แนะวิธีกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่ไม่ใช่การแจกเงิน!

ดร. อาทิตย์ อุไรรัตน์ อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร โพสต์เฟซบุ๊กว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจเมืองไทย ถ้าจะให้ยั่งยืนถาวรและเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างแท้จริง ต้องเ

'บัญญัติ' ร่ายกลอนสะท้อนการเมือง อวยพรปีใหม่คนไทย

นายบัญญัติ บรรทัดฐาน สส. แบบบัญชีรายชื่อ และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้แต่งกลอนร้อยกรองสะท้อนภาพการเมืองไทย เพื่อส่งความสุข (ส.ค.ส.) ต้อนรับปีใหม่ 2568 ให้แก่พี่น้องประชาชน มีใจความว่า

ลงทะเบียนด่วน! แจกซิมเนตฟรี 'ผู้ถือบัตรคนพิการ' หมดเขต 31 ธ.ค.

นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)