‘คมนาคม’ เร่งเปิดรับฟังความเห็นยืดอายุใช้งานรถตู้เป็น 13 ปี คาดสรุปเดือนนี้

‘คมนาคม’เร่งฟังความเห็นประชาชนขอยืดอายุรถตู้ 1 ปี จาก 12 ปี เป็น 13 ปี คาดสรุปเดือนนี้ หากเห็นด้วย เตรียมชงคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางไฟเขียว ธ.ค.65 มีผลใช้กับรถตู้ 1,000 คันทั่วประเทศ ย้ำสภาพรถพร้อม-บริการดี-ปลอดภัย

10 พ.ย.2565-นายบุญส่ง ศรีสกุล รองนายกสมาคมธุรกิจรถตู้ต่างจังหวัด พร้อมคณะ มาติดตามความคืบหน้าการเยียวยารถตู้โดยสารสาธารณะ หลังจากยื่นหนังสือถึงนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ไปแล้วเมื่อวันที่ 5 ต.ค.65 แต่ไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด ซึ่งครั้งนี้ได้เข้าประชุมในการแก้ปัญหารถตู้ดังกล่าว โดยมีนายวิรัช พิมพะนิตย์ ที่ปรึกษา รมว.คมนาคม เป็นประธาน พร้อมด้วยนางสิริรัตน์ วีรวิศาล และ นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) และคณะเข้าร่วม

นายบุญส่ง กล่าวว่าเนื่องจากวันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมาได้ผู้ประกอบการรถตู้ได้เรียกร้องให้กระทรวงคมนาคมช่วยเหลือเยียวยา 4 ข้อ ดังนี้ 1.ขอยืดอายุรถจาก 12 ปี เป็น 13 ปี เนื่องจากมีบางเส้นทางได้ยืดอายุจาก 12 ปี เป็น 13 ปี ไปแล้ว ฉะนั้นขอความเป็นธรรมให้เป็นมาตรฐานเดียวกันอย่าเลือกปฏิบัติ 2.เรื่องน้ำมันเชื้อเพลิง และก๊าซที่มีราคาที่สูงขึ้นอีกเท่าตัว จึงขอให้กระทรวงคมนาคมช่วยเยียวยาเรื่องนี้ด้วย โดยออกบัตรส่วนลดให้กับรถตู้ และรถมินิบัสโดยสารประจำทางที่มีความเดือดร้อนเท่านั้น

3.เรื่องจ่ายค่าเครื่องจีพีเอส เป็นรายปี ปีละ 3,000 บาท จ่ายมาหลายปีแล้ว ขอให้ลดลงเป็นปีละ 1,500 บาทต่อปี เพื่อแบ่งเบาภาระให้ผู้ประกอบการรถตู้และรถมินิบัส และ 4.เรื่องตู้ขายตั๋วที่สถานีเดินรถโดยสารขนาดเล็ก (จตุจักร) หรือหมอชิต 2มีปัญหาหลายเรื่องและไม่เป็นธรรมกับผู้ประกอบการบางเส้นทาง ไม่ทราบว่ามีการเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ประกอบการบางรายหรือไม่ ดังนั้นทางสมาคมฯ เห็นสมควรให้แต่งตั้งตัวแทนของผู้ประกอบการเข้าร่วมบริหารกับ บขส. ด้วย

ด้านนายวิรัช พิมพะนิตย์ ที่ปรึกษา รมว.คมนาคม กล่าวว่า ได้เร่งรัดเรื่องขอยืดอายุรถจาก 12 ปี เป็น 13 ปี ขณะนี้ ขบ. ได้ประชุมกับคณะกรรมการต่างๆ มองว่ามีความเป็นไปได้ที่จะให้ขยายอายุรถตู้ตามที่สมาคมฯ ขอ เนื่องจากผู้ประกอบการและประชาชนเดือดร้อน ซึ่งเรื่องนี้ ขบ. อยู่ระหว่างทำประชาพิจารณ์รับฟังความเห็นประชาชน คาดว่าได้ผลสรุปภายในสิ้นเดือน พ.ย.นี้ หากประชาชนเห็นด้วย ขบ. จะเสนอคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางพิจารณาเรื่องดังกล่าวช่วงเดือน ธ.ค.65 หากได้รับการอนุมัติจะเสนอให้ รมว.คมนาคม ลงนามให้มีผลบังคับใช้ต่อไป

ทั้งนี้เบื้องต้นพิจารณาขยายอายุรถตู้ให้มีจำนวน 1,000 คัน ครอบคลุมรถตู้ทุกหมวด ประกอบด้วย หมวด 1 วิ่งเส้นทางกรุงเทพฯ-ปริมณฑล, หมวด 2 วิ่งเส้นทางกรุงเทพฯ-ต่างจังหวัด ระยะทางไม่เกิน 300 กม., หมวด 3 วิ่งเส้นทางระหว่างจังหวัด และ หมวด 4 วิ่งภายในจังหวัด จากที่มีในระบบทั้งหมดประมาณ 8,000 คันทั่วประเทศ หากได้รับการขยายอายุรถออกไปอีก 1 ปีแล้ว ต้องนำรถมาตรวจสภาพให้เป็นไปตามที่เงื่อนไข ขบ. กำหนด เพื่อให้เกิดคุณภาพบริการที่ดี และปลอดภัย ส่วนรถตู้ที่เหลือไม่มีปัญหาเรื่องดังกล่าว และ บางส่วนได้ดำเนินการเปลี่ยนรถตู้เป็นรถโดยสารขนาดเล็ก (มินิบัส) แล้ว

นอกจากนี้ยังพิจารณาแนวทางช่วยเหลือผู้ประกอบการเรื่องอื่นๆ ที่จะบรรเทาความเดือดร้อนและดำเนินการกิจการไปได้ เช่น แนวทางเปลี่ยนรถตู้เป็นมินิบัส เรื่องน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีราคาแพง ซึ่งจะประสานไปยังกระทรวงพลังงาน เพื่อหามาตรการช่วยเหลือในเรื่องบัตรส่วนลดค่าเชื้อเพลิงต่อไป และ เรื่องค่าใช้จ่ายค่าจีพีเอส ที่จ่าย 3,000 บาทต่อปี ขอลดเหลือ 1,500 บาทต่อปี ขบ. จะเชิญบริษัทผู้ให้บริการจีพีเอสทั้งหมดและผู้ประกอบการรถตู้มาร่วมประชุมกันในเร็วๆ นี้ เพื่อสรุปเรื่องดังกล่าวต่อไป ซึ่งมองว่าเรื่องนี้สามารถดำเนินการได้ เพราะผู้ประกอบการลำบากและให้อยู่ร่วมกันได้ทุกฝ่าย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลโอ่ผลงานยกระดับเส้นทางสู่ภาคตะวันออกเชื่อมโยงอีอีซี

รัฐบาลยกระดับเส้นทางสู่ภาคตะวันออก เพิ่มประสิทธิภาพการจราจร เชื่อมโยงอีอีซี ล่าสุดกรมทางหลวงขยาย 4 ช่องจราจร ทล.3481 ตอน บ้านหัวไผ่ - การเคหะฯ จังหวัดปราจีนบุรี แล้วเสร็จ

'อนุทิน' ยันไม่คิดเอาคืนใคร ปมที่ดินเขากระโดงอย่าโยงการเมือง ไม่อย่างนั้นก็หมดสภาฯ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงข้อพิพาทพื้นที่เขากระโดงระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และกรมที่ดิน ซึ่งกระทรวงคมนาคมยืนยันสิทธิ์ตามกฎหมาย

DMT พร้อมสนับสนุนนโยบายกระทรวงคมนาคม ลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน โดยการจำหน่ายคูปองผ่านทางในราคาพิเศษ ตั้งแต่วันที่ 11 พ.ย. ถึง 21 ธ.ค.67

DMT พร้อมสนับสนุนนโยบายกระทรวงคมนาคม ลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน โดยการจำหน่ายคูปองผ่านทางในราคาพิเศษ ตั้งแต่วันที่ 11 พ.ย. ถึง 21 ธ.ค. 67

ตามจับรถ 2 คัน ขนแรงงานโรฮิงญาทิ้งกลางป่า ดับ 3 ศพ สาหัส 10 คน

จากกรณีมีพระสงฆ์วัดเสกขาราม พบชาวโรฮิงญาจำนวน 26 คน ถูกแก๊งค้าแรงงานมนุษย์ ลักลอบขนมากับรถกระบะตู้ทึบ ระหว่างทางขาดอากาศหายใจมีอาการอ่อนเพลีย ชักดิ้นชักงอ ทุรนทุรายใกล้ตาย คนขับได้นำชาวโรงฮิงยาทั้งหมดเข้าไปทิ้งนอนรอความตายในป่าละเมาข้างเชิงเขาวัดเสกขาราม