‘บินไทย’ โชว์ 9 เดือนแรกมีกำไร 5.1 หมื่นล้านพร้อมเปิดหน้าทวงหนี้จากรัฐ 5 พันล้าน

การบินไทยกางแผนโชว์ 9 เดือนแรกปี 64 ทำกำไร 51,121 ล้านบาท เดินหน้ากู้สินเชื่อใหม่จากเอกชน 2.5 หมื่นล้าน หลังคลังเมินช่วยคาดปีหน้าขาดทุนลดลง พร้อมกลับมากำไรในปี 66 พร้อมเปิดหน้าทวงหนี้จากรัฐ

15 มิ.ย. 2564 นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ บริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน) เปิดเผยถึงผลประกอบการรอบ 9 เดือนปี 2564 ว่า บริษัทฯ และบริษัทย่อย ขาดทุนจากการดำเนินงานไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว 21,491 ล้านบาท มีรายได้รวม 14,990 ล้านบาท และมีรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียวสุทธิเป็นรายได้ 73,084 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นผลจากการดำเนินการตามแผนฟื้นฟู อาทิ ปรับโครงสร้างหนี้ ขายทรัพย์สินและเงินลงทุน และปรับโครงสร้างองค์กร ส่งผลให้บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิงวด 9 เดือนแรกปี 2564 จำนวน 51,115 ล้านบาท

สำหรับสถานะการเงินที่เข้มแข็งและมั่นคง มีกระแสเงินสดเพียงพอต่อการดำเนินกิจการระหว่างการจัดหาสินเชื่อใหม่ คาดว่าจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการในระยะต่อไปได้ในไตรมาสที่ 1/2565 อย่างไรก็ตามขณะนี้ต้องรอดูว่ากระทรวงการคลังจะสนับสนุนเงิน 2.5 หมื่นล้านตามแผนหรือไม่ หากไม่สนับสนุนทางกระทรวงการคลังจะดำเนินการอย่างไร อาทิ จะแปลงหนี้เป็นทุน หรือต้องออกหุ้นเพิ่มทุน ซึ่งเป็นเรื่องที่กระทรวงการคลังต้องพิจารณา โดยการบินไทยต้องการได้คำตอบเร็วที่สุด เป็นไปได้อยากได้ปลายเดือน พ.ย.2564

นายปิยสวัสดิ์ กล่าวว่า หากกระทรวงการคลังไม่สนับสนุนเงิน 2.5 หมื่นล้านบาท แต่อาจจะออกหุ้นเพิ่มทุนใหม่ให้ผู้ถือหุ้นเดิม หรือใช้การแปลงหนี้เป็นทุน ทางการบินไทยฯ ก็ต้องปรับปรุงแผนฟื้นฟูใหม่เพราะแนวทางเหล่านี้ไม่ได้กำหนดไว้ในแผนฟื้นฟูเดิม และต้องประชุมเจ้าหนี้โหวตแผน รวมทั้งเสนอศาลล้มละลายกลางด้วย อย่างไรก็ตามหากรัฐไม่ใส่เงิน 2.5 หมื่นล้านบาท อาจทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของรัฐลดลงจาก 48% เหลือ 8%  

“หากรัฐจะคงสัดส่วนหุ้นเท่าเดิม จึงต้องแปลงหนี้เป็นทุน 1.3 หมื่นล้านบาท และหรือซื้อหุ้นเพิ่มทุน ส่วนกรณีว่าหากสัดส่วนรัฐถือหุ้นน้อยลง และการบินไทยจะยังคงเป็นสายการบินแห่งชาติหรือไม่ เรื่องนี้หากคณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติให้เป็นสายการบินแห่งชาติ ก็ยังคงเป็นต่อไป ซึ่งขณะนี้มีบางสายการบิน อาทิ บริติชแอร์เวย์ รัฐถือหุ้นน้อยมาก แต่ก็เป็นสายการบินแห่งชาติ”นายปิยสวัสดิ์ กล่าว

นายปิยสวัสดิ์ กล่าวว่าสิ่งที่จะขอจากภาครัฐคือถ้าไม่เข้ามาช่วยเรื่องเงินกู้ 2.5 หมื่นล้าน นั้นซึ่งก็ไม่ได้คาดหวัง แต่ก็อยากให้รัฐช่วยดูแลคืนหนี้ที่ยังค้างกับการบินไทยที่มีประมาณ 5 พันล้านบาท เป็นหนี้ค่าซ่อมบำรุงเครื่องบิน และเงินจากองทุนบำเหน็จบำนาญ

 อย่างไรก็ตามขณะนี้การบินไทยสถานการณ์ดีขึ้นต่อเนื่อง โดยในเดือน ต.ค.2564 มีรายได้จากการขนส่งผู้โดยสาร และสินค้า ประมาณ 1,200 ล้านบาท แบ่งเป็น ผู้โดยสาร 10% และสินค้า 90% ถือว่าสูงสุดตั้งแต่เกิดโควิด-19 ส่วนในเดือน พ.ย.2564 หลังจากรัฐบางมีนโยบายเปิดประเทศ มีผู้โดยสารมาใช้บริการเพิ่มมากขึ้น โดย 10 วันแรกหลังจากเปิดประเทศ พบว่า มีผู้โดยสารวันละ 750 คน จากก่อนหน้านี้วันละ 300 คน คาดว่าในปี 2565 หากโควิด-19 ไม่ระบาดรุนแรงขึ้นอีก การบินไทยจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นล้านบาท ขณะที่ปี 2566 จะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท และในปี 2567 จะมีรายได้ประมาณ 1.4-1.5 แสนล้านบาท และมีกำไรอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ตั้งแต่เดือนพ.ย. 2564 เป็นต้นไป บริษัทฯ ทำการเพิ่มเส้นทางบินและเที่ยวบิน ทั้งในส่วนของบริษัทฯ และสายการบินไทยสมายล์ ไปยัง 44 จุดหมายปลายทางหลักในประเทศและภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลกกว่า 400 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เปิดประตูเชื่อมไทยสู่โลกและเชื่อมไทยเป็นหนึ่ง รองรับผู้โดยสารกว่า 1 ล้านคนต่อเดือน ผลักดันให้รายได้จากการขนส่งผู้โดยสารกลับไปสู่ระดับ 1 แสนล้านบาทในปี 2565 และตอกย้ำความเป็นสายการบินแห่งชาติ ในการร่วมเปิดประเทศและทำหน้าที่เป็นฟันเฟืองหลักขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยว กลไกสำคัญในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจของประเทศ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ตลาด mai เปิดกำไร บจ. ไตรมาส 1 รวมทะลุ 4.6 พันล้านบาท

บริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2567 มียอดขายรวม 54,030 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.2% ต้นทุนขาย และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้น 6.7% และ 6.4% ตามลำดับเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ บจ. มีความสามารถในการทำกำไรในไตรมาสที่ 1 ปี 2567 ดีขึ้น

เซ็นทรัล รีเทล โชว์รายได้ Q1 โกยรายได้ 6.7 หมื่นล้าน

นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC กล่าวว่า “เซ็นทรัล รีเทล เปิดปีโตต่อเนื่อง ด้วยผลประกอบการในไตรมาสแรก

OR เผยผลประกอบการไตรมาสแรก 2567 ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อนในทุกกลุ่มธุรกิจ เสริมแกร่งศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ มุ่งสู่การเป็น Data-Driven Organization ควบคู่กับการสร้างอนาคตอย่างยั่งยืน

OR เผยผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2567 มี EBITDA จำนวน 6,173 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 100% จากไตรมาสก่อน โดยเพิ่มขึ้นจากทุกกลุ่มธุรกิจ และมีกำไรสุทธิ 3,723 ล้านบาท