9 พ.ย. 2565 – นายวิศาล ชวลิตานนท์ รักษาการแทนประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงาน 9 เดือน ปี 2565 OR มีกำไรสุทธิ จำนวน 11,114 ล้านบาท สูงขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 1,993 ล้านบาท เนื่องจากทั้งรายได้ขายและบริการและกำไร ก่อนหักภาษี ดอกเบี้ย และค่าเสื่อมราคา(EBITDA) ที่เพิ่มขึ้น 229,557 ล้านบาท และ 3,437 ล้านบาทตามลำดับ เป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ที่ภาครัฐใช้มาตรการผ่อนคลายมากกว่า ทำให้ภาพรวมผลการดำเนินงานดีขึ้นในทุกกลุ่มธุรกิจ เช่นเดียวกันกับด้านปริมาณขายก็ปรับเพิ่มขึ้นในทุกกลุ่มธุรกิจ
ทั้งนี้หากเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อน ในด้านของรายได้ขายและบริการในไตรมาส 3 กลุ่มธุรกิจ Mobility และกลุ่มธุรกิจ Global มีรายได้จากการขายและบริการลดลงจากสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกและปริมาณการขายที่ลดลง ส่วนกลุ่มธุรกิจ Lifestyle มีรายได้ขายใกล้เคียงกับไตรมาสก่อนจากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจจากมาตรการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ที่ผ่อนคลายขึ้น ส่วน EBITDA ในไตรมาส 3 ลดลงในทุกกลุ่มธุรกิจเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อน
“ด้วยความแข็งแกร่งและความเชี่ยวชาญของทีมงานของ OR ทำให้ถึงแม้ว่าจะต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ท้าทายจากปัจจัยต่างๆ ในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นฤดูกาลหรือภัยพิบัติที่เกิดขึ้น แต่ผลการดำเนินงานของ OR ยังคงมีกำไรสุทธิจำนวน 701 ล้านบาทในไตรมาส 3 คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.06 บาท”นายวิศาล กล่าว
นอกจากนี้ในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมา OR ได้เข้าลงทุนใน บริษัท ดุสิต ฟู้ด จำกัด เพื่อเสริมสร้างศักยภาพธุรกิจ Lifestyle ของ OR โดยเพิ่มความหลากหลายของการดำเนินธุรกิจอาหาร รวมทั้งสร้างโอกาสในการเติบโตร่วมกับพันธมิตร รวมทั้งได้เข้าลงทุนในบริษัท Traveloka ผู้ประกอบธุรกิจแพลตฟอร์ดิจิทัล ด้านการท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีบริการที่หลากหลาย เพื่อให้ OR เป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินชีวิตประจำวันของผู้บริโภค ตลอดจนเป็นการสร้างโอกาสในการเติบโตร่วมกันของ Traveloka และ OR ทั้งในและต่างประเทศ
อีกทั้งยังได้ร่วมมือกับหลากหลายพันธมิตรในการพัฒนาธุรกิจเพื่อมุ่งสู่การเป็นผู้ให้บริการ Platform ของธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ยกระดับการให้บริการการเคลื่อนที่ หรือ Mobility as a Service (MaaS) ตามพันธกิจการสร้าง Seamless Mobility อีกทั้งยังได้เปิดร้าน Café Amazon สาขาแรกที่กรุงริยาด ประเทศซาอุดิอารเบีย และเปิดสาขาที่ 14 ในประเทศเวียดนาม นับเป็นอีกก้าวสำคัญที่ Café Amazon จะขยายธุรกิจให้เติบโตยิ่งขึ้น และมุ่งสู่การเป็น Global Brand ต่อไป
สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจในไตรมาส 4 OR ยังคงมุ่งเน้นการลงทุนเพื่อต่อยอดและสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ Mobility & Lifestyle มุ่งตอบสนองผู้บริโภค อำนวยความสะดวกให้ทุกการเดินทางเพื่อตอบโจทย์คนเดินทางในทุกรูปแบบ รวมถึงการสร้างทางเลือกสำหรับการดำเนินชีวิตที่ครบวงจรเพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ตามพันธกิจของ OR ต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บีเจซี เผยผลประกอบการไตรมาส 3/67 ดันรายได้รวมเติบโตทะลุ 41,774 ล้านบาท กำไรจากการดำเนินงานปกติเติบโตกว่า 14.2%
บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือบีเจซี เปิดเผยรายได้รวมในไตรมาส 3/67 เท่ากับ 41,774 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 603 ล้านบาทจากปีก่อน กำไรจากการดำเนินงานปกติอยู่ที่ 2,825 ล้านบาท
OR เปิดตัว "OR Space รามคำแหง 129" มิติใหม่ของศูนย์การค้า “พื้นที่ความสุข ครบทุกไลฟ์สไตล์ใกล้บ้านคุณ”
OR Space รามคำแหง 129 มิติใหม่ของศูนย์การค้า พื้นที่แห่งความสุขที่จะเติมเต็มความสุขให้ทุกคน พรั่งพร้อมด้วยสินค้าและบริการที่หลากหลาย
ผลประกอบการ SCGD 9 เดือนแรกปี 67 คว้ากำไร 730 ล้านบาท เพิ่ม 15% จากปีก่อน แม้ฝ่ามรสุมรอบด้าน ไตรมาส 3 ยังกำไร 189 ล้านบาท
ผลประกอบการ SCGD 9 เดือนแรกปี 67 กำไรสุทธิ 730 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% จากปีก่อนที่ 637 ล้านบาท ส่วนไตรมาส 3 เผชิญความท้าทายรอบด้าน
OR ตอกย้ำผู้นำธุรกิจยั่งยืน ในฐานะหุ้นยั่งยืนระดับ AAA คว้ารางวัล Highly Commended Sustainability Awards จาก SET Awards 2024 ขับเคลื่อนแนวคิด OR SDG สร้างการเติบโตจากต้นน้ำถึงปลายน้ำ
OR คว้ารางวัล Sustainability Awards ในระดับ Highly Commended Sustainability Awards จาก SET Awards 2024 ตอกย้ำความสำเร็จการพัฒนาอย่างยั่งยืน สร้างการเติบโตตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ