ในหลวงมีพระบรมราชโองการประกาศใช้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 13 แล้ว เริ่มตั้งแต่ 1 ต.ค.2565- 30 ก.ย.2570
02 พ.ย.2565 - เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 พฤศจิกายน พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการ ประกาศเรื่อง แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ.2566 – 2570) ลงเผยแพร่ในราชกิจจานุเบกษาเล่ม 139 ตอนพิเศษ 258 ง แล้ว
โดยเนื้อหาระบุว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ประกาศว่าโดยที่คณะรัฐมนตรีได้พิจารณาเห็นสมควรให้ประกาศใช้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ.2566 - 2570) ซึ่งเป็นแผนพัฒนา ฯ ที่ภาคีทุกภาคส่วนในสังคมไทยทุกระดับได้มีส่วนร่วมดำเนินการ เพื่อใช้เป็นแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศดังมีสาระสำคัญตามที่แนบท้ายนี้ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ใช้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ.2566 - 2570) ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 จนถึงวันที่
30 กันยายน 2570
ประกาศ ณ วันที่ 24 ตุลาคม พุทธศักราช 2565 เป็นปีที่ 7 ในรัชกาลปัจจุบัน
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายกรัฐมนตรี
รายละเอียดฉบับเต็มที่นี่ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2565/E/258/T_0001.PDF
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง 'ศาสตราจารย์' จำนวน 11 ราย
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีเรื่อง แต่งตั้งศาสตราจารย์
โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหารชั้นสัญญาบัตร 19 นาย
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ พระราชทานยศข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหารชั้นสัญญาบัตร
โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ-เครื่องราชฯ 14 ทหารกล้า พลีชีพปกป้องอธิปไตยไทย
เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานยศทหารเป็นกรณีพิเศษ
โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งผู้ช่วยผู้พิพากษาให้ดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาประจำศาล 66 ราย
ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการตุลาการ
ประกาศแล้ว! หลักเกณฑ์-วิธีตรวจสอบนโยบายที่ต้องใช้เงินของพรรคการเมืองในการโฆษณา
ต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้งเรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการตรวจสอบนโยบายที่ต้องใช้จ่ายเงิน
ราชกิจจาฯ ประกาศปรับฐานค่าจ้างคำนวณเงินสมทบประกันสังคม ม.33 เริ่ม 1 ม.ค. 2569
กฎกระทรวงใหม่กำหนดค่าจ้างขั้นต่ำ-ขั้นสูง ใช้เป็นฐานคำนวณเงินสมทบผู้ประกันตนมาตรา 33 โดยปรับเพดานสูงสุดเป็นลำดับ จาก 17,500 บาท เพิ่มเป็น 23,000 บาทในระยะถัดไป มีผลตั้งแต่ต้นปี 2569

