"ไฮเนเก้น" ค้านรีดภาษีเบียร์ 0% โอดทำต้นทุนพุ่ง จ่อถกสรรพสามิต

31 ต.ค. 65 – นายปริญ มาลากุล ณ อยุธยา รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยเอเชีย แปซิฟิค บริวเวอรี่ จำกัด ในฐานะผู้ประกอบการและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มมอลต์ไม่มีแอลกอฮอล์ ตรา ไฮเนเก้น ศูนย์จุดศูนย์ กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่ากรมสรรพสามิตกำลังศึกษาแนวทางการจัดหมวดหมู่ภาษี สรรพสามิตใหม่ ให้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 0% สูงกว่าเดิมแต่น้อยกว่าเบียร์ ว่า ไม่เห็นด้วย เนื่องจากการขึ้นภาษีแต่ละครั้ง แม้จำนวนเปอร์เซ็นต์จะฟังดูน้อย แต่เมื่อคำนวณจริงแล้วจะมีผลต่อราคาขายปลีกปลายทางอย่างมีนัยสำคัญ เป็นการสร้างภาระให้กับผู้บริโภคในช่วงที่เศรษฐกิจชะลอตัว

ทั้งยัง นับว่าเป็นการตั้งกำแพงให้ผู้ที่ต้องการดื่มอย่างรับผิดชอบต่อสังคม อาจส่งผลให้ผู้ดื่มหันไปสู่เครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ที่มีราคาถูกกว่าแทนที่ แม้จะมีปริมาณแอลกอฮอล์สูง อันจะส่งผลต่อสุขภาพตัวเอง และส่งผลกระทบต่อสังคมก็ตาม

นายปริญ กล่าวอีกว่า ภายในเดือน พ.ย. 2565 บริษัทจะเข้าไปหารือกับกรมสรรพสามิต เพื่อแสดงจุดยืนว่าไม่เห็นด้วยที่จะมีการขึ้นภาษีเครื่องดื่มมอลล์ไม่มีแอลกอฮอล์ หรือปรับไปอยู่หมวดหมู่ใหม่ ที่อยู่ระหว่างเครื่องดื่มปกติกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากเครื่องดื่มมอลล์ไม่มีแอลกอฮอล์ หรือ เบียร์ 0% นั้น เสียภาษีสรรพสามิตในหมวดหมู่เดียวกับเครื่องดื่มซอฟท์ดริ้ง ที่ 14% ส่วนเครื่องดื่มที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ อยู่ที่ 5% จะเสียภาษีสรรพสามิตในอัตรา 22% อีกทั้งยังเป็นอัตราที่สูงกว่าเครื่องดื่มบางประเภทด้วย

โดยหากจะเก็บภาษีเพิ่มต้องดูว่าหลักการอยู่ตรงไหน และจะทำให้เครื่องดื่มมอลต์ไม่มีแอลกอฮอล์ที่บริษัทเพิ่งทำตลาด 3 ปี เกิดขึ้นได้ยาก เมื่อภาษีปรับขึ้นแต่ละครั้ง จะมีผลต่อราคาขายปลีกสูงขึ้นและผู้บริโภคเข้าถึงยาก โดยสิ่งที่เราต้องการเห็น คือ อยากให้ประเทศไทยมีการยกระดับมาตรฐานการจัดเก็บภาษีสรรพสามิต ให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล ในขณะเดียวกันก็อย่างให้ประชาชนมีแนวทาง มีทางเลือกในการบริโภคอย่างรับผิดชอบ ไม่เป็นภัยทั้งต่อตัวเองและสังคม อันจะส่งผลให้การบริโภค แอลกอฮอล์รวมลดลงได้อย่างแท้จริงและยั่งยืน สอดคล้องต่อเป้าหมายของ WHO หรือองค์การอนามัยโลก ด้วยเช่นกัน

 “บริษัทอยากอยู่หมวดเดิม และมีความเชื่อมั่นว่าหลังจากที่กรมสรรพสามิตได้ศึกษาและวิเคราะห์อย่างละเอียด สำหรับอัตราภาษีของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 0% คงไม่ตัดสินใจขึ้นภาษีของเครื่องดื่มมอลต์ไม่มีแอลกอฮอล์ เนื่องจากเป็นสินค้าทางเลือกที่ช่วยการดื่มอย่างรับผิดชอบต่อสังคมและตัวเอง ลดผลกระทบต่อสังคม ที่อาจเกิดขึ้น ภายใต้อิทธิพลของแอลกอฮอล์ ดังนั้นจึงควรเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับการสนับสนุนมากกว่า” นายปริญ กล่าว

เพิ่มเพื่อน