'จุรินทร์' ลุยช่วยชาวนาเชียงใหม่ ดึงรายใหญ่ซื้อข้าวเหนียวล่วงหน้า ให้ราคาตันละ 12,000 บาท

27 ต.ค.2565 - นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดกิจกรรม “พาณิชย์เดินหน้าอมก๋อยโมเดล@เชียงใหม่ สินค้าข้าวเหนียว” และเป็นประธานสักขีพยานพิธีลงนามสัญญาข้อตกลงมาตรฐานของกรมการค้าภายในการซื้อขายข้าวเหนียว ที่หมู่ 8 ตําบลริมใต้ อําเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่  พร้อมด้วย นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ นายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นายนราพัฒน์ แก้วทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน

โดยการประสานงานของทนายเต้ย ว่าที่ ร.ท.วิศธร เถาตระกูล ผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ เขต 5 นายวิศิษฎ์ วัชรินทร์ ผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ เขต 6 และนางสาว จิตพลอย จิตจักรวาลทอง เลขานุการสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-เมียนมา จังหวัดเชียงใหม่ และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ โดยในขณะลงพื้นที่มีประชาชนในพื้นที่ เกษตรกรจังหวัดเชียงใหม่ มาต้อนรับและขอถ่ายรูปคู่กับนายจุรินทร์เป็นจำนวนมาก บรรยากาศสุดคึกคักและเป็นกันเอง

นายจุรินทร์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรฯทำงานร่วมกันช่วยเหลือเกษตรกรทั่วประเทศในพืชทุกชนิด วันนี้เป็นกรณีข้าวเหนียว เพราะ อ.แม่ริมและอีก 4 อ.สำคัญ ประกอบด้วย อ.แม่แตง อ.สันกำแพง อ.ดอยสะเก็ดและ อ.พร้าว รวม 5 อำเภอ มีเกษตรกรผู้ปลูกข้าวเหนียว เป็นแหล่งป้อนข้าวเหนียวให้คนเชียงใหม่และภาคเหนือตอนบนบริโภค ซึ่งมีสมาชิกเกษตรแปลงใหญ่รวมกันถึง 11,000 ราย 7 กลุ่ม ซึ่งวันนี้จะมาช่วยเหลือเกษตรกรชาวนาผู้ปลูกข้าวเหนียวโดยเฉพาะ ตนมอบหมายให้ปลัดกระทรวงพาณิชย์กับอธิบดีกรมการค้าภายในของกระทรวงพาณิชย์ หาผู้รับซื้อรายใหญ่ สร้างหลักประกันให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวเหนียว 5 อำเภอ ให้มีหลักประกันว่าถ้าปลูกข้าวเหนียวคุณภาพปีนี้ ความชื้นไม่เกิน 15% จะได้รับหลักประกันเรื่องราคาตามสัญญาที่เซ็นตามมาตรฐานที่กำหนด ซื้อราคาไม่ต่ำกว่าตันละ 12,000 บาท

อย่างน้อยปีนี้ไม่ต้องเผชิญชะตากรรมตามราคาที่ไม่เสถียรของตลาดโลกและตลาดในประเทศอีก ถ้าสำเร็จจะช่วยดูแลเกษตรกรผู้ปลูกข้าวเหนียวเชียงใหม่ต่อไป ภาคเหนือและทุกภาคของประเทศ พืชเกษตรอื่นด้วย ซึ่งเป็นไปตามพระราชบัญญัติเกษตรพันธสัญญาที่มีผลผูกพันตามกฎหมาย โดยผู้ซื้อประกอบด้วย 1.หจก.ร่วมทุนรุ่งเรือง(จ.ชัยนาท) 2.หจก.ป.รุ่งเรืองธัญญา (จ.สิงห์บุรี) 3.บจก. ทีบีเอสไรซ์มิลล์(จ.พิจิตร) 4.บจก.ธนสรรไรซ์(จ.ชัยนาท)และ 5.บจก. รุ่งเรืองพืชผล 369(จ.เชียงใหม่) ซึ่ง 5 บริษัทนี้เซ็นสัญญาแล้ว ถ้าวันไหนข้าวเหนียวราคาตก 5 บริษัทนี้ต้องรับซื้อตันละ 12,000 บาทเป็นสัญญาที่ตกลงไว้และเกษตรกรต้องปฏิบัติตามสัญญา กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรฯมอบหลักประกันที่ชัดเจนแน่นอนให้กับเกษตรกร วันนี้เซ็นสัญญาทั้งหมด 35,000 ตัน คิดเป็น 30% ของผลผลิตปีนี้ ผลผลิตที่เหลืออีก 70% หรือ 85,000 ตัน จะมีส่วนช่วยให้กับเกษตรกรที่ไม่ได้เซ็นสัญญาได้ด้วยในการดึงราคาขึ้น ซึ่งเป็นวิน-วินโมเดลทุกฝ่ายได้ประโยชน์ร่วมกัน

“ปีนี้ราคาข้าวจะดีขึ้นเป็นลำดับเพราะการส่งออกข้าวดีมาก ปีที่แล้วส่งออกข้าวได้ 6.2 ล้านตันปีนี้ 9 เดือนแรกปีนี้กำลังจะเลย 7 ล้านตันแล้ว คาดว่าจะส่งออกได้ถึง 7-8 ล้านตันจะช่วยให้ราคากระเตื้องขึ้น เพราะข้าวของเกษตรกรสามารถระบายไปต่างประเทศได้“ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าว

ข้อมูลจากกรมการค้าภายในระบุว่า สำหรับเกษตรกรจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีการรับเงินในโครงการประกันรายได้เกษตรกรในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา จำนวนถึง 103,575 ราย วงเงินรวม 1,579 ล้านบาท ซึ่งได้รับเงินเฉลี่ยรายละ 15,241 บาท ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายในงานมี ได้โครงการพาณิชย์ลดราคา!ช่วยประชาชน Lot 20 มาจำหน่ายสินค้าในราคาพิเศษ เพื่อลดค่าครองชีพให้กับพี่น้องประชาชนด้วย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

พาณิชย์การันตี! เตรียมร้านค้ารองรับ 'ดิจิทัลวอลเล็ต' ไว้พร้อมแล้ว

'ภูมิธรรม' เผยพาณิชย์เตรียมร้านค้ารองรับ 'ดิจิทัลวอลเลต' พร้อมแล้ว ประชุมวันนี้ทบทวนรายละเอียดทั้งหมด ก่อนนายกฯ แถลง 24 ก.ค.

ปชป. ถาม 'เศรษฐา' ทำไมไม่รู้จักรดน้ำพรวนดินเศรษฐกิจ

นายชนินทร์ รุ่งแสง รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) และอดีตสส.กทม. กล่าวว่าจากการอภิปรายกฎหมายงบประมาณรายจ่ายประจำ ปี 68 พรรคประชาธิปัตย์และหลายฝ่ายได้แสดงความเป็นห่วง พูด

ฝ่ายค้านมีมติไม่รับหลักการ 'งบ 68' วาระแรก ร่าย 3 เหตุผล

ฝ่ายค้านมีมติไม่รับหลักการงบ 68 วาระแรก เหตุรัฐบาลเบียดบังงบ ดัน 'ดิจิทัลวอลเล็ต' เกินไป ชี้ยังให้โอกาสปรับถึงวาระสาม ขืนดื้อดึงขู่ร้องศาลสั่งระงับ 'ปกรณ์วุฒิ' มั่นในไม่มี สส.ก้าวไกล โหวตสวน

'ชัยชนะ' ตอกย้ำรัฐบาลนักวิ่งราว บี้นายกฯ ปรับสูตรอุดหนุนงบท้องถิ่น

'ชัยชนะ' ย้ำรัฐาลจัดงบ 68 เหมือนวิ่งราวทรัพย์ เตือนกู้แล้วเก็บระวังเข้าข่ายปล้น กระทุ้งอุดหนุนท้องถิ่นไม่เหมาะ แนะนายกฯ ปรับสูตร ส่วนกลาง 60 ท้องถิ่น 40

‘สรรเพชญ’ ซัดรัฐบาลกู้เงินสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หวั่นก่อหนี้ก้อนใหญ่ในอนาคต

รัฐบาลชุดนี้มีอำนาจในการจัดสรรงบประมาณแทบจะ 100% สิ่งที่น่าเป็นห่วงสำหรับการจัดสรรงบประมาณในปี 2568 ที่มีการตั้งวงเงินกว่า 3.7 ล้านล้านบาท คือเรื่องของการกู้ขาดดุล