เฟดประกาศขึ้นดอกเบี้ย 0.75% เป็นครั้งที่ 3 ในรอบปี เพื่อสกัดเงินเฟ้อให้เป็นไปตามเป้า
22 ก.ย. 2565 – สำนักข่าว รอยเตอร์ รายงานว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.75% อยู่ที่ 3.00-3.25% โดยปรับไปตามคาดการณ์ของตลาด
ทั้งนี้เฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% เป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกัน ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายในขณะนี้อยู่ที่ระดับ 3.00-3.25% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2551
พร้อมกันนี้เฟดส่งสัญญาณว่าจะขึ้นดอกเบี้ยอีก 1.25% ในการประชุมที่เหลืออีก 2 ครั้งในปีนี้ ซึ่งทำให้ดอกเบี้ยนโยบายของเฟดจะอยู่ที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2551 โดยคาดการณ์ใหม่ของเฟด จะทำให้ดอกเบี้ยสิ้นปีนี้อยู่ที่ 4.25%-4.50% และสิ้นปีหน้า อยู่ที่4.50%-4.75%
นาย เจอร์โรม พาวเวลล์ ประธานเฟด กล่าวถึงการขึ้นดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องด้วยอัตรานี้ว่า เศรษฐกิจจะชะลอตัวลงอยู่ในสภาพคืบคลาน ส่วนตัวเลขคนว่างงานจะสูงขึ้น พร้อมกับตลาดบ้านที่จะดิ่งลง ซึ่งตลาดบ้านเป็นปัจจัยเรื้อรังหนึ่งที่ผลักดันอัตราเงินเฟ้อ ดังนั้นจำเป็นต้องทำให้เข้าที่เข้าทาง
นโยบายของเฟดตอนนี้ ถือว่าใช้ยาแรงที่สุดนับจากปี 2008 และแสดงให้เห็นว่า ดอกเบี้ยจะขึ้นจากระดับเฉลี่ย 4.25%-4.50% ในสิ้นปีนี้ เป็น 4.50%-4.75% ในสิ้นปีหน้า
ส่วนเรื่องของอัตราเงินเฟ้อ บ่งบอกว่า เฟดแก้ไขสถานการณ์ด้วยการฉุดเงินเฟ้อลงได้ จากที่เคยพุ่งขึ้นไปสูงสุดในรอบ 4 ทศวรรษ ดังนั้น เจ้าหน้าที่ทุกคนจะเดินหน้าทำต่อไปจนกว่าบรรลุเป้าหมาย แม้ว่าจะเสี่ยงกับการที่คนว่างงานจะสูงขึ้น และการขยายตัวจะชะลอตัว