'พาณิชย์' แจงปาล์มดิบขยับสูงที่สุดในรอบ 10 ปีหนุน น้ำมันปาล์มขวดราคาขึ้น

“พาณิชย์”แจงน้ำมันปาล์มขวดราคาขึ้น เหตุปาล์มดิบขยับ ล่าสุดแตะกิโลกรัมละ 10 บาท สูงสุดในรอบ 10 ปี และช่วงนี้เป็นช่วงปลายฤดู ทำให้มีผลผลิตน้อย เผยได้ขอความร่วมมือโรงสกัด ห้างค้าปลีก ช่วยตรึงราคาแล้ว ล่าสุดปาล์มขวดราคาอยู่ที่เฉลี่ย 50-53 บาท ส่วนราคาหมูเป็นยังอยู่ที่กิโลกรัมละ 80 บาท เนื้อแดงไม่ตัดแต่ง 135-140 บาท ตัดแต่ง 145-150 บาท

10 พ.ย. 2564 นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวดที่ปรับตัวสูงขึ้น ว่า เป็นผลมาจากผลผลิตปาล์มของอินโดนีเซียและมาเลเซีย ซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตสำคัญออกสู่ตลาดลดลงไม่น้อยกว่า 5% จากสถานการณ์โควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อแรงงานและการเก็บเกี่ยว ทำให้ปริมาณปาล์มในตลาดโลกลดลง ส่งผลให้ราคาน้ำมันปาล์มตลาดโลกสูงขึ้นต่อเนื่อง และไทยยังสามารถส่งออกน้ำมันปาล์มดิบได้เพิ่มขึ้น ทำให้มีความต้องการปาล์มดิบเพิ่มขึ้น และราคาปาล์มดิบก็ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง เฉลี่ยม.ค.-พ.ย.2564 อยู่ที่กิโลกรัม (กก.) ละ 6.76 บาท และช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ผลปาล์มคุณภาพดีขยับขึ้นไปสูงถึงกก.ละ 10 บาท สูงสุดในรอบ 10 ปี จากราคาเฉลี่ยปี 2563 อยู่ที่กก.ละ 4.78 บาท เพิ่มขึ้น 41%

ทั้งนี้ ผลผลิตในประเทศยังถือเป็นช่วงปลายฤดูกาล ผลปาล์มออกสู่ตลาดน้อย ทำให้ราคาปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง และกระทบถึงราคาน้ำมันปาล์มดิบที่สูงขึ้นตาม เมื่อนำไปผลิตเป็นน้ำมันปาล์มขวด ต้นทุนก็เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งกรมฯ ได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการโรงสกัด และห้างค้าปลีกค้าส่ง ในการตรึงราคาแล้ว แม้ว่าราคาน้ำมันปาล์มดิบจะมีราคาปรับสูงขึ้นจากเฉลี่ยปี 2563 ที่กก.ละ 28.10 บาท เป็นเฉลี่ยม.ค.-พ.ย.2564 ที่กก.ละ 37.24 บาท หรือเพิ่มขึ้น 33% ส่วนราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวดในห้างค้าปลีกค้าส่งอยู่ที่ 50–53 บาทต่อขวด เพิ่มขึ้นจากก่อนหน้านี้ที่ประมาณ 46 บาทต่อขวด หรือเพิ่มขึ้น 12%

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ผลผลิตถั่วเหลืองตลาดโลกในฤดูกาลใหม่ ได้เริ่มออกสู่ตลาดแล้ว และคาดว่าจะมีปริมาณเพิ่มขึ้นจากปีก่อนไม่น้อยกว่า 5% ทำให้มีปริมาณน้ำมันถั่วเหลืองเข้ามาทดแทนในระบบมากขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มทางเลือกในการบริโภคน้ำมันพืชของประชาชน

นายวัฒนศักย์กล่าวว่า กรณีปรากฏข่าวว่าสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ได้มีการประกาศปรับราคาจำหน่ายสุกรมีชีวิตเป็น 84 บาทต่อกก. เมื่อวันที่ 4 พ.ย.2564 จากการติดตามสถานการณ์ พบว่า ราคาซื้อขายและส่งมอบยังอยู่ที่ราคาไม่เกิน 80 บาทต่อกก. ตามที่ให้ความร่วมมือกับกรมฯ โดยวันที่ 8 พ.ย.2564 ราคาจำหน่ายปลีกหมูเนื้อแดงไม่ตัดแต่งอยู่ที่ 135–140 บาทต่อกก. ราคาจำหน่ายปลีกหมูเนื้อแดงตัดแต่งอยู่ที่ 145–150 บาทต่อกก. ซึ่งเป็นราคาเดียวกับปีก่อน ขณะที่ราคาจำหน่ายปลีกหมูเนื้อแดงชำแหละในห้างค้าปลีกค้าส่ง ราคายังอยู่ที่ 119–122 บาทต่อกก.

สำหรับปริมาณสุกรในปีนี้ กรมปศุสัตว์แจ้งว่า ปริมาณผลผลิตลดลงจากปีก่อน โดยคาดว่าจะมีปริมาณสุกรที่

15.86 ล้านตัว ลดลง 30% ขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค ASF ในประเทศจีน ซึ่งเป็นผู้นำเข้ารายใหญ่ดีขึ้น ทำให้ความต้องการนำเข้าสุกรจากไทยลดลง ประกอบกับความต้องการบริโภคของประชาชนลดลงจากเดิม 22 กก.ต่อคนต่อปี เหลือ 16 กก.ต่อคนต่อปี คิดเป็นปริมาณสุกร 5 ล้านตัว หรือลดลง 38%

“จากการติดตามสถานการณ์ในภาพรวม พบว่า ปริมาณเนื้อสุกรชำแหละในสต็อก ยังมีอยู่พอสมควร เชื่อว่าปริมาณเนื้อสุกรชำแหละจะมีเพียงพอ แต่กรมฯ ก็ได้ติดตามสถานการณ์ทั้งด้านปริมาณและราคาเนื้อสุกรร่วมกับกรมปศุสัตว์อย่างใกล้ชิด หากพบว่าตลาดใด มีปริมาณเข้าสู่ในตลาดไม่เพียงพอ จะได้ประสานสมาคมผู้เลี้ยงสุกรนำเนื้อสุกรชำแหละเข้าไปเสริมในตลาดหรือจะจัดจำหน่ายหมูธงฟ้า เพื่อลดภาระให้ผู้บริโภคต่อไป”นายวัฒนศักย์กล่าว

นอกจากนี้ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยังได้สั่งการให้กรมฯ และสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ ติดตามการจำหน่ายน้ำมันปาล์มบรรจุขวด ราคาเนื้อสุกร และราคาสินค้าอุปโภคบริโภคอย่างใกล้ชิด หากพบมีการฉวยโอกาสขึ้นราคา ขอให้แจ้งที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 ตลอด 24 ชั่วโมง