“ธนกร” ชูฝีมือบริหารของรัฐบาลยุค “ลุงตู่” ดึงเทคโนโลยีขับเคลื่อนประเทศสู่แพลตฟอร์มดิจิทัลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม ชี้ “เป๋าตัง-ถุงเงิน” จุดเริ่มต้นประเทศสู่เศรษฐกิจดิจิทัล เผย แค่ 10 วันยอดใช้จ่ายคนละครึ่งเฟส 5 ทำเงินหมุนเวียนในประเทศแล้วกว่า 1.2 หมื่นล้าน
11 ก.ย. 2565 – นายธนกร วังบุญคงชนะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ และอดีตโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ผ่านมารัฐบาลภายใต้การบริหารของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ให้ความสำคัญในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้ในการบริหารราชการแผ่นดิน โดยมุ่งเป้าการเปลี่ยนแปลง (Transform) สู่ “รัฐบาลดิจิทัล” เพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการของภาครัฐ ด้วยการบูรณาการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงานภาครัฐ พัฒนาระบบรองรับการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล หรือ Digital ID พัฒนาแพลตฟอร์มให้บริการภาคเอกชนและประชาชนแบบเบ็ดเสร็จและเข้าถึงง่าย ซึ่งได้ดำเนินการมาอย่างเป็นระบบ เพื่อให้ทุกภาคส่วนได้เรียนรู้และปรับตัวเข้าสู่สังคมดิจิทัล มุ่งสู่การเป็นเศรษฐกิจดิจิทัล (Digitalization for Digital Economy) อย่างเป็นรูปธรรม
ทั้งการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อสร้างโอกาสในการเข้าถึงบริการของภาครัฐ และการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บรายได้ การสนับสนุนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนโดยใช้เทคโนโลยีทางการเงิน (FinTech) และการส่งเสริมภาคธุรกิจในการระดมทุนผ่านตลาดทุนได้ง่ายขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและภาคธุรกิจ นอกจากนี้รัฐบาลยังนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในงานด้านการเงินการคลัง เพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้าถึงแหล่งทุนและการเข้าถึงบริการของภาครัฐได้ง่ายขึ้น สามารถกระจายผลประโยชน์สู่เศรษฐกิจระดับฐานรากหรือภาคธุรกิจที่กำลังประสบปัญหาได้อย่างเหมาะสม
นายธนกร กล่าวอีกว่า สำหรับความสำเร็จของรัฐบาลในยุค พล.อ.ประยุทธ์ในการนำเทคโนโลยีมาใช้ดำเนินมาตรการสนับสนุนเศรษฐกิจและการช่วยเหลือเยียวยาแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ผ่านการใช้แอปพลิเคชันของภาครัฐ เช่น “เป๋าตัง” และ “ถุงเงิน” อาทิ 1) โครงการเราชนะ โดยมีแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” เป็นช่องทางหนึ่งในการรับวงเงินช่วยเหลือให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย และ 2) โครงการคนละครึ่ง ที่ประชาชนสามารถใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” และร้านค้ารายย่อยสามารถรับชำระเงินผ่านแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” เป็นต้น ทั้งนี้ ในส่วนของความคืบหน้าโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 (ข้อมูล ณ วันที่ 9 กันยายน 2565) มีผู้ใช้สิทธิที่เป็นประชาชนรายเดิมที่เคยใช้สิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 (ประชาชนรายเดิมฯ) จำนวน 19.24 ล้านคน คิดเป็นยอดใช้จ่ายสะสม 12,141.73 ล้านบาท
และมีผู้ใช้สิทธิที่เป็นประชาชนรายใหม่ที่ไม่เคยใช้สิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 (ประชาชนรายใหม่ฯ) จำนวน 129,537 คน คิดเป็นยอดใช้จ่ายสะสม 87.11 ล้านบาท รวมมีผู้ใช้สิทธิทั้งหมดจำนวน 19.37 ล้านคน และมียอดใช้จ่ายรวม 12,228.84 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่ายจำนวน 6,189.98 ล้านบาท และเงินที่รัฐร่วมจ่ายจำนวน 6,038.86 ล้านบาท การดำเนินมาตรการข้างต้นถือเป็นจุดเริ่มต้นในการขับเคลื่อนประเทศไทยเข้าสู่การเป็นเศรษฐกิจดิจิทัล นำไปสู่การช่วยเหลือที่ตรงจุด และการพัฒนาที่ยั่งยืนสำหรับทุกคนในอนาคตต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ธนกร' จี้กวาดล้างแก๊งลวงผู้สูงวัย-ปชช. หลอกกดลิงก์รับเงินหมื่น หลังรัฐเตรียมแจกเฟส 2
'ธนกร' เรียกร้อง รัฐบาล-ตร. เร่งกวาดล้างปราบแก๊งลวงผู้สูงวัย-ปชช. ระบาดหนัก หลอกกดลิงก์รับเงินหมื่น หลัง รัฐเตรียมแจกเฟส 2 ฝาก ดีอีล้อมคอก เตือนภัยให้คนรู้เท่าทัน หยุดกระบวนการไม่ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพอีก
'ธนกร' หนุนรัฐบาลเร่งปราบนอมินี ธุรกิจอำพรางคนต่างด้าว แนะตั้ง KPI ประกบเห็นผลชัดใน 3 เดือน
นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวว่า หลังจากมีคนต่างชาติลักลอบเข้ามา ประกอบธุรกิจต่างๆทั้งการขายสินค้าโรงงาน ร้านอาหาร และธุรกิจอื่นๆ หลายย่านในกรุงเทพฯ
'ธนกร' จี้ กกต. คุมเข้มเลือกตั้งนายก อบจ. ปูด 'เมืองคอน' เริ่มซื้อเสียง
'ธนกร' จี้ กกต. คุมเข้มหาเสียงเลือกตั้ง อบจ. หลายจังหวัด แนะทำงานเชิงรุก จับตา 'เมืองคอน' สู้ดุเดือด ชาวบ้านแจ้งเรียกเก็บบัตรประชาชนหลายพื้นที่ ขอตรวจสอบเข้มโปร่งใส
'ธนกร' หนุนถอยคนละก้าว ใช้เกณฑ์เสียงข้างมากชั้นครึ่ง สส.-สว.ถกร่างประชามติ
นายธนกร วังบุญคงชนะ รองหัวหน้าพรรคและสส.บัญชีรายชื่อพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวว่า หลังการประชุมทั้งกมธ. สส.และสว. ที่ยังมีความคิดเห็นแตกต่างกันเรื่องสว.ยืนกรานทำประชามติ 2 ชั้น แต่สส.เห็นควรปรับให้กึ่งกลางเหลือแค่ชั้นครึ่ง
'ธนกร' ปลื้มเรตติ้ง 'พีระพันธุ์' พุ่งต่อเนื่อง
'ธนกร' ปลื้ม โพลเผยเรตติ้ง “พีระพันธุ์” พุ่งต่อเนื่อง หลังทุ่มเททำงานจ่อออกกม.ปฏิรูปรื้อลดปลดสร้างด้านพลังงานทั้งระบบ ชี้ เหตุผลงานรัฐบาลโดดเด่น แก้ปัญหารวดเร็ว ขณะฝ่ายค้านคะแนนลด ต้องปรับปรุง
'ธนกร' ฟาด 'พิธา' หยุดโยงมั่ว ซัดพรรคการเมืองจะอยู่หรือตายเพราะทำตัวเอง
'ธนกร' ฟาด 'พิธา' ตรรกวิบัติ ชี้ พรรคการเมืองไม่ได้ตายด้วยองค์กรอิสระ แต่ตายเพราะทำตัวเอง ชี้ กกต.-ศาลวินิจฉัย ยึดตามข้อกฎหมาย เชื่อ ถ้าไม่ทำผิดก็ไร้โทษ จี้ หยุดพ่นหลักการพิษ โยงไกลถึงรัฐประหาร ทำปชช.สับสน ไม่เชื่อมั่นกระบวนการยุติธรรมของประเทศได้