“คลัง” กางยอดลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ทะยานแตะ 6.65 ล้านราย ฟุ้งลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์พุ่ง 5 ล้านราย พร้อมแจงทุกคนในครอบครัวสามารถลงทะเบียนได้ ยันหากตรวจสอบผ่านเกณฑ์ได้รับสิทธิทุกราย
9 ก.ย. 2565 – นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเปิดรับลงทะเบียนโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 วันที่ 8 ก.ย. 2565 ณ เวลา 12.00 น. พบว่า มีประชาชนลงทะเบียนแล้วทั้งสิ้น 6,657,136 ราย โดยเป็นการลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ 5,097,333 ราย และลงทะเบียนผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียน 1,559,803 ราย
ทั้งนี้ ประชาชนที่สนใจสามารถลงทะเบียนได้ 2 ช่องทาง คือ 1. ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th ได้ตั้งแต่เวลา 6.00 น. ถึง 23.00 น. ของทุกวัน หรือ 2. ลงทะเบียนผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียนทั้ง 7 หน่วยงาน ได้แก่ สาขาของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (ธนาคารกรุงไทยฯ) สำนักงานคลังจังหวัดทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศ สังกัดกรมบัญชีกลาง ที่ว่าการอำเภอทั้ง 878 อำเภอทั่วประเทศ ภายใต้กระทรวงมหาดไทย สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร ทั้ง 50 เขต และศาลาว่าการเมืองพัทยา เมืองพัทยา ตามวันและเวลาทำการของแต่ละหน่วยงาน ได้ตั้งแต่วันที่ 5 ก.ย. จนถึงวันที่ 19 ต.ค. 2565
นายพรชัย กล่าวอีกว่า จากการเปิดรับลงทะเบียนสองวันที่ผ่านมา พบว่า ยังมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนและความไม่ชัดเจนในเรื่องการลงทะเบียนในบางประเด็น โดยขอชี้แจง ดังนี้ 1. ประชาชนที่สนใจและมีคุณสมบัติตามที่โครงการกำหนด สามารถลงทะเบียนได้ทุกคน แม้จะอยู่ในครอบครัวเดียวกัน เช่น สามี/ภรรยา ที่เป็นคู่สมรสกัน สามารถลงทะเบียนได้ทั้งสามีและภรรยา หากตรวจสอบแล้วผ่านเกณฑ์คุณสมบัติก็มีสิทธิที่จะเป็นผู้ได้รับสิทธิทั้งสามีและภรรยา ไม่ใช่หนึ่งครอบครัวหนึ่งสิทธิ
ในการลงทะเบียนหากมีการบันทึกข้อมูลในระบบแล้ว จะไม่สามารถแก้ไขได้อีก ดังนั้น ผู้ลงทะเบียนจะต้องตรวจสอบรายละเอียดข้อมูลที่กรอกในแบบฟอร์มลงทะเบียนให้ถูกต้อง ก่อนบันทึกข้อมูลในเว็บไซต์หรือก่อนที่จะบันทึกข้อมูลที่หน่วยงานรับลงทะเบียน โดยกรณีการกรอกข้อมูลผิดพลาด ผู้ลงทะเบียนสามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์และกรอกข้อมูลส่วนตัวไม่ถูกต้อง 5 ข้อมูลสำคัญ ได้แก่ เลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก ชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิด และเลขรหัสหลังบัตรประจำตัวประชาชน โดยจะต้อง “เริ่มลงทะเบียนใหม่” และหากกรอกข้อมูลความสัมพันธ์ในครอบครัวผิด เช่น ข้อมูลกรมการปกครองมีบุตร แต่ผู้ลงทะเบียนกรอกข้อมูลว่าไม่มีบุตร จะต้องรอผลการลงทะเบียนที่จะประกาศทุกวันศุกร์ของสัปดาห์ถัดไปเริ่มตั้งแต่วันศุกร์ที่ 16 ก.ย. 2565 และหลังจากทราบผลแล้วให้ไปแก้ไขข้อมูลที่หน่วยงานรับลงทะเบียนที่ผู้ลงทะเบียนได้ยื่นเอกสารลงทะเบียนไว้
กรณีลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ เมื่อบันทึกข้อมูลแล้ว ผู้ลงทะเบียนจะต้องตรวจสอบสถานะการลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์หรือขอให้หน่วยงานรับลงทะเบียนเป็นผู้ตรวจสอบ โดยกรอกเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก และวันเดือนปีเกิดโดยกรณีที่ข้อมูลตามบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ลงทะเบียนถูกต้อง ผู้ลงทะเบียน “ไม่มีครอบครัว” ระบบจะขึ้นข้อความว่า “กระทรวงการคลังได้รับข้อมูลการลงทะเบียนของท่านครบถ้วนแล้ว” จึงถือว่าจบขั้นตอนการลงทะเบียน และรอประกาศผลการตรวจสอบการตรวจสอบข้อมูลกับกรมการปกครองทุกวันศุกร์ของสัปดาห์ถัดไป โดยเริ่มตั้งแต่วันศุกร์ที่ 16 ก.ย. 2565
หรือ ผู้ลงทะเบียน “มีครอบครัว” ต้องพิมพ์แบบฟอร์มลงทะเบียนที่กรอกข้อมูลเสร็จเรียบร้อยแล้ว และมีการลงลายมือชื่อของผู้ลงทะเบียน คู่สมรส และ/หรือบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย และนำแบบฟอร์มลงทะเบียนพร้อมทั้งเอกสารประกอบไปยื่นที่หน่วยงานรับลงทะเบียนที่ตนได้เลือกไว้ให้แล้วเสร็จภายในวันสุดท้ายที่รับลงทะเบียน โดยหลังจากยื่นเอกสารที่หน่วยงานรับลงทะเบียนแล้ว ผู้ลงทะเบียนจะได้รับส่วนที่ 11 ของแบบฟอร์มลงทะเบียนเป็นหลักฐานยืนยันการลงทะเบียนจึงถือว่าจบขั้นตอนการลงทะเบียน ซึ่งผู้ลงทะเบียนจะต้องเก็บรักษาหลักฐานดังกล่าวไว้โดย “ห้ามทำหาย” และแนะนำให้ผู้ลงทะเบียนทำสำเนาหรือถ่ายรูปส่วนที่ 11 ดังกล่าวไว้เพื่อเป็นหลักฐานในการลงทะเบียน และรอประกาศผลกการตรวจสอบข้อมูลกับกรมการปกครองทุกวันศุกร์ของสัปดาห์ถัดไป โดยเริ่มตั้งแต่วันศุกร์ที่ 16 ก.ย. 2565
กรณีที่ข้อมูลตามบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ลงทะเบียนไม่ถูกต้อง ผู้ลงทะเบียนจะต้องดำเนินการ “เริ่มลงทะเบียนใหม่” โดยดำเนินการผ่านเว็บไซต์ หรือลงทะเบียน ณ หน่วยงานรับลงทะเบียน
กรณีลงทะเบียนเสร็จเรียบร้อยทั้งลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์หรือลงทะเบียน ณ หน่วยงานรับลงทะเบียน ผู้ลงทะเบียนจะต้องตรวจสอบสถานะการลงทะเบียนทุกวันศุกร์ของสัปดาห์ถัดไปผ่านเว็บไซต์หรือขอให้หน่วยงานรับลงทะเบียนเป็นผู้ตรวจสอบ โดยกรอกหมายเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก และวันเดือนปีเกิด โดยเริ่มตรวจสอบได้ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 16 ก.ย. 65 ทั้งนี้ หากพบว่า “สถานการณ์ลงทะเบียนสมบูรณ์” ให้ผู้ลงทะเบียนรอผลการตรวจสอบคุณสมบัติต่อไป โดยจะประกาศผลในช่วงเดือน ม.ค. 2566
หรือหากพบว่า “สถานการณ์ลงทะเบียนไม่สมบูรณ์” เนื่องจากข้อมูลของผู้ลงทะเบียนไม่ตรงตามฐานข้อมูลกรมการปกครอง กรณีผู้ลงทะเบียนที่ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์โดยระบุว่า “ไม่มีครอบครัว (โสด)” แต่เมื่อตรวจสอบกับฐานข้อมูลกับกรมการปกครองแล้วพบว่า “มีครอบครัว” จะต้องไปแจ้งแก้ไขข้อมูลที่หน่วยงานรับลงทะเบียนใดก็ได้ พร้อมบัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงของผู้ลงทะเบียน และเอกสารอื่น ๆ เพิ่มเติมแล้วแต่กรณี เช่น สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของคู่สมรส เป็นต้น กรณีผู้ลงทะเบียนลงทะเบียนที่หน่วยงานรับลงทะเบียนจะต้องแก้ไขข้อมูล ณ หน่วยงานรับลงทะเบียนที่ผู้ลงทะเบียนได้ยื่นแบบฟอร์มลงทะเบียนไว้เท่านั้น
“ประชาชนที่สนใจและมีคุณสมบัติตามที่โครงการกำหนดสามารถลงทะเบียนได้ทุกคน ผู้ที่อยู่ในครอบครัวเดียวกันก็สามารถลงทะเบียนได้ทุกคน โดยขอให้ผู้ลงทะเบียนตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้องก่อนทุกครั้ง และเก็บรักษาส่วนที่ 11 ของแบบฟอร์มลงทะเบียนเป็นหลักฐานยืนยันการลงทะเบียน อย่าให้สูญหาย เพื่อประโยชน์ในการลงทะเบียนของผู้ลงทะเบียน ทั้งนี้ ผู้ลงทะเบียนจะสามารถทราบผลการแก้ไขข้อมูลได้ในรอบการประกาศผลของโครงการ ทุกวันศุกร์ของสัปดาห์ถัดไป” นายพรชัย กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อดีตขุนคลัง' กังขาแจกเงินสดเข้าข่าย 'สัญญาว่าจะให้' ไม่มีการตรวจสอบคุณสมบัติซ้ำ
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประธานกรรมการด้านวิชาการ พรรคพลังประชารัฐ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่า
กลุ่มเปราะบางดีใจ ลุ้น 'เงินดิจิทัล' เข้าลอตแรกเร็วๆนี้ หวังได้เป็นเงินสดยิ่งดี
กลุ่มเปราะบางดีใจ หลังรัฐบาลระบุว่า เงินดิจิทัลจะเข้าลอตแรกเร็วๆนี้ พร้อมบอกว่าถ้าได้เป็นเงินสดยิ่งดี เพราะทุกคนต้องการเงินสดสามารถใช้จ่ายได้ทุกอย่าง
ครม.อนุมัติงบกลาง 3,500 ล้านบาท เติมกองทุน 'บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ'
ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม ได้อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
'คลัง' ยัน 'เศรษฐา-พิชัย' ไม่ได้ทำผิด พ.ร.บ. วินัยการเงินการคลังฯ
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง ขอชี้แจงกรณีข้อกล่าวหารัฐบาลปล่อยกู้โครงการสินเชื่อ IGNITE THAILAND และโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (สินเชื่อซอฟท์โลน) โดยใช้พระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังแห่งรัฐ พ.ศ. 2561 (พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังฯ) สองมาตรฐาน ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย