รัฐบาลตีปี๊บ 12 อุตสาหกรรมโบว์แดง แปรรูปอาหารขึ้นอันดับหนึ่ง

แฟ้มภาพ

รัฐบาลให้ความสำคัญ 12 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ครึ่งปีแรก 2565 ส่งเสริมแล้ว 309 โครงการ มูลค่ารวม 131,580 ล้านบาท อุตสาหกรรมการเกษตรและแปรรูปอาหารมากเป็นอันดับหนึ่ง ขณะด้านอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน มูลค่าเงินลงทุนสูงสุด

5 ก.ย.2565 – ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมการลงทุนในประเทศ โดยเน้นการสนับสนุนการลงทุนใน 12 อุตสาหกรรมเป้าหมาย (New S-Curve) รวมทั้งสร้างแรงจูงใจดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาลงทุนในประเทศให้มากขึ้นนั้น ในเดือนมกราคม-มิถุนายน 2565 มีการขอรับการส่งเสริมในอุตสาหกรรมเป้าหมาย โดยอุตสาหกรรมการเกษตรและแปรรูปอาหารมีจำนวนโครงการสูงสุด และอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนมีมูลค่าเงินลงทุนสูงที่สุด

นายอนุชากล่าวว่า ในเดือนมกราคม-มิถุนายน 2565 มีโครงการที่ได้รับอนุมัติให้การส่งเสริม จำนวน 750 โครงการ และมีมูลค่าเงินลงทุนรวม 375,670 ล้านบาท โดยเป็นการอนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุนใน 12 อุตสาหกรรมเป้าหมาย จำนวน 309 โครงการ จาก 5 อุตสาหกรรมเดิมที่เป็นเป้าหมาย (ยานยนต์และชิ้นส่วน เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ การเกษตรและแปรรูปอาหาร ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ การท่องเที่ยว) และ 7 อุตสาหกรรมใหม่ที่เป็นเป้าหมาย (ดิจิทัล การแพทย์ เทคโนโลยีชีวภาพ ระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์, อากาศยาน พัฒนาทรัพยากรมนุษย์และการศึกษา ป้องกันประเทศ) คิดเป็นร้อยละ 41 ของจำนวนโครงการที่ได้รับอนุมัติให้การส่งเสริมทั้งสิ้น มีมูลค่ารวม 131,580 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 35 ของมูลค่าการอนุมัติให้การส่งเสริมทั้งหมด

“โดยจำนวนโครงการส่วนใหญ่ เป็นการลงทุนในอุตสาหกรรมการเกษตรและแปรรูปอาหาร มีจำนวนโครงการสูงที่สุด (80 โครงการ) รองลงมาคือ อุตสาหกรรมดิจิทัล (72 โครงการ) ส่วนมูลค่าการลงทุนจะเห็นได้ว่าอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนมีมูลค่าเงินลงทุนสูงที่สุด (40,260 ล้านบาท) รองลงมาคือ อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (34,080 ล้านบาท)” นายอนุชา ระบุ

นายอนุชา กล่าวว่า สำหรับอุตสาหกรรมการเกษตรและแปรรูปอาหาร ที่มีการอนุมัติให้การส่งเสริมเป็นจำนวนโครงการสูงที่สุด 80 โครงการ เงินลงทุนรวม 24,620 ล้านบาท เช่น กิจการผลิตอาหารสัตว์หรือส่วนผสมอาหารสัตว์ 14 โครงการ เงินลงทุน 10,995 ล้านบาท เป็นต้น ขณะที่อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน ที่มีการอนุมัติให้การส่งเสริม 43 โครงการ เงินลงทุนรวมสูงที่สุดคือ 40,260 ล้านบาท เช่น กิจการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า Battery Electric Vehicle (BEV), Plug-in Hybrid Electric Vehicle (PHEV) และ Hybrid Electric Vehicle (HEV) 1 โครงการ เงินลงทุน 36,100 ล้านบาท เป็นต้น

“รัฐบาลให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมเป้าหมายตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งจะช่วยสร้างความเข้มแข็ง นำไปสู่การพัฒนาประเทศในอนาคต ส่งผลให้ประเทศไทยมีขีดความสามารถแข่งขันได้กับต่างประเทศ ซึ่งทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะเร่งขับเคลื่อนให้ไปสู่เป้าหมายที่กำหนดไว้ โดยโครงการที่ได้รับอนุมัติให้การส่งเสริมในเดือนมกราคม-มิถุนายน 2565 คาดว่าจะทำให้มูลค่าส่งออกของประเทศเพิ่มขึ้นประมาณ 384,430 ล้านบาทต่อปี สร้างการเติบโตและความมั่นคงทางเศรษฐกิจให้ไทยในอนาคตอย่างต่อเนื่อง” นายอนุชากล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'พปชร.' อึ้ง! งบซอฟพาวเวอร์ 5 พันกว่าล้าน ได้แค่กางเกงช้าง 77 จังหวัด

ตามที่ น.ส. แพรทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี  ได้ทำการโปรโมทกางเกงลายแต่ละจังหวัด 77 จังหวัด โดยคิดว่าเป็นซอฟพาวเวอร์ของประเทศไทยในการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ

‘ทักษิณ’ ติวการบ้าน ‘นายกฯอิ๊งค์’ บอกตอบได้ทุกเรื่อง ตอก ‘ปชน.’ อย่ารุ่นใหม่แค่อายุ

‘ทักษิณ’ ติวการบ้าน ‘อุ๊งอิ๊ง’ บอกตอบได้ทุกเรื่อง ตรงไปตรงมา ตอก ปชน. อย่ารุ่นใหม่แค่อายุ ลั่น ไม่มีใครมีสิทธิ์แลกประเทศ บอก มอนิเตอร์ซักฟอกแน่นอน ด่ามาได้ยิน รับ ‘ยิ่งลักษณ์’ ยังไม่ได้กลับสงกรานต์นี้ เหตุยังไม่เหมาะสม ระบุ ยังไม่คิดจับมือพรรคส้มตอนนี้ เป็นเรื่องอนาคต

การเมืองแบบสามก๊ก! ‘สุริยะใส’ แนะจับตาศึกซักฟอก ผลสุดท้ายใครจะได้ประโยชน์

รอบนี้แปลกไปกว่าทุกครั้งเพราะการเมืองไทยเข้าสู่โครงสร้างขั้วอำนาจแบบสามขั้ว สามก๊กเต็มตัว จึงต้องจับตาการอภิปรายและหลังการอภิปรายครั้งนี้อย่างใกล้ชิดว่า ผลลัพธ์สุดท้ายคืออะไร จะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองแบบใด และสังคมได้อะไร

‘องครักษ์เพื่อไทย’ ลั่นประท้วงแน่ หากอภิปรายเอ่ยชื่อจริงคนในครอบครัวนายกฯ

หากมาอภิปรายแบบก้าวร้าว เตือนไว้ว่าจะยิ่งส่งผลลบกับฝ่ายค้านเอง เพราะดูแล้วฝ่ายค้านคงไม่มีหมัดเด็ดอะไรมาอภิปรายนายกฯ ก็คงแค่เอาข้อมูลเก่าๆมาอภิปราย

‘อดีตสว.’ ขำกลิ้ง รัฐบาลรับมือฝ่ายค้าน สั่งอธิบดี-ปลัดแถลงโต้ ถามซักฟอกนายกฯหรือ ขรก.

อดีตสว.สมชาย ถามรัฐบาลวางเกมรับมือฝ่ายค้าน ง่ายนิดเดียว สั่งการให้อธิบดี ปลัดกระทรวง ต้องทำหน้าที่แถลงข่าวโต้ตอบฝ่ายค้านทันทีทุกประเด็น