คมนาคมโชว์ตัวเลขนักท่องเที่ยวเข้าไทยครบ 1 สัปดาห์แห่ใช้สนามบิน 2.24 หมื่นราย

“ศักดิ์สยาม” อัปเดตนโยบายเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว สนอง “นายกฯ” ครบ 1 สัปดาห์ มีผู้โดยสารใช้บริการสนามบิน ทอท. 4 แห่ง รวม 2.24 หมื่นราย คาดการณ์ 8-10 พ.ย.นี้ มีปริมาณเที่ยวบินอินเตอร์ขาเข้า 213 เที่ยวบิน ผู้โดยสารกว่า 1.5 หมื่นราย

8 พ.ย.2564-นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ตามที่เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2564 ที่ผ่านมา ประเทศไทยได้ดำเนินการนโยบายของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในการเปิดประเทศรับการเดินทางของนักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว และมีการตรวจ SWAP ตรวจหาเชื้อโควิด-19 แล้วไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง เพื่อต้องการฟื้นตัวทางด้านเศรษฐกิจ อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยว และเพิ่มกำลังการจับจ่ายใช้สอยภายในประเทศไทยนั้น 

ทั้งนี้โดยจากข้อมูลของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. พบว่า ตั้งแต่วันที่ 1-7 พ.ย. 2564 (ครบ 1 สัปดาห์) มีผู้โดยสารเดินทางเข้าประเทศไทย ผ่าน 4 สนามบินของ ทอท. รวม 22,423 ราย แบ่งเป็น ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 14,431 ราย, ท่าอากาศยานภูเก็ต 7,870 ราย, ท่าอากาศยานดอนเมือง 39 ราย และท่าอากาศยานเชียงใหม่ 83 ราย โดยในจำนวนดังกล่าว พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) จำนวน 20 ราย หรือ 0.09% ของผู้โดยสารทั้งหมด เป็นท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 8 ราย และท่าอากาศยานภูเก็ต 12 ราย

ทั้งนี้ เมื่อจำแนกผู้โดยสารตามประเภทต่างๆ ในแต่ละสนามบินของวันที่ 1-7 พ.ย. 2564 แบ่งเป็น 1.ผู้โดยสารรูปแบบ Test & Go หรือคนไทยและต่างชาติที่เดินทางจาก 63 ประเทศที่กำหนด สามารถเข้ามาโดยไม่จำเป็นต้องมีการกักตัว และสามารถเดินทางได้ทุกจังหวัด รวม 13,337 ราย พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 7 ราย ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีผู้โดยสารจำนวน 12,810 ราย ผู้ติดเชื้อ 3 ราย, ท่าอากาศยานภูเก็ต ผู้โดยสารจำนวน 844 ราย ผู้ติดเชื้อ 4 ราย และท่าอากาศยานเชียงใหม่ จำนวน 83 ราย

2.ผู้โดยสารรูปแบบ SandBox หรือผู้ที่เดินทางมาจากประเทศไหนก็ได้ (กรณีที่ไม่เข้าเกณฑ์ในกลุ่ม Test & Go) โดยใช้หลักการเดียวกันโปรแกรมแซนบ็อกซ์ (Sandbox) และต้องเดินทางเข้ามาในพื้นที่นำร่อง 17 จังหวัด (พื้นที่สีฟ้า) คือ ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มมีการตรวจหาเชื้อโควิดก่อนเดินทาง 72 ชั่วโมงด้วยวิธี RT-PCR รวม 7,582 ราย พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 8 ราย ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีผู้โดยสารจำนวน 579 ราย, ท่าอากาศยานภูเก็ต ผู้โดยสารจำนวน 7,003 ราย ผู้ติดเชื้อ 8 ราย

3.ผู้โดยสารรูปแบบ AQ หรือผู้ที่ไม่เข้าเกณฑ์ทั้ง 2 ประเภทข้างต้น สามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้ภายใต้เงื่อนไขการกักกัน ในสถานที่ที่ทางราชการกำหนด ทั้งสถานกักกันโรคที่รัฐจัดให้ (SQ) สถานกักกันโรคทางเลือก (AHQ) ที่จัดการโดยเอกชน สถานกักกันโรคของหน่วยงานหรือองค์กร (OQ) และสถานที่กักกันในส่วนของโรงพยาบาล (HQ) บางกลุ่มจะมีการกักตัว 7 -10 วัน รวม 1,104 ราย พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 5 ราย ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีผู้โดยสารกักตัว 7 วัน จำนวน 263 ราย และกักตัว 10 วัน จำนวน 779 ราย ผู้ติดเชื้อ 5 ราย, ท่าอากาศยานภูเก็ต ผู้โดยสารจำนวน 23 ราย, และท่าอากาศยานดอนเมือง ผู้โดยสารจำนวน 39 ราย

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่ออีกว่า ในส่วนของเที่ยวบินและผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศนั้น คาดการณ์ว่า วันที่ 8 พ.ย. 2564 (ข้อมูล ณ วันที่ 7 พ.ย. 2564) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จะมีปริมาณเที่ยวบิน 53 เที่ยวบิน ผู้โดยสาร จำนวน 3,076 ราย, ท่าอากาศยานภูเก็ต ปริมาณเที่ยวบิน 9 เที่ยวบิน ผู้โดยสารจำนวน 1,721 ราย และท่าอากาศยานดอนเมือง ปริมาณเที่ยวบิน 3 เที่ยวบิน ผู้โดยสารจำนวน 119 ราย

อย่างไรก็ตามขณะที่ วันที่ 9 พ.ย. 2564 คาดการณ์ว่า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จะมีปริมาณเที่ยวบิน 57 เที่ยวบิน ผู้โดยสาร จำนวน 3,145 ราย, ท่าอากาศยานภูเก็ต ปริมาณเที่ยวบิน 12 เที่ยวบิน ผู้โดยสารจำนวน 2,161 ราย และท่าอากาศยานดอนเมือง ปริมาณเที่ยวบิน 1 เที่ยวบิน ส่วนวันที่ 10 พ.ย. 2564 คาดการณ์ว่า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จะมีปริมาณเที่ยวบิน 66 เที่ยวบิน ผู้โดยสาร จำนวน 3,743 ราย, ท่าอากาศยานภูเก็ต ปริมาณเที่ยวบิน 12 เที่ยวบิน ผู้โดยสารจำนวน 884 ราย