‘คมนาคม’เตรียมพิจารณาขึ้นค่าโดยสารรถแท็กซี่ในรอบ 8 ปี หลังราคาไม่สะท้อนกับสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน หลังผู้ขับรถแท็กซี่ยื่นข้อเรียกร้อง ด้านขนส่งฯเผยจากข้อมูล TDRI ความเห็นหลายองค์กร ส่วนใหญ่เห็นด้วย
1 ก.ย. 2565 – นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะทำงานพิจารณาผลกระทบจากการปรับอัตราค่าจ้างบรรทุกคนโดยสาร สำหรับรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคน (TAXI – METER) ที่จดทะเบียนในเขตกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า จากข้อเรียกร้องจากผู้ขับรถแท็กซี่ นำโดยคณะกรรมการบริหารร่วม 4 สมาคมฯ ขอเสนอให้มีการปรับอัตราค่าโดยสารแท็กซี่เพิ่มขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากกว่า 8 ปี (ตั้งแต่ปี 2557 – 2565) ที่รถแท็กซี่ยังคงใช้อัตราค่าโดยสารเดิมอยู่ ซึ่งสวนทางกับอัตราค่าเชื้อเพลิงและค่าครองชีพที่ปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น กระทรวงคมนาคมจึงได้แต่งตั้งคณะทำงานขึ้น ซึ่งประกอบด้วย กระทรวงคมนาคม, กรมการขนส่งทางบก (ขบ.), TDRI, สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ฯลฯเพื่อพิจารณาอัตราค่าโดยสารที่เหมาะสม และศึกษาผลกระทบอย่างรอบด้าน
นายสรพงศ์ กล่าวต่อว่า TDRI ศึกษาแล้วพบว่า ประชาชนเดินทางด้วยระยะทางที่สั้นลง เที่ยววิ่งในการให้บริการเดินรถน้อยลง ส่งผลให้ต้นทุนการเดินรถสูงขึ้น รายได้ของผู้ขับรถแท็กซี่จึงลดน้อยลง เป็นผลให้จำนวนผู้ให้บริการรถแท็กซี่ลดน้อยลง โดยมีรถแท็กซี่ที่ให้บริการจริงประมาณ 60,000 คัน/วัน จากจำนวนรถทั้งสิ้น 80,000 คัน หรือคิดเป็น 75% ของรถแท็กซี่ทั้งหมด
อย่างไรก็ตามส่วนรายได้ของผู้ขับรถแท็กซี่มีทิศทางสวนทางกับค่าครองชีพในปัจจุบัน เมื่อเปรียบเทียบค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้นระหว่างปี 2557-2565 พบว่า มีอัตราเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 7% โดยคณะทำงานฯ จึงได้มอบหมายให้ ขบ. นำข้อมูลการศึกษาของ TDRI และข้อเรียกร้องของผู้ขับรถแท็กซี่ มาเปิดรับฟังความคิดเห็นของหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ มูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานสภาองค์กรของผู้บริโภค สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน TDRI และภาคประชาชน รวมถึงรับฟังความคิดเห็นในภาพรวมทาง Facebook ของกรมการขนส่งทางบก
นายสรพงศ์ กล่าวอีกว่า ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการปรับอัตราค่าโดยสารให้สอดคล้องกับอัตราค่าครองชีพที่เปลี่ยนแปลง โดยขอให้กระทรวงคมนาคม และ ขบ. พิจารณาอัตราค่าโดยสารที่สมดุลระหว่างข้อเสนอของผู้ขับรถแท็กซี่ที่เสนอสูงเกินไปกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประชาชน รวมทั้งต้องการให้รัฐควบคุมคุณภาพการให้บริการของกลุ่มรถแท็กซี่ให้มีประสิทธิภาพ ตอบสนองความต้องการของประชาชนเป็นหลักโดยขณะนี้ คณะทำงานยังอยู่ระหว่างการพิจารณาการปรับขึ้นอัตราค่าบริการให้สอดคล้องตามความเห็นของทุกภาคส่วน โดยยืนยันจะมิให้มีผลกระทบต่อภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนที่เกินกว่าดัชนีผู้บริโภคที่เพิ่มสูงขึ้นและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย อีกทั้งจะต้องปรับปรุงคุณภาพการให้บริการด้วย
ด้านนายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดี ขบ. กล่าวว่า หากมีการพิจารณาปรับอัตราค่าโดยสารผู้ขับรถแท็กซี่ต้องพัฒนาคุณภาพในการให้บริการประชาชน โดยไม่ปฏิเสธผู้โดยสาร และ ขบ.จะนำระบบตัดแต้มรถโดยสารสาธารณะมาใช้กำกับ ควบคุมคุณภาพการให้บริการอย่างเข้มงวด อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการพิจารณาคณะทำงานฯ หากประชาชนมีข้อเสนอแนะเพิ่มเติม สามารถแสดงความคิดเห็นผ่านทางระบบ Google Form ผ่านช่องทาง Facebook กรมการขนส่งทางบก PR.DLT.News