รัฐบาลปลื้มยอดส่งออกผลงานหัตถกรรมพุ่งกว่า1.64แสนล้าน!

รัฐบาลผลักดันผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมไทยสู่สากลต่อเนื่อง ปลื้มมูลค่าตลาดส่งออก 6 เดือนแรกปี 65 สูงกว่า 1.64 แสนล้านบาท

31 ส.ค.2565 - นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลยินดีที่มูลค่าตลาดส่งออกผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมไทยใน 6 เดือนแรกปี 2565 เติบโตถึงกว่า 1.64 แสนล้านบาท พร้อมกำชับทุกฝ่ายผลักดันสินค้าภูมิปัญญาไทยให้เป็นที่ต้องการของตลาดภายในและต่างประเทศเพิ่มขึ้น

โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ภายหลังการประกาศเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวภายในประเทศ ประกอบกับรัฐบาลผลักดันนโยบาย Soft Power ส่งเสริมอัตลักษณ์ท้องถิ่นไทยทุกมิติทั้งในและต่างประเทศของรัฐบาล กระทรวงพาณิชย์ โดย สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) หรือ SACIT ผู้รับผิดชอบงานด้านศิลปหัตถกรรมไทย ได้เปิดเผยมูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมไทย เฉพาะเดือนมิถุนายนมีมูลค่าสูงถึง 28,311 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น 18.72% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปี 2564 ในขณะที่ 6 เดือนแรกปี 2565 (มกราคม-มิถุนายน) มีมูลค่ารวม 164,579 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น 33.42% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องเงิน เครื่องทอง มีมูลค่ามากที่สุด 80,268 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น 43.48 % โดยปัจจุบันตลาดส่งออกหลัก ได้แก่ สหรัฐฯ ยุโรป ญี่ปุ่น และอาเซียน ตามลำดับ แสดงถึงแนวโน้มภาคการตลาดต่างประเทศที่ดีขึ้นจากสถานการณ์แพร่ระบาดโรคโควิด-19 และสภาพเศรษฐกิจโลกที่ผันผวนจากภัยความมั่นคงรูปแบบต่าง ๆ

นายอนุชา กล่าวอีกว่า SACIT ได้เตรียมจัดงานแสดงสินค้าศิลปหัตถกรรมและงานคราฟต์ร่วมสมัยฝีมือคนไทยแห่งปี งานอัตลักษณ์แห่งสยามครั้งที่ 13 (The 13th Identity of Siam) และ Crafts Bangkok 2022 ระหว่างวันที่ 8-11 กันยายน 2565 ณ ฮอลล์ 101-102 ศูนย์นิทรรศการและการประชุม ไบเทค บางนา โดยมุ่งหวังพัฒนายกระดับผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญาและผลักดันผู้ประกอบการสินค้าไทยสู่ตลาดสากล คาดจะมีผู้เข้าชมงานไม่ต่ำกว่า 30,000 ราย สร้างเงินสะพัดกว่า 140 ล้านบาท

“รัฐบาลมุ่งส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทยเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากให้มีความมั่นคง ยั่งยืน และสามารถพึ่งพาตนเองได้ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมบูรณาการการทำงาน พัฒนาผลิตภัณฑ์หัตถกรรมไทยให้มีมาตรฐาน มีรูปแบบทันสมัย สามารถใช้งานในชีวิตประจำวันได้ ตลอดจน เสริมสร้างองค์ความรู้ใหม่แก่ผู้ประกอบการเพื่อการสร้างสรรค์ผลงานอย่างมีประสิทธิภาพและพร้อมสู่ตลาดสากล” นายอนุชากล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ไทย-ตุรกี ชื่นมื่น รมช. สุชาติ จับมือ รมช. การค้าตุรกี ผลักดันเจรจา FTA ต่อ เพื่อสานสัมพันธ์การค้าการลงทุน

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตนได้พบหารือทวิภาคีกับนายมุสตาฟา ตุซคู (H.E. Mr. Mustafa Tuzcu) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการค้าสาธารณรัฐตุรกี ในห้วงการเดินทางเยือนตุรกี เพื่อเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการถาวรว่าด้วยความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้า

“รมช. สุชาติ” ร่วมเวทีครบรอบ 40 ปี COMCEC กระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับโลกมุสลิม มุ่งส่งเสริมการค้าผ่านระบบดิจิทัล

เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เข้าร่วมประชุม COMCEC ครั้งที่ 40 ณ นครอิสตันบูล สาธารณรัฐตุรกี เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางการค้า มุ่งกระชับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างไทยกับกลุ่มประเทศมุสลิม

พาณิชย์ติดตามสถานการณ์ข้าวหอมมะลิฤดูกาลใหม่ของเกษตรกร พร้อมเสนอมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรใน นบข. 8 พ.ย.นี้

พาณิชย์ลงพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด ทุ่งกุลาร้องไห้ ติดตามการซื้อขายข้าวเปลือกหอมมะลิฤดูกาลใหม่ ที่เริ่มทยอยออกสู่ตลาด และพบปะกลุ่มเกษตรกร และสหกรณ์

นายกฯ ปลื้มยอดผู้โดยสารใช้บริการสนามบินเกือบ 120 ล้านคน

นายกฯ ปลื้มยอดผู้โดยสารใช้บริการท่าอากาศยาน 6 แห่ง เกือบ 120 ล้านคนในปีงบประมาณ 2567 พร้อมเปิดใช้งานเช็กอินระบบ Biometric นำร่องผู้โดยสารในประเทศก่อนเริ่ม 1 พ.ย.นี้