"โออิชิ กรุ๊ป" โชว์ผลงานไตรมาส 3/2565 ปลื้มรายได้และกำไรเติบโตแข็งแกร่ง

30 ส.ค.2565 – นางนงนุช บูรณะเศรษฐกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงภาพรวมผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/2565  (1 เมษายน – 30 มิถุนายน 2565)ว่า บริษัทมีรายได้จำนวน 3,369 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 767 ล้านบาท หรือคิดเป็น 29.5% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยแบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจเครื่องดื่ม 1,957 ล้านบาท เติบโต 7.8%  และรายได้จากธุรกิจอาหาร 1,412 ล้านบาท เติบโต 79.4% ขณะที่มีกำไรสุทธิจำนวน 358 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 196 ล้านบาท เติบโตสูงถึง 120.5% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน

 “ภาพรวมเศรษฐกิจและธุรกิจอาหาร-เครื่องดื่มในประเทศเริ่มสดใส หลังเปิดประเทศและรัฐบาลประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังคงเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงรอบด้าน ทั้งจากต้นทุนสินค้าและค่าครองชีพที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นจากสถานการณ์การสู้รบระหว่างรัสเซียและยูเครน แต่ด้วยการปรับกลยุทธ์การตลาดของบริษัทฯ อย่างต่อเนื่องให้สอดคล้องกับสถานการณ์และ Consumer Insight ใหม่ ๆ ได้ทัน พร้อมดำเนินกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถสร้างรายได้และผลกำไรให้เติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง” นางนงนุช กล่าว

สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทฯ เติบโตต่อเนื่องในไตรมาสที่ 3 เนื่องจากธุรกิจเครื่องดื่มตอบโจทย์คนรักสุขภาพ ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ “โออิชิ กรีนที ฮันนี่ เลมอน น้ำตาล 0%” ซึ่งเป็นเครื่องดื่มทางเลือกสุขภาพที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคในปัจจุบัน จึงได้รับความสนใจและการตอบรับอย่างสูงจากผู้บริโภค โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าใหม่ ประกอบกับการต่อยอดความสำเร็จแคมเปญ “ดาบพิฆาตอสูร” ซีซั่นแรกที่ได้รับกระแสตอบรับดีมากจากผู้บริโภคกลุ่มคนรุ่นใหม่ จึงสร้างสรรค์ซีซั่น 2 ด้วยการออกแบบบรรจุภัณฑ์ลวดลายใหม่ของดาบพิฆาตอสูรในผลิตภัณฑ์ขนาด 350 มล. และ 380 มล. พร้อมทำกิจกรรมโปรโมทยังโรงเรียนต่างๆ ในช่วงเวลาเปิดภาคเรียน ส่งผลให้ยอดขายของธุรกิจเครื่องดื่มเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่ง 

ขณะที่ธุรกิจอาหารเติบโตมาจากการกลับมาเปิดให้บริการตามปกติของธุรกิจร้านอาหาร โดยเฉพาะในช่องทางบริการรับประทานอาหารที่ร้าน (Dine-in) ส่วนช่องทางการจัดจำหน่ายในรูปแบบ “บริการส่งตรงถึงบ้าน” (Home Delivery) ยังคงได้รับความนิยมและสร้างยอดขายที่เติบโตได้อย่างต่อเนื่องเช่นกัน นอกจากนั้นยังเดินหน้าเสริมความแข็งแกร่งธุรกิจร้านอาหาร เปิดร้านอาหารรูปแบบใหม่ ๆ  เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคในปัจจุบัน เช่น ร้านอาหารญี่ปุ่นจานด่วน “โออิชิ บิซโทโระ” (Oishi Biztoro) ที่เน้นขยายสาขาออกไปอยู่นอกห้าง เพื่อเข้าถึงง่าย สะดวกสบาย และให้ความคุ้มค่า รวมทั้งร้านอาหารแบบ A-la-carte ในรูปแบบชาบูสไตล์ญี่ปุ่น อย่าง ‘ร้าน ชาบู บาย โออิชิ’ (Shabu by Oishi) ด้านผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมปรุงพร้อมทานเร่งเครื่องสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องด้วยผลิตภัณฑ์เรดี้มีลและกลุ่มซอสปรุงรสบรรจุขวด พร้อมลุยทุกช่องทางการขาย ทั้งร้านสะดวกซื้อ ซุปเปอร์มาร์เก็ต ไฮเปอร์มาร์เก็ต ส่งผลให้เติบโตในช่องทางร้านค้าสมัยใหม่ พร้อมผลักดันการขายเกี๊ยวซ่าและแซนวิช จาก โออิชิ อีทโตะ (Oishi Eato) เป็นผลิตภัณฑ์เรือธงสร้างการเติบโตในตลาดต่างประเทศ

อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานใน 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2565 (1 ตุลาคม 2564 – 30 มิถุนายน 2565) บริษัทมีรายได้รวมทั้งสิ้น 9,362 ล้านบาท เติบโตเป็นจำนวน 1,724 ล้านบาท หรือคิดเป็น 22.6% จาก 9 เดือนแรกของปีก่อน โดยเป็นรายได้จากธุรกิจเครื่องดื่ม 5,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 689 ล้านบาท หรือ 14.6% และรายได้จากธุรกิจอาหาร 3,962 บาท เพิ่มขึ้น 1,035 ล้านบาท หรือ 35.4% ส่วนกำไรสุทธิรวม 1,011 ล้านบาท สูงขึ้นกว่า 485 ล้านบาท หรือ 92% จาก 9 เดือนแรกของปีก่อนจากทั้งธุรกิจเครื่องดื่มและธุรกิจอาหาร

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ตลาด mai เปิดกำไร บจ. ไตรมาส 1 รวมทะลุ 4.6 พันล้านบาท

บริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2567 มียอดขายรวม 54,030 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.2% ต้นทุนขาย และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้น 6.7% และ 6.4% ตามลำดับเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ บจ. มีความสามารถในการทำกำไรในไตรมาสที่ 1 ปี 2567 ดีขึ้น

เซ็นทรัล รีเทล โชว์รายได้ Q1 โกยรายได้ 6.7 หมื่นล้าน

นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC กล่าวว่า “เซ็นทรัล รีเทล เปิดปีโตต่อเนื่อง ด้วยผลประกอบการในไตรมาสแรก

OR เผยผลประกอบการไตรมาสแรก 2567 ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อนในทุกกลุ่มธุรกิจ เสริมแกร่งศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ มุ่งสู่การเป็น Data-Driven Organization ควบคู่กับการสร้างอนาคตอย่างยั่งยืน

OR เผยผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2567 มี EBITDA จำนวน 6,173 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 100% จากไตรมาสก่อน โดยเพิ่มขึ้นจากทุกกลุ่มธุรกิจ และมีกำไรสุทธิ 3,723 ล้านบาท

IRPC กำไร 1,545 ล้านบาท รุกเพิ่มสัดส่วนผลิตภัณฑ์ชนิดพิเศษใหม่ ตั้งเป้าขายน้ำมันดีเซลยูโร 5 เต็มสูบ

“IRPC” เผยกำไรไตรมาสแรก 1,545 ล้านบาท รุกเพิ่มสัดส่วนผลิตภัณฑ์ชนิดพิเศษตามแผนกลยุทธ์ ตั้งเป้าไตรมาส 2/2567 ลุยขายน้ำมันดีเซลยูโร 5 รองรับความต้องการภายในประเทศที่สูงขึ้น