"ไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์" วอนรัฐดูแลค่าเงินบาท-มาตรการถอดหน้ากาก หนุนเชื่อมั่นนักท่องเที่ยว

29 ส.ค. 2565 – นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ เปิดเผยว่า ปัจจัยเสี่ยงของอุตสาหกรรมการบินในช่วงครึ่งปีหลัง 2565 นั้น มองว่า มี 2 เรื่อง คือ 1.ราคาน้ำมัน ถึงแม้ว่าในขณะนี้ต้นทุนราคาน้ำมันจะลดลงอยู่ที่ 34-35% จากเดิมกว่า 40% 2.ค่าเงินบาทและอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งในเรื่องนี้อยากให้รัฐบาลเข้ามาช่วยดูแลความเหมาะสม เช่นเดียวกับเรื่องมาตรการการสวมใส่หน้ากากอนามัย ที่ต้องการอยากให้ถอดหน้ากากอนามัย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว และแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยปลอดภัย มีวัคซีน และแพทย์ที่มีศักยภาพ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น 

ขณะที่แนวโน้มการแข่งขันของธุรกิจการบินยังคงมีอย่างต่อเนื่อง แต่จะแข่งขันแบบฉลาดมากขึ้น เนื่องจากในช่วงโควิด-19 ทุกสายการบินบาดเจ็บค่อนข้างมาก และมีผลประกอบการขาดทุนกันมาตลอด โดยไม่มีมาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐเลย และทุกสายการบินก็ไม่มีทุนทรัพย์ที่จะใช้ราคามาแข่งขันเรื่องราคากันแล้ว แต่หลังจากนี้จะเป็นการใช้เทคนิคเรื่องการตลาด และภาพลักษณ์มาแข่งขันกันมากขึ้น 

ทั้งนี้ ล่าสุดสายการบินไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ (เที่ยวบิน XJ) เตรียมเปิดให้บริการเส้นทางใหม่บินตรงสู่ประเทศออสเตรเลีย 2 เส้นทาง ประกอบด้วย เส้นทาง กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ)-เมลเบิร์น 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ บินทุกวันพุธ พฤหัสบดี อาทิตย์ เริ่มให้บริการวันที่ 1 ธ.ค.2565 และเส้นทาง กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ)-ซิดนีย์ 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ บินทุกวันจันทร์ อังคาร ศุกร์ เสาร์ เริ่มให้บริการวันที่ 2 ธ.ค.2565 ด้วยเครื่องบินแอร์บัส เอ 330 จำนวน 377 ที่นั่ง มีทั้งชั้นธุรกิจ และชั้นประหยัด 

โดยในโอกาสเปิดเส้นทางบินใหม่ สายการบินไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ได้จัดโปรโมชั่นราคาสมาชิกแอร์เอเชีย เริ่มต้นที่ 5,990 บาท ทั้ง 2 เส้นทาง สำรองที่นั่งได้เเล้ว ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 4 ก.ย.2565 เดินทางได้ตั้งเเต่วันที่ 1 ธ.ค.2565-2525 มี.ค.2566 จองได้ที่ airasia Super App อย่างไรก็ตามมั่นใจว่าทั้ง 2 เส้นทางจะได้รับการตอบรับที่ดี ทั้งจากชาวไทย และชาวออสเตรเลีย โดยจากสถิติที่ผ่านมา พบว่า ชาวไทยเดินทางไปออสเตรเลียปีละประมาณ 1 แสนคน ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียเดินทางเข้าไทยปีละประมาณ 8 แสนคน คาดว่าอัตราการขนส่งผู้โดยสาร( Load Factor) อยู่ที่ประมาณ 85-90% 

สำหรับสายการบินไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ ยังคงเดินหน้าขยายเส้นทางบินระหว่างประเทศต่อเนื่อง โดยเดือน ต.ค.2565 เตรียมเปิดเส้นทางบินใหม่ กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ)-นิวเดลี (อินเดีย) รวมทั้งจะกลับมาเปิดเส้นทางบินเดิม โดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ให้มีจำนวนเที่ยวบินใกล้เคียง หรือเท่ากับช่วงที่เคยทำการบินก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งปัจจุบันให้บริการเส้นทางญี่ปุ่น 4 วันต่อสัปดาห์ จากเดิมให้บริการ 6 เที่ยวบินต่อวัน ขณะที่เกาหลีใต้ขณะนี้ให้บริการ วันละ 1 เที่ยวบิน จากเดิมวันละ 3 เที่ยวบิน  

โดยไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ คาดว่าในปี 2565 จะสามารถขนส่งผู้โดยสารรวม 3 แสนคน ขณะที่เมื่อปี 2562 ขนส่งผู้โดยสารอยู่ที่ประมาณ 2 ล้านคน ปัจจุบันมีเครื่องบินประจำฝูงบิน 8 ลำ โดยขณะนี้นำมาให้บริการ 3 ลำ และภายในสิ้นปีนี้ จะนำมาให้บริการอีก 3 ลำรวมเป็น 6 ลำ อย่างไรก็ตามในปี 2566 สายการบินฯ สนใจเปิดทำการบินไปยังประเทศรัสเซีย 2 เส้นทาง ได้แก่ มอสโก และเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กด้วย รวมทั้งจะพิจารณาจัดหาเครื่องบินมารองรับการเปิดเส้นทางการบินต่างๆ และความต้องการในการเดินทางของผู้โดยสารด้วย โดยปีนี้คาดการณ์ว่าจะขาดทุนน้อยลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา 

อย่างไรก็ตาม ความคืบหน้าการฟื้นฟูกิจการของสายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ (รหัสเที่ยวบิน XJ) นั้น เมื่อวันที่ 22 ส.ค. ที่ผ่านมา ศาลล้มละลายกลางได้นัดไต่สวน ครั้งที่ 1 หลังจากศาลล้มละลายกลางรับคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของสายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ เมื่อวันที่ 17 พ.ค.2565 ซึ่งเป็นการสอบถามถึงรายชื่อเจ้าหนี้ และจำนวนมูลหนี้ทั้งหมด ทั้งนี้ศาลฯ ได้นัดไต่สวนครั้งต่อไปในวันที่ 14 ก.ย.2565 คาดว่าปลายปี 2565 ศาลฯ จะมีคำสั่งให้สายการบินฯ เข้าสู่กระบวนการบริหารจัดการตามแผนฟื้นฟูฯ ต่อไป 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลชื่นชม 'ลิซ่า' สำนึกรักบ้านเกิด โปรโมต 'เยาวราช' หนุนท่องเที่ยวไทย

รัฐบาลชื่นชม 'ลิซ่า' แบบอย่างที่ดีของเยาวชนไทย ใช้เยาวราชในผลงานล่าสุด แสดงออกสำนึกรักบ้านเกิด ชูศักยภาพ ส่งเสริม Soft Power ท่องเที่ยวและวัฒนธรรมไทย

นายกโซเชียล สอน ‘นายกฯเศรษฐา’ พูดเรื่องท่องเที่ยวต้องดูทั้งดีมานด์-ซัพพลาย

‘พิธา’แนะนายกฯ ดูแลสาธารณูปโภคนักท่องเที่ยวให้พร้อม ก่อนจัดคอนเสิร์ตระดับโลกที่พัทยา หวั่นอุตสาหกรรมทำสะดุด

กฟผ.เสริมศักยภาพท่องเที่ยวเกาะสมุย เตรียมขยายเคเบิลใต้น้ำเพิ่ม 1 เส้นรองรับฮับท่องเที่ยว

เกาะสมุยเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากทั้งชาวไทยและต่างชาติ เห็นได้จากหลังวิกฤติโควิด-19 คลี่คลาย การท่องเที่ยวของเกาะสมุยกลับมาฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว