29 ส.ค. 2565 – นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.)ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ประชาชนจะเริ่มใช้จ่ายในโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 ได้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.ถึงวันที่ 31 ต.ค. 2565 โดยรัฐจะสนับสนุนค่าอาหาร เครื่องดื่ม สินค้าทั่วไป บริการนวด สปา ทำผม ทำเล็บ และบริการขนส่งสาธารณะ ตามที่กระทรวงการคลังกำหนด ในอัตรา 50% แต่ไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวัน และไม่เกิน 800 บาทต่อคน ตลอดระยะเวลาโครงการ
โดยล่าสุด ณ วันที่ 29 ส.ค. 2565 เวลา 15.00 น. มีประชาชนรายเดิมที่เคยใช้สิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 (ประชาชนรายเดิมฯ) กดยืนยันสิทธิเข้าร่วมโครงการ แล้วจำนวน 18.30 ล้านราย หรือคิดเป็น 70% ของจำนวนประชาชนรายเดิมฯ ทั้งสิ้นจำนวน 26.27 ล้านราย
“ขอเชิญชวนให้ผู้ที่ยังไม่ได้กดยืนยันสิทธิอีกจำนวนประมาณ 7.97 ล้านราย เร่งกดยืนยันสิทธิล่วงหน้าได้ง่าย ๆ ผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังผ่าน G-Wallet แบนเนอร์โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 เพื่อลดความแออัดของการใช้งานแอปพลิเคชันเป๋าตังในวันเริ่มการใช้จ่ายวันแรกในวันที่ 1 ก.ย. 2565 รวมถึงหากไม่ใช้สิทธิครั้งแรกภายในวันที่ 14 ก.ย. 2565 เวลา 22.59 น. จะถูกตัดสิทธิ” นายพรชัย กล่าว
สำหรับประชาชนรายใหม่ที่ไม่เคยใช้สิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 (ประชาชนรายใหม่ฯ) ที่ได้มีการลงทะเบียนเข้าร่วมครบจำนวน 2.30 แสนรายแล้ว และได้รับสิทธิแต่ยังไม่เคยยืนยันตัวตนด้วยบัตรประจำตัวประชาชนกับธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือยังไม่เคยทำธุรกรรมผ่านแอปพลิเคชัน Krungthai NEXT ซึ่งต้องผ่านการยืนยันตัวตนกับธนาคารกรุงไทย จะต้องทำการยืนยันตัวตนก่อนการใช้สิทธิครั้งแรก
โดยจะต้องนำบัตรประจำตัวประชาชนมายืนยันตัวตนผ่านตู้เอทีเอ็มสีเทาของธนาคารกรุงไทยฯ หรือ ณ ธนาคารกรุงไทยฯ สาขาใดก็ได้ จึงจะสามารถเริ่มใช้สิทธิได้ และเนื่องจากขณะนี้ประชาชนรายใหม่ฯ ได้รับการแจ้งยืนยันสิทธิทางข้อความสั้น (SMS) หรือข้อความผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังครบถ้วนแล้วทุกราย ดังนั้น ประชาชนรายใหม่ฯ ดังกล่าวจะต้องใช้จ่ายครั้งแรกผ่านเป๋าตังภายในวันพุธที่ 14 ก.ย. 2565 เวลา 22.59 น. มิฉะนั้นจะถูกตัดสิทธิ
นายพรชัย กล่าวอีกว่า ในส่วนของความคืบหน้าการลงทะเบียนผู้ประกอบการร้านค้านั้น ณ วันที่ 28 ส.ค. 2565 เวลา 23.00 น. มีผู้ประกอบการร้านค้าลงทะเบียนเข้าร่วมสะสมแล้วทั้งสิ้น 401,962 ร้านค้า ทั้งนี้ ผู้ประกอบการร้านค้าที่มีคุณสมบัติตามเงื่อนไขที่โครงการกำหนด ยังสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้อย่างต่อเนื่อง จนกว่ากระทรวงการคลังจะปิดรับสมัคร โดยผู้ประกอบการร้านอาหารและเครื่องดื่มยังสามารถเลือกเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการฟู้ดเดลิเวอรี่แพลตฟอร์มที่เข้าร่วมโครงการได้หนึ่งราย ผ่านแอปพลิเคชันถุงเงินได้ตั้งแต่เวลา 06.00 น. – 23.00 น. ซึ่ง ณ ปัจจุบันมีผู้ให้บริการฟู้ดเดลิเวอรี่แพลตฟอร์มที่ได้รับอนุมัติเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 เพิ่มเติมอีก 1 ราย รวมเป็นจำนวน 5 ราย ได้แก่ ช้อปปี้ฟู้ด, ไลน์แมน, แกร็บฟู้ด, ฟู้ดแพนด้า และทรูฟู้ด
อย่างไรก็ดี โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 5 และโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ระยะที่ 3 จะเริ่มให้ผู้มีสิทธิได้ใช้จ่ายระหว่างวันที่ 1 ก.ย.ถึงวันที่ 31 ต.ค. 2565 เช่นเดียวกัน โดยผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษที่เข้าร่วมโครงการดังกล่าว จะได้รับเงินช่วยเหลือ ค่าซื้อสินค้าจากร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นและค่าซื้อสินค้าหรือบริการจากร้านค้าหรือผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 โดยจะได้รับเงินช่วยเหลือจำนวนไม่เกิน 200 บาทต่อคนต่อเดือน (กรณีวงเงินคงเหลือในเดือนใดจะไม่มีการสะสมไปในเดือนถัดไป) รวมทั้งสิ้น 400 บาทต่อคน ตลอดระยะเวลาโครงการ โดยสามารถตรวจสอบสิทธิโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ระยะที่ 3 ได้ทาง https://เพิ่มกำลังซื้อ.คนละครึ่ง.com
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ฟุ้งปี68ศก.โต3% จ่อชงมาตรการ! กระตุ้นช่วงปีใหม่
“คลัง” ยืนเป้าหมายจีดีพีปี 2567 ยังโต 2.7% โอดน้ำท่วมทำเศรษฐกิจเป๋