'อาคม' การันตี 'บิ๊กตู่' พักทำหน้าที่ไม่กระทบศก.

“อาคม” การันตี “บิ๊กตู่” ครบวาระ 8 ปีไม่กระทบเศรษฐกิจ สั่งเดินเครื่องโครงการลงทุนประเดิมงบประมาณปี 2566 หวังช่วงเข็นเศรษฐกิจโตเต็มพิกัด 3-3.5% หลังส่งออก-ท่องเที่ยวพุ่งแรงหนุน

25 ส.ค. 2565 – นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.การคลัง กล่าวถึงกรณีการสิ้นสุดตำแหน่งของนายกรัฐมนตรีในวาระครบ 8 ปี ว่า ไม่กังวลว่าจะมีกระทบต่อเศรษฐกิจ เนื่องจากการลงทุนในโครงการต่าง ๆ มีข้อผูกพันอยู่แล้ว เรื่องเศรษฐกิจก็ดำเนินการตามนโยบายที่รัฐบาลวางไว้ ดังนั้นการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไปจะยังมีเสถียรภาพ

สำหรับเศรษฐกิจไทยในปีนี้ คาดว่าจะขยายตัวได้ 3-3.5% โดยครึ่งปีแรกโตแล้ว 2-5% ส่วนช่วงครึ่งปีหลังยังมีฃแรงสนับสนุนจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งคาดว่าปีนี้จะอยู่ที่ 8-10 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 4 ก่อนช่วงโควิด-19 และการส่งออกที่ขยายตัวต่อเนื่อง ซึ่งได้หารือกับสภาผู้ส่งออก โดยขอให้เร่งการส่งออกปีนี้พยายามให้ขยายตัวได้ไม่ต่ำกว่า 10% จากเป้าหมาย 7% ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกขยายตัว 12% เป็นการขยายตัวที่ดีจากปีที่ผ่านมาที่ขยายตัว 20%

“เรื่องเงินบาทที่อ่อนค่าลงพอสมควรเมื่อเทียบกับปี 2563-2564 จะเป็นประโยชน์ให้กับภาคอุตสาหกรรมส่งออก รวมทั้งภาวะเศรษฐกิจโลกยังมีความไม่แน่นอนสูง จึงยังมีความต้องการสินค้าของไทย โดยเฉพาะในหมวดอาหาร และสินค้าเกษตร จึงยังเป็นโอกาสในการส่งออก” นายอาคม กล่าว

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยภายในประเทศ ทั้งด้านการลงทุน ซึ่งในส่วนของการลงทุนภาครัฐ จะเร่งรัดการเบิกจ่ายในไตรมาส 4/2565 ซึ่งเป็นการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 ไตรมาสแรก ที่ผ่านการเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎร และเตรียมส่งเข้าสู่การพิจารณาชั้นวุฒิสภาในวันที่ 29 ส.ค. ซึ่งจะเริ่มใช้ในวันที่ 1 ต.ค.นี้ โดยจะเร่งรัดโครงการขนาดเล็ก ให้มีการเตรียมตัวประกวดราคาก่อนวันที่ 1 ต.ค. เมื่องบประมาณผ่าน ก็จะเบิกจ่ายรับเงินงวดได้ทันที

ทั้งนี้ ที่ผ่านมากรมบัญชีกลางได้มีมาตรการช่วยเหลือภาคอุตสาหกรรมการสร้าง โดยระเบียบการจัดซื้อจัดจ้าง การยกเลิกเบี้ยปรับ และขยายเวลาให้โครงการลงทุนที่ติดขัดไม่สามารถลงทุนได้ในช่วงโควิด-19 เพื่อให้ผู้รับเหมาได้มีการเตรียมตัว สำหรับโครงการลงทุนภาครัฐต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งตามปกติงบประมาณ จะมีเม็ดเงินในโครงการลงทุน คิดเป็น 1 ใน 4 ของแต่ละไตรมาส แต่ที่ผ่านมาไตรมาส 1 ของทุกปีงบประมาณ จะใช้ไม่ค่อยทัน

นายอาคม กล่าวอีกว่า เศรษฐกิจไทยยังได้รับแรงสนับสนุนจากการบริโภคภายในประเทศ แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อมีการคาดว่าจะปรับเพิ่มสูงสุดในไตรมาส 3/2565 และเริ่มชะลอลงในปีหน้า จะกระทบกับการใช้จ่าย ซึ่งรัฐบาลก็ได้มีมาตรการสนับสนุนกำลังซื้อออกไปแล้ว เช่น มาตรการคนละครึ่งเฟส 5 แม้จำนวนเงินจะไม่มาก แต่ก็ช่วยเหลือเศรษฐกิจระดับฐานล่าง ได้ประโยชน์อย่างมาก และมีการกระตุ้นใช้งบประมาณได้ตรงกลุ่มเป้าหมาย

อย่างไรก็ดี กระทรวงการคลังไม่ห่วงภาวะเศรษฐกิจถดถอย แม้ว่าหลายประเทศในโลกจะมีความกังวล แต่ไทยก็ยังมีการค้าและการลงทุนกับประเทศในภูมิภาค จากการทำข้อตกลงการค้าเสรีกับประเทศไทยในภูมิภาค ซึ่งจะเป็นเกราะกำบังต่อผลกระทบจากเศรษฐกิจโลก ซึ่งแต่ละประเทศก็สนับสนุนให้เกิดการค้าและการลงทุนเต็มที่ มีมาตรการจูงใจแตกต่างกัน ในส่วนของไทย ก็มีจุดแข็ง ในเรื่องของความสะดวกสบายและโครงสร้างพื้นฐาน ที่จะจูงใจนักลงทุน ให้เข้ามาลงทุนในประเทศเพิ่มขึ้น

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ภูมิธรรม' มั่นใจแจงศาลรัฐธรรมนูญได้ทุกเรื่องปมให้อำนาจแทรกแซงคดีฮั้ว สว.

ศาลรัฐธรรมนูญนัดไต่สวนพยานและผู้เกี่ยวข้อง คดีสถานะ อดีตรองนายกฯและอดีตรัฐมนตรียุติธรรม แทรกแซงคดีฮั้วเลือก สว. 'ภูมิธรรม' มั่นใจชี้แจงได้ทุกประเด็น

ศาลรัฐธรรมนูญ นัดไต่สวน 'ภูมิธรรม-ทวี' แทรกแซงคดีฮั้ว สว.

ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคำร้องในคดีที่ ประธานวุฒิสภาส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม