![](https://storage-wp.thaipost.net/2021/11/รถอีวี-1.jpg)
“ครม.” ไฟเขียวงบเฉียด 3 พันล้านบาท อัดฉีดมาตรการสนับสนุนใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า-รถEV หนุนหั่นราคาคันละ 1.8 หมื่นบาท-1.5 แสนบาท
24 ส.ค. 2565 – นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติงบประมาณปี 2565 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่าย วงเงิน 2,923 ล้านบาท เพื่อดำเนินการตามมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าประเภทรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ตามประกาศกรมสรรพสามิต เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการรับสิทธิตามมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าประเภทรถยนต์และรถจักรยานยนต์ เมื่อวันที่ 21 มี.ค.2565
โดยกรณีรถยนต์นั่ง หรือรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 คน ประเภท BEV ที่มีราคาขายปลีกแนะนำไม่เกิน 2 ล้านบาทสำหรับรถยนต์นั่ง หรือรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 คน ที่มีขนาดความจุของแบตเตอรี่ตั้งแต่ 10 กิโลวัตต์ชั่วโมงแต่น้อยกว่า 30 กิโลวัตต์ชั่วโมง จำนวนเงินอุดหนุน 7 หมื่นบาท/คันขณะที่รถยนต์นั่งหรือรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 คน ที่มีขนาดความจุของแบตเตอรี่ตั้งแต่ 30 กิโลวัตต์ชั่วโมงขึ้นไป จำนวนเงินอุดหนุน 1.5 แสนบาท/คัน
ทั้งนี้ กรณีรถยนต์กระบะประเภท BEV ที่มีราคาขายปลีกแนะนำไม่เกิน 2 ล้านบาท เฉพาะรถยนต์กระบะที่ผลิตในประเทศและมีขนาดความจุของแบตเตอรี่ตั้งแต่ 30 กิโลวัตต์ชั่วโมงขึ้นไป (เฉพาะรถยนต์กระบะที่ผลิตในประเทศเท่านั้น) จำนวนเงินอุดหนุน 1.5 แสนบาท/คันขณะที่กรณีรถจักรยานยนต์ประเภท BEV ที่มีราคาขายปลีกแนะนำไม่เกิน 1.5 แสนบาท จำนวนเงินอุดหนุน 1.8 หมื่นบาท/คัน
ส่วนผู้ขอรับสิทธิเพื่อขอรับเงินอุดหนุนตามมาตรการ จะต้องเป็นบุคคลตามประกาศกรมสรรพสามิตกำหนด เช่น ผู้ประกอบอุตสาหกรรมที่มีโรงงานอุตสาหกรรม ผู้นำเข้าที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ เป็นต้น และต้องเข้ามาทำข้อตกลงร่วมกับกรมสรรพสามิต เพื่อรับทราบและปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไข ที่กรมสรรพสามิตกำหนด และยอมรับบทลงโทษหากไม่สามารถดำเนินการได้
“ผู้เข้าร่วมโครงการจะต้องยื่นขอรับสิทธิตามมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าฯ สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าของตัวเองเป็นรายรุ่น เพื่อให้กรมสรรพสามิตพิจารณาโครงสร้างราคาขายปลีกแนะนำก่อนและหลังรับสิทธิ เพื่อให้ราคาขายปลีกแนะนำสำหรับยานยนต์รุ่นดังกล่าวสะท้อนถึงส่วนลดต่าง ๆ ที่ภาครัฐมอบให้ตามมาตรการ รวมทั้งนำส่งรวบรวมเอกสารหลักฐานการจำหน่ายและการจดทะเบียนยานยนต์ไฟฟ้าให้กรมสรรพสามิตเป็นรายไตรมาส เพื่อให้กรมสรรพสามิตดำเนินการพิจารณาอนุมัติจ่ายเงินอุดหนุนต่อไป” นายอนุชา กล่าว
อย่างไรก็ตาม หากผู้ประกอบกิจการไม่ดำเนินการผลิตรถยนต์นั่งรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 คน หรือรถจักรยานยนต์ แล้วแต่กรณี เพื่อชดเชยการนำเข้าให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด กรมสรรพสามิต จะเรียกคืนเงินอุดหนุนดังกล่าวจากผู้ได้รับเงินอุดหนุนเป็นรายคันตามจำนวนที่ไม่สามารถดำเนินการผลิตชดเชยได้ พร้อมดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี โดยไม่คิดทบต้น และจะบังคับตามหนังสือสัญญาค้ำประกันโดยธนาคารที่วางไว้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ครม.ไฟเขียว 'กองทัพกะทัดรัด' ทุ่มงบฯ 600 ล้าน 3 ปี ลดนายพล 732 นาย
ปูทางปฏิรูปกองทัพ รัฐบาลดันแผน “กองทัพกะทัดรัด” ลดกำลังพลระดับสูง แก้ปัญหาความคับคั่ง พร้อมเงินก้อนสูงสุด 10 เท่าของเงินเดือน ดึงทหารอาวุโสออกก่อนกำหนด ลดนายพล 732 นายใน 3 ปี
ขวางไม่อยู่แล้ว! ร่าง กม.กาสิโน 50 วันใกล้เสร็จ รอ 'ครม.' ไฟเขียวต้นมีนาคม
ร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนฯ จ่อเสร็จทันกรอบ 50 วัน เลขาฯกฤษฎีกาเผยปรับรายละเอียดแล้ว เหลือแค่รอครม.พิจารณาต้นมีนาคม ด้านสัดส่วนกาสิโนยังไม่นิ่ง แต่อาจไม่เกิน 10% ของพื้นที่ ระบุนักลงทุนต้องมีเงินทุนขั้นต่ำ 100,000 ล้าน และจ่ายค่าใบอนุญาต 5,000 ล้าน ส่วนประเด็นประชามติ ขึ้นอยู่กับรัฐบาล ไม่ใช่หน้าที่กฤษฎีกา
'ชูศักดิ์' ให้ฝ่ายค้านซักฟอกแค่ 2 วัน ฮึ่มพาดพิง 'พ่อนายกฯ' โดนฟ้องแน่
'ชูศักดิ์' มั่นใจกรอบอภิปรายไม่ไว้วางใจไม่เกิน 2 วัน หลังฝ่ายค้านขอถึง 5 วัน รอ ครม. เคาะสะดวกตอบวันไหน ขู่ซักฟอกพาดพิง 'ทักษิณ' ระวังโดนฟ้อง
ลากยาว! สมช. ส่งข้อมูลมั่นคงให้ 'กฟภ.-มท.' ตั้งกก.ร่วมไทย-เมียนมา ก่อนชงตัดไฟ
สมช. สรุปข้อมูลด้านความมั่นคง เสนอ 'กฟภ. - มท.' พิจารณาตัดไฟ ควบคู่ตั้งกรรมการร่วม 2 ฝ่ายไทย-เมียนมา เช็กจุดมีปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ย้ำต้องมีหลักฐานชัดเจนก่อนชง ครม. ตัดไฟ
'อนุทิน' ไม่รับเผือกร้อน! ยังรอคำสั่งตัดไฟเมียนมา เผย ป.ป.ส. ตอบกลับ กฟภ. แล้ว
'อนุทิน' ไม่รับเผือกร้อน ปมสั่งตัดไฟเมียนมา ชี้ต้องมีขั้นตอน ง่ายสุดเมียนมาแจ้งปัญหา-นายกฯ สั่งการ เผย ป.ป.ส. ตอบกลับ กฟภ. บริษัทคู่สัญญาไม่มีประวัติเอี่ยวยาเสพติด