'สันติ' การันตีรัฐแจกบัตรคนจนไม่อั้นแย้มใช้สิทธิ์รอบใหม่ได้ปลายก.พ.66

“สันติ” การันตีรอบนี้แจกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไม่อั้น ยันหากผ่านเกณฑ์ได้รับสิทธิ์ทั้งหมด พร้อมลงนามร่วม 47 หน่วยงาน เปิด 7 พันจุดรับลงทะเบียน แจงรายได้เกิน 1 แสนบาทต่อปี-ถือบัตรเครดิตหมดสิทธิ์

17 ส.ค. 2565 – นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.การคลัง เปิดเผยว่า การลงทะเบียนโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ กระทรวงการคลังยืนยันว่า ไม่ได้นำเรื่องงบประมาณที่จะใช้ มาเป็นตัวกำหนดว่า จะต้องมีผู้ได้รับสิทธิ์เท่าใด จากปัจจุบันที่มีผู้ได้สิทธิ์ 13.3 ล้านคน ซึ่งใช้งบประมาณช่วยเหลือปีละ 4.8 หมื่นล้านบาท การช่วยเหลืออาจจะได้เท่าเดิม หรือเพิ่มเป็น 15 ล้านคนก็ได้ วงเงินช่วยเหลือไม่จำกัด ถ้าผู้ลงทะเบียนเข้าเกณฑ์ กระทรวงการคลังก็ให้ทั้งหมด ไม่มีข้อจำกัดกรอบวงเงินว่าจะให้กี่ราย

ทั้งนี้ กรณีที่บัตรสวัสดิการรอบใหม่จะมีการช่วยเหลือค่าเช่าบ้าน ช่วยค่าไฟเพิ่มเติมจากมาตรฐานของบัตรหรือไม่นั้น รมช.การคลัง ระบุว่า ก็เป็นบางช่วงที่ประชาชนมีความลำบาก ปีที่ผ่านมามีโควิด-19 ช่องทางที่รัฐบาลจะให้ความช่วยเหลือกับประชาชนส่วนใหญ่รัฐบาลจะมองไปที่ผู้ด้อยโอกาส หรือผู้มีความยากจน ซึ่งเงินไม่พอใช้อยู่แล้ว ก็จะลงไปเยียวยาดูแลคนระดับนี้ก่อน เติมให้ไปในภาวะเศรษฐกิจที่มันถดถอย

“ถามว่าคนจนยังจนอยู่อย่างนี้หรือไม่ ถ้าไม่มีโควิดช่วง 2 ปี วันนี้คนจนอาจจะลดลงมาก เพราะรัฐบาลได้ทำการสร้างงานสร้างอาชีพไปค่อนข้างมาก แต่โควิด-19เกิดทั่วโลก มีสงครามยูเครนรัสเซีย ทำให้การค้าขายซบเซา” นายสันติ กล่าว

นายสันติ กล่าวอีกว่า กระทรวงการคลังได้ลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 กับ 47 หน่วยงาน โดยกำหนดวันลงทะเบียนโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 วันที่ 5 ก.ย.-19 ต.ค. 2565 ทางเว็บไซต์ http://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ http://welfare.mof.go.th และช่องทางการลงทะเบียน รวมทั่วประเทศกว่า 7,000 แห่ง โดยคาดว่าจะเริ่มใช้บัตรได้เร็วสุดปลายเดือน ก.พ.2566

ทั้งนี้ เมื่อจบการลงทะเบียน ก็ต้องเปิดโอกาสให้หน่วยงาน 47 แห่ง ตรวจสอบความถูกต้อง เช่น เรื่องที่ดิน เงินฝาก ทะเบียนราษฎร์ เป็นต้น รวมทั้ง ข้อมูลรายได้ต่อปีไม่เกิน 1 แสนบาท และครอบครัวรายได้เฉลี่ยต่อคนต่อปีไม่เกิน 1 แสนบาท ทรัพย์สินทางการเงินได้แก่ เงินฝาก สลาก พันธบัตรและตราสารหนี้ภาครัฐ ไม่เกิน 1 แสนบาท และครอบครัวเฉลี่ยไม่เกิน 1 แสนบาท ต้องไม่มีวงเงินกู้หรือมีวงเงินกู้ ณ เวลาใดเวลาหนึ่งแต่ไม่เกินหลักเกณฑ์ โดยวงเงินกู้บ้านต้องไม่เกิน 1.5 ล้านบาท วงเงินกู้รถไม่เกิน 1 ล้านบาท ต้องไม่มีบัตรเครดิต และไม่มีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น ซึ่งคลังจะเปิดโอกาสให้ผู้ที่ไม่ผ่านเกณฑ์สามารถอุทธรณ์ได้

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ไม่สามารถบอกได้ว่า ผู้ที่ได้บัตรคนจนเดิม 13.3 ล้านคนจะได้สิทธิ์ หรือถูกตัดสิทธิ์ ตามเกณฑ์ใหม่เท่าใด เนื่องจากเป็นการใช้ข้อมูลปี 2560 ซึ่งกลุ่มดังกล่าวจะต้องมาลงทะเบียนใหม่ทั้งหมด ก็จะทราบว่าเหลือผู้รับสิทธิ์กี่ราย แต่คาดว่าคนลงทะเบียนน่าจะมากกว่าที่ผ่านมา อยากให้รอความชัดเจนหลังการตรวจสอบก่อน ผู้ได้สิทธิ์ที่จะได้ยังเหมือนเดิม และจะให้ความเป็นธรรมกับผู้มาลงทะเบียนมากที่สุด

เพิ่มเพื่อน