ลลิลโชว์ไตรมาส2โกยกว่า1.6พันล้าน

ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ประกาศผลประกอบการไตรมาสสอง ยอดรับรู้รายได้ 1,632.7 ล้านบาท กำไรสุทธิ 338.1 ล้านบาทพร้อมประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาลหุ้นละ 0.305 บาท

16 ส.ค. 2565- นายชูรัชฏ์ ชาครกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าผลประกอบการไตรมาสสอง ปี 2565 มียอดรับรู้รายได้ที่ 1,632.7 ล้านบาท ขยายตัวจากไตรมาสก่อนหน้า 3% แต่หดตัวเล็กน้อยจากช่วงเดียวของปีก่อนที่ 2.5% ทั้งนี้บริษัทยังคงรักษาความสามารถในการบริหารจัดการต้นทุนต่างๆ ได้ดี ในภาวะที่อัตราเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้นทั่วโลก โดยบริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 39.2% รวมถึงการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายในการขาย และการบริหาร ได้ดีกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม ส่งผลให้ในไตรมาส 2 ปี 2565 นี้ บริษัทมีกำไรสุทธิที่ 338.1 ล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนกำไรสุทธิที่ 20.7%

ทั้งนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ได้มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้กับผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.305 บาท เพิ่มขึ้นจากอัตราเงินปันผลระหว่างกาลปีก่อนหน้าที่ 3.4% โดยกำหนดวัน Record Date ผู้มีสิทธิรับเงินปันผลในวันที่ 30 สิงหาคม 2565 และจะจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นในวันที่ 9 กันยายน 2565 ซึ่งเมื่อเทียบกับระดับราคาหุ้นปัจจุบัน คิดเป็น Dividend Yield ทั้งปีที่ราว 6.9%

สำหรับการขยายธุรกิจ มั่นใจว่าในปีนี้บริษัทจะสามารถขยายธุรกิจ เปิดโครงการใหม่ได้เป็นไปตามแผนงานที่ตั้งไว้ โดยในปีนี้ มีการเปิดโครงการใหม่ไปแล้วทั้งสิ้น 6 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 5,000 ล้านบาท และอยู่ระหว่างเตรียมเปิดโครงการใหม่เพิ่มเติมอีก 2 โครงการ ในไตรมาส 3 นี้ และที่เหลือในไตรมาสสุดท้ายของปีอีก 1-2 โครงการ ซึ่งแม้บริษัทจะมีการขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่บริษัทมีการบริหารความเสี่ยงด้านการเงินอย่างรัดกุม มีการใช้แหล่งเงินทุนที่หลากหลาย มีวงเงินสำรองที่ยังไม่เบิกใช้อีกจำนวนมาก

รวมถึงการหมุนรอบธุรกิจที่รวดเร็ว ช่วยให้บริษัทมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดย ณ สิ้นไตรมาสองนี้ มีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) เพียง 0.58 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมซึ่งอยู่ที่ราว 1.38 เท่า และหากพิจารณาในแง่ของตัวเลข Net D/E ณ สิ้นไตรมาสสอง อยู่ที่ระดับเพียง 0.23 เท่า สะท้อนความเสี่ยงทางการเงินที่ต่ำ และศักยภาพในการขยายธุรกิจในอนาคตของบริษัท โดยไม่ติดปัญหาด้านสภาพคล่อง

 

เพิ่มเพื่อน