'จับกัง1' ดันปรับค่าแรงเข้าครม.กันยานี้ หวังมีผลบังคับใช้ตุลา ยันไม่เกี่ยวการเมือง

9 ส.ค.2565- ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าการปรับค่าแรงขั้นต่ำ ว่า ตนได้มอบนโยบายให้ปลัดกระทรวงแรงงานไปประชุมไตรภาคีจังหวัด ซึ่งได้มีการประชุมทุกจังหวัดแล้ว และขณะนี้ได้ตัวเลขมาหมดแล้ว โดยจะมีการเกลี่ยตัวเปอร์เซ็นต์ให้เหมาะสม ซึ่งข้อเท็จจริงตัวเลขแต่ละจังหวัดต่างกัน 1-2 บาท และแบ่งเป็นหลายช่วง กำลังปรับขึ้นให้อยู่โดยจะทำทั้งหมด 12 ช่วง ซึ่งตัวเลขจะไม่เท่ากันทุกจังหวัด และเป็นไปไม่ได้ที่จะขึ้นพร้อมกันทุกจังหวัด เพราะจีดีพีแต่ละจังหวัดไม่เหมือนกัน

รมว.แรงงาน เผยว่า ได้ให้นโยบายกับปลัดกระทรวงแรงงานไปแล้วว่าจะต้องทำให้จบภายในเดือนส.ค. และน่าจะเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ช่วงต้นเดือนก.ย. จากเดิมที่วางเอาไว้ให้มีผลบังคับใช้ช่วงต้นปี 2566 แต่ครั้งนี้เวลา 1 ปี กว่าที่ผ่านมาเราไม่ได้มีการปรับค่าแรงเลย เนื่องจากต้องแก้ปัญหาและเยียวยาประชาชนในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 รัฐบาลทำได้แต่ประคับประคองไม่ให้เลิกจ้าง แต่วันนี้เป็นเวลาที่เหมาะสม นายจ้างเห็นดีเห็นงาม เพราะต้องการให้ลูกจ้างอยู่กับเขาต่อ ส่วนตัวเลขค่าแรงขั้นต้ำที่เรากำหนดอยู่ 5-8 เปอร์เซ็นต์นั้น เรามีพื้นฐานการตั้งตัวเลขมาจากจีดีพีและภาวะเงินเฟ้อ โดยเอาจีดีพีของแต่ละจังหวัดมาบวกลบคูณหารจะสามารถตอบคำถามได้ว่าทำไมแต่ละจังหวัดได้ในปริมาณเท่านี้

นายสุชาติ กล่าวว่า ขณะที่สถานการณ์ค่าของชีพก็ล้อจากฐานเดิม ซึ่งในช่วงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต พื้นที่จังหวัดในอีอีซี และพื้นที่กทม. ต้องขึ้นก่อนและสูงขึ้นไป เพราะค่าครองชีพและจีดีพีจังหวัดดังกล่าวสูง ย้ำว่าเราจะเร่งรัดเพื่อนำเข้าครม.ในเดือนก.ย.ให้ได้ ส่วนตัวอยากให้มีผลบังคับใช้วันที่ 1 ต.ค. เพราะคิดว่าเป็นเวลาที่เหมาะสม ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนหารือกับสภานายจ้างว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะปรับให้ขึ้นเร็วกว่าต้นปี 2566 เพราะขณะนี้สินค้าอุปโภคบริโภคมีการปรับตัวไปแล้ว อย่างไรก็ดี ขอให้เชื่อมั่นว่านายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับเรื่องนี้

เมื่อถามว่า การทำเรื่องนี้จะทำให้รัฐบาลถูกมองว่าเป็นการใช้ประโยชน์ทางการเมืองหรือไม่ รมว.แรงงานตอบว่า มองว่าเป็นเรื่องช่วงเวลามากกว่า ถ้าคิดว่าการขึ้นค่าเเรงเป็นเรื่องการเมือง คงขึ้นค่าแรง 492 บาทตามข้อเรียกร้องของผู้นำแรงงานไปแล้ว ขอร้องอย่าเอาเรื่องค่าแรงเป็นเรื่องการเมือง เพราะเป็นเรื่องของเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศชาติ เราไม่สามารถเอาเรื่องค่าแรงเป็นเรื่องการเมือง แต่เราปรับตามเวลาที่เหมาะสม.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“สุชาติ” เผยผล เจรจา KTEPA ไทย – เกาหลีใต้ รอบแรก คาดเพิ่มตัวเลขส่งออกไทยไปเกาหลีใต้ สูงถึงร้อยละ 77 สองฝ่าย ย้ำความตั้งใจสรุปผลได้ภายในปี 2568

รมช.พณ.สุชาติ เผยผลการประชุมระหว่างไทยและสาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) ที่เริ่มประชุมเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรี (FTA)

“สุชาติ”ลงพื้นที่ จ.ชุมพร ดูแลชาวสวนมังคุด พร้อมแจกกล่องใส่ผลไม้ให้ชาวสวน 20,000 กล่อง ช่วยลดต้นทุน

วันที่ 15 มิถุนายน 2567 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตนได้รับมอบหมายจากรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ท่านภูมิธรรม เวชยชัย ให้ลงพื้นที่สวนมังคุด ณ สวนภูดิศ ตำบลวังตะกอ อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร โดยนายสุชาติ เปิดเผยว่า

'พิพัฒน์' รุกเปิดตลาด ให้แรงงานไทยทำงาน อิตาลี หารือทวิภาคี ไฟเขียว เตรียมเสนอครม. เอ็มโอยูต่อไป

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน หารือทวิภาคีกระชับความร่วมมือด้านแรงงาน กับ คุณมาริน่า เอลวิร่า คัลเดโรเน่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงนโยบายด้านแรงงานและสังคมอิตาลี

"สุชาติ” ดัน ITD นำนโยบายรัฐต่อยอดวิจัยพร้อมจัดอบรม พัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ

วันที่ 11 มิถุนายน 2567 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยหลังพบกับผู้บริหารสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (องค์การมหาชน) (สคพ.) พร้อมด้วยคณะที่ปรึกษาและคณะทำงานรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ว่า

“สุชาติ” ยก สำนักนโยบายและ ยุทธศาสตร์การค้า ฯเป็นคลังสมองกระทรวงฯ สานต่อนโยบายภูมิธรรม 5 ด้าน ‘ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจการค้าไทย’

รมช.พณ.สุชาติ นำคณะที่ปรึกษาและคณะทำงานรัฐมนตรีช่วยเข้าเยี่ยม สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) พร้อมสานต่อนโยบายรมว.ภูมิธรรม 5 ด้าน มอบ สนค. เป็นหน่วยงานคลังสมอง (Think Tank) ของกระทรวงพาณิชย์

‘สุชาติ’ มอบนโยบาย ‘กรมเจรจาฯ’ เร่งดันผู้ประกอบการไทยใช้ประโยชน์ FTA ลุยเจรจาปิดดีลกับคู่ค้า หนุนตั้งกองทุน FTA ช่วยผู้ได้รับผลกระทบ

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยหลังประชุมมอบนโยบายกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2567 พร้อมด้วยคณะที่ปรึกษาและคณะทำงาน ว่า