ส.อ.ท.โชว์ยอดผลิตรถยนต์ครึ่งปีโต3% ชี้ยอดขายในประเทศพุ่งส่งออกซบ

ส.อ.ท.โชว์ยอดผลิตรถยนต์ มิ.ย. โตต่อเรื่อง ภาพรวม 6 เดือนขยายตัว 3% ปลื้มยอดขายรถในประเทศกระเตื้อง แต่ยังสวนทางยอดส่งออกหลังพบปัจจัยกระทบเพียบ หวั่นลดเป้าหมายการผลิตปีนี้ลงเหลือ 1.7 ล้านคัน

26 ก.ค. 2565 – นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่ายอดผลิตรถยนต์เดือนมิ.ย.2565 ผลิตได้ 143,016 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 6.53% โดยภาพรวมยอดผลิตรถยนต์ 6 เดือน(ม.ค.-มิ.ย.2565) ผลิตได้ 870,109 คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 3.02% เนื่องจากการผลิตเพื่อขายในประเทศเพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 20.69% คิดเป็นสัดส่วน 50.35% ของยอดการผลิต และเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 10.67%

โดยสอดคล้องกับยอดขายรถยนต์ภายในประเทศอยู่ที่ 67,952 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 4.6% หลังรัฐบาลคลายล็อกดาวน์เพิ่มขึ้นและการเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวและนักลงทุนต่างชาติเดินทางเข้าประเทศได้สะดวกขึ้น การส่งออกที่เติบโตโดยเฉพาะสินค้าเกษตร การประกันรายได้เกษตรกร การกระตุ้นเศรษฐกิจเช่นเราเที่ยวด้วยกันเป็นต้น ทำให้ประชาชนมีรายได้มากขึ้น ความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมและความเชื่อมั่นผู้บริโภคดีขึ้น

“ภาพรวม 6 เดือนยอดผลิตเพื่อขายในประเทศอยู่ที่ 427,533 คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 19.30% ส่วนยอดขายในประเทศอยู่ที่ 427,399 คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 14.5% จึงมีความเป็นไปได้ที่ยอดผลิตเพื่อขายในประเทศปีนี้อาจจะผลิตได้ 8.5 แสนคัน สูงกว่าเป้าหมายปัจจุบันคาดการณ์ไว้ที่ 8 แสนคัน”นายสุรพงษ์ กล่าว

นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ขณะที่ยอดผลิตเพื่อส่งออกเดือนมิ.ย.ผลิตได้ 71,002 คัน คิดเป็นสัดส่วน 49.65% ของยอดการผลิต ลดลงจากเดือนช่วงเดียวกันของปีก่อน 4.79% ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปอยู่ที่ 73,887 คัน ลดลงจากปีก่อน 11% เพราะขาดชิ้นส่วนและเซมิคอนดักเตอร์ ทำให้ผลิตรถยนต์นั่งลดลง 53.52% และรถอเนกประสงค์ที่มีพื้นฐานมาจากกระบะ (PPV) ลดลง 34.51 ส่งออกลดลงในตลาดเอเชีย ออสเตรเลีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ มูลค่าการส่งออก 42,781.17 ล้านบาท ลดลง 13.18%

“ส.อ.ท.ประเมินยอดผลิตเพื่อส่งออก 6 เดือนที่ผลิตได้ 442,578 คัน ลดลงจากปีก่อน 8.98% และยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปที่ 449,644 คัน ลดลงจากปีก่อน 5.04% และมีมูลค่าการส่งออก 266,654.08 ล้านบาท ลดลง 1.50% เป็นปัจจัยให้ส.อ.ท.ต้องทบทวนเป้าหมายการผลิตรถยนต์ปีนี้ใหม่เร็วๆ นี้ ว่าจำเป็นต้องปรับประมาณการใหม่หรือไม่ โดยจะนำปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วน สงครามรัสเซียและยูเครน รวมถึงการห้ามนำเข้ารถยนต์ของเมียนมาร์มาประกอบการพิจารณา ซึ่งอาจมีความเป็นได้ว่าจะปรับลดเป้าหมายการผลิตรถยนต์ปีนี้ลงมาอยู่ที่ 1.7 ล้านคัน จาก 1.8 ล้านคัน แม้ยอดผลิตเพื่อขายในประเทศจะเพิ่มขึ้นก็ตาม”นายสุรพงษ์ กล่าว
ในส่วนของยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภทยานยนต์ไฟฟ้าแบตแตอรี่(BEV) เดือนมิ.ย.2565 มียอดจดทะเบียนใหม่ 1,623 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 229.21% และภาพรวม 6 เดือน มีรถ BEV จดทะเบียนใหม่สะสม 7,325 คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 169.40 ทำให้มั่นใจว่าปีนี้ทั้งปีจะมีรถ BEV จดทะเบียนใหม่สะสมรวม 10,000 คันอย่างแน่นอน