มาตรการ 'รวมหนี้' สำเร็จ รัฐบาลเปิดรายชื่อ 14 ธนาคาร ร่วมรีไฟแนนซ์-โอนหนี้

รัฐบาลขอบคุณทุกฝ่ายร่วมแก้หนี้ครัวเรือน เปิดรายชื่อ 14 ธนาคาร ร่วมรีไฟแนนซ์-โอนหนี้ข้ามธนาคาร

24 ก.ค. 2565 – นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการขับเคลื่อนการแก้หนี้ครัวเรือนของรัฐบาล ซึ่งที่ผ่านมาได้นำร่องในกลุ่มลูกหนี้ กยศ. ข้าราชการครูและตำรวจที่กู้ยืมจากสหกรณ์ ซึ่งมีความคืบหน้าและเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม สำหรับในส่วนของลูกหนี้อื่นๆที่กู้ยืมจากธนาคารพาณิชย์ ทางธนาคารแห่งประเทศไทยและกรมบังคับคดีได้ขับเคลื่อนเรื่องการเจรจาแก้หนี้และประนอมหนี้ อีกทั้งทางธนาคารแห่งประเทศไทยยังได้เป็นตัวกลางออกมาตรการ “รวมหนี้” สนับสนุนการรีไฟแนนซ์ (refinance) ตั้งแต่กันยายน 2564 แต่ยังพบว่าลูกหนี้ยังได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง จึงได้ออกมาตรการสนับสนุนการรีไฟแนนซ์และการรวมหนี้เพิ่มเติม เพื่อช่วยลดภาระให้กับลูกหนี้ที่มีประวัติการชำระหนี้ดีหรือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ซึ่งการรีไฟแนนซ์ คือ การปิดสินเชื่อจากเจ้าหนี้เดิมและย้ายไปใช้สินเชื่อของเจ้าหนี้ใหม่ ประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นแก่ลูกหนี้ คือ 1)อัตราดอกเบี้ยลดลง ลูกหนี้จะมีสภาพคล่องเพิ่มขึ้น 2)เหลือหนี้ก้อนเดียวและอัตราดอกเบี้ยอัตราเดียวทำให้การชำระหนี้ง่ายขึ้น 3) ลดโอกาสการเสียประวัติลูกหนี้ หากเจรจารวมหนี้สำเร็จก่อนเกิดปัญหาหนี้เสีย

ทั้งนี้การรวมหนี้แบ่งออกเป็น 3 รูปแบบหลัก คือ 1.การรวมหนี้ภายในสถาบันการเงินเดียวกัน2.การรวมหนี้ระหว่างสถาบันการเงิน โดยโอนหนี้บัตรจากธนาคารแห่งหนึ่งไปรวมกับหนี้บ้านของธนาคารอีกแห่งหนึ่ง หรือจะเป็นการโอนหนี้บ้านไปรวมกับหนี้บัตรก็ได้ 3.การโอนหนี้บ้านและหนี้สินเชื่อรายย่อยประเภทอื่นไปรวมกันที่สถาบันการเงินแห่งใหม่ที่ลูกหนี้ไม่เคยมีหนี้ด้วยมาก่อน ขณะนี้ มี 14 ธนาคารที่สามารถยื่นขอรวมหนี้ภายในธนาคารหรือต่างธนาคารได้แล้ว คือ กรุงเทพ กรุงไทย กรุงศรีอยุธยา กสิกร เกียรตินาคิน ซีไอเอ็มบีไทย ทหารไทยธนชาติ ทิสโก้ ไทยพาณิชย์ ยูโอบี แลนด์แอนเฮ้าส์ ไอซีบีซี ออมสิน และอิสลามแห่งประเทศไทย ส่วนที่อยู่ในขั้นดำเนินการ คือ ธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อย

อย่างไรก็ตาม มีข้อควรรู้สำหรับลูกหนี้ คือ 1.ลูกหนี้สามารถรวมหนี้ได้ไม่เกินมูลค่าของหลักประกัน ทั้งนี้ หากยอดหนี้ของสินเชื่อรายย่อยสูงกว่ามูลค่าหลักประกันสามารถขอรวมหนี้บางส่วนได้ 2.ลูกหนี้ต้องให้ความยินยอมเปิดเผยข้อมูลที่จำเป็น เช่น ชื่อเจ้าหนี้ ยอดหนี้คงค้าง แก่ธนาคารที่ทำการรวมหนี้ 3.ลูกหนี้อาจถูกพิจารณาปรับลดวงเงินส่วนที่นำไปรวมหนี้ เพื่อให้อยู่ในระดับที่ลูกหนี้สามารถบริหารจัดการได้

“รัฐบาลขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมมือกันแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลไม่สามารถจัดการให้ลุล่วงเพียงฝ่ายเดียวได้ การที่ธนาคารแห่งประเทศไทยและธนาคารพาณิชย์ได้ยื่นมือเข้าช่วยเหลือประชาชนที่กำลังประสบปัญหาสภาพคล่อง ถือเป็นแรงหนุนสำคัญที่จะทำให้หนี้ภาคประชาชนคลี่คลาย ในส่วนของรัฐบาลก็ได้เร่งแก้ไขในหลายมิติทั้งเรื่องช่วยเหลือลูกหนี้กยศ ลูกหนี้สหกรณ์ครู รวมถึงการเสนอร่างกฎหมายต่างๆที่จะอำนวยความเป็นธรรมแก่ลูกหนี้ อาทิ การเช่าซื้อรถยนต์ การแก้กฎหมายประกันสังคมเพื่อให้ผู้ประกันตนนำเงินสะสมบางส่วนมาใช้ในยามประสบปัญหาสภาพคล่อง ซึ่งเรื่องนี้คงต้องขอให้ทางสภาผู้แทนราษฏรเร่งพิจารณาโดยด่วนเพื่อประโยชน์ของประชาชนจำนวนมาก” นางสาวรัชดา กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

จับตา นายกฯอิ๊งค์ นั่งบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจวันนี้ เคาะแก้หนี้ - แจกเงินหมื่นรอบใหม่

"คลัง" เตรียมชงบอร์ดนโยบายฯ เคาะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแพ็กเกจใหญ่ 19 พ.ย.นี้ เดินหน้า "แก้หนี้-อุ้มอสังหาฯ-มาตรการภาษี-ดิจิทัลวอลเล็ต" ปูพรมกระตุ้นตั้งแต่ปลายปีนี้- จนถึงปีหน้า

เตือนทูต 18 ประเทศ อย่าแทรกแซงศาลไทย คดี 'ยุบก้าวไกล'

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก อดีต สส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงท่าทีของทูต 18 ประเทศ ต่อการพิจารณาคดีพรรคก้าวไกลของศาลรัฐธรรมนูญ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 7 ส.ค.นี้

รีไฟแนนซ์บ้านที่ไหนดี? คู่มือรีไฟแนนซ์ฉบับครบจบในที่เดียว

การมีบ้านเป็นของตัวเองถือว่าเป็นความฝันของใครหลายคน แต่ภาระหนี้สินจากการกู้ซื้อบ้านก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม การรีไฟแนนซ์บ้าน

'รัชดา' แนะเพื่อไทยอ่านบทความ IMF จะได้ไม่เขลาเรื่องอิสระของแบงค์ชาติ

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก อดีตส.ส.กทม พรรคประชาธิปัตย์ และอดีตรองโฆษกรัฐบาล โพสต์เฟซบุ๊คชวนพรรคเพื่อไทยอ่านบทความจาก กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)

'รัชดา' ทักนายก เพ้อเจ้อ! ตั้งเป้าขายทุเรียน 1 ล้านล้าน

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก อดีตรองโฆษกรัฐบาล และอดีต ส.ส พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัววิจารณ์นายก กับเป้าหมายทุเรียน 1ล้านล้านบาท ในสิบปี