ขสมก.ลุ้นแผนจ้างเอกชนวิ่งรถอีวี 224 คันคาดได้ผู้ชนะปลายปีนี้

”ขสมก.”กางแผนเดินหน้าจ้างเอกชนวิ่งรถอีวี 224 คัน  วงเงิน 953 ล้าน คาดได้ผู้ชนะปลายปีนี้ ลุ้นเห็นรถล็อตแรกต้นปี66 ชี้หากโครงการสำเร็จจะช่วยลดต้นทุนค่าน้ำมันเชื้อเพลิงประมาณ 70 ล้านบาทต่อปี ย้ำโครงการโปร่งใสตรวจสอบได้

22 ก.ค.2565 – นายกิตติกานต์ จอมดวง จารุวรพลกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยภายหลังการลงนาม บันทึกข้อตกลงคุณธรรม ร่วมมือป้องกันการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ระหว่างหน่วยงานของรัฐ เจ้าของโครงการ ผู้ประกอบการ และผู้สังเกตการ ในโครงการจ้างเหมาบริการเดินรถโดยสารปรับอากาศที่ใช้พลังงานสะอาด(อีวี) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริการ จัดการเดินรถ และลดมลภาวะในเขตเมือง จำนวน 224 คัน วงเงิน 953 ล้านบาท 

นายกินติกานต์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาโครงการนี้ได้มีการเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการบริหารกิจการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (บอร์ดขสมก.) ได้เห็นชอบโครงการดังกล่าวแล้ว แต่ช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2565 เบื้องต้นทาง ขสมก. เล็งเห็นว่าโครงการดังกล่าวมีผกระทบต่อการให้บริการของประชาชน และมีมูลค่าโครงการค่อนข้างสูง จึงอยากให้มีความโปร่งใสในการทำงาน โดย ขสมก.ได้จัดทำหนังสือถึงกรมบัญชีกลาง เพื่อนำโครงการเข้าสู่การลงนามบันถึงข้อตกลงคุณธรรมระหว่างกัน โดยกรมบัญชีกลาง ได้สงรายชื่อผู้สังเกตการเข้าร่วมดำเนินการในครั้งนี้ด้วย 

นายกิตติกานต์ กล่าวว่า หลังจากการลงนามแล้วเสร็จจะเริ่มดำเนินการจัดประชุม เพื่อจัดทำร่างเอกสารการประกาศประกวดราคา (ทีโออาร์) รวมทั้งรายละเอียดข้อกำหนดของโครงการฯ ในรูปแบบประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์(e-bidding )โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนสิงหาคมนี้ จากนั้น จะนำทีโออาร์ขึ้นประชาวิจารณ์ผ่าเว็บไซต์ ของ ขสมก. หากไม่มีข้อท้วงติงคาดว่าจะเปิดประมูลได้ภายในเดือนกันยายน 2565 และคาดว่าจะได้ผู้ชนะและลงนามสัญญาได้ภายในปลายปี 2565 คาดเห็นรถล็อตแรกต้นปี66

“กำหนดการส่งมอบรถนั้น ยังไม่สามารถระบุได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างจัดทำทีโออาร์ ซึ่งในทีโออาร์นี้จะระบุว่าจะส่งมอบรถภายในกี่วัน หรือส่งมอบแบ่งเป็นล็อต หากมีข้อท้วงติงก็จะนำกลับมาทบทวนแก้ไข เพื่อให้เกิดความโปร่งใสมากที่สุด แต่อาจส่งผลให้ไทม์ไลน์การดำเนินการล่าช้าออกไปอีก ส่วนแผนการจ้างเอกชนวิ่งให้บริการ เบื้องต้นกำหนดไว้ 2 ปี ระหว่างรอแผนฟื้นฟูผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.)”นายกิตติกานต์ กล่าว

นายกิตติกานต์ กล่าวอีกว่า สำหรับรถ 224 คันนี้ ที่นำมาให้บริการประชาชน  คาดว่าจะช่วยลดต้นทุนค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ประมาณ 70 ล้านบาทต่อปี โดยที่ปัจจุบันจ่ายค่าน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซธรรมชาติ (เอ็นจีวี) อยู่ที่ 1,500 ล้านบาทต่อปี และช่วยลดต้นทุนค่าเหมาซ่อม ประมาณ 160 ล้านบาทต่อปี จากที่ปัจจุบันได้จ่ายค่าเหมาซ่อม 2,885 คันอยู่ที่ประมาณ 1,600 ล้านบาทต่อปี

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ชมสด ยกระดับ 'รถเมล์ไทย' โจทย์ยาก...ที่เป็นไปได้!

งานเสวนาทอล์ก ออฟ เดอะ ที ตอน...รถเมล์ไทยต้องดีกว่าเดิม ซึ่งจะจัดขึ้นในวันอังคารที่ 23 เม.ย. 67 ที่อาคารสำนักงานไทยโพสต์ ยังคงเอกลักษณ์งานเปิดบ้านไทยโพสต์ ในธีมจิบชายามบ่ายเปิดพื้นที่