![ธนกร](https://storage-wp.thaipost.net/2022/07/ธนกร-6.jpg)
โฆษกรัฐบาลเผย นายกฯ แต่งตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อบริหารสถานการณ์วิกฤตเศรษฐกิจ เดินหน้าขับเคลื่อนแก้ไขพลังงาน-ปากท้อง หวังบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนให้คลี่คลายลงโดยเร็ว
20 ก.ค.2565 - นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลงนามในคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 170/2565 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อบริหารสถานการณ์วิกฤตเศรษฐกิจ ลงวันที่ 18 กรกฎาคม 2565 โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน รองนายกรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเป็นรองประธาน รมว.การคลัง รมว.เกษตรและสหกรณ์ รมว.คมนาคม รมว.มหาดไทย รมว.อุตสาหกรรม ปลัดกระทรวง 7 กระทรวง เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ และผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นกรรมการ นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้ลงนามในคำสั่งคณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อบริหารสถานการณ์วิกฤตเศรษฐกิจ เรื่อง แต่งตั้งคณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์สถานการณ์วิกฤตเศรษฐกิจ ที่มีปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธานอนุกรรมการ ด้วย
นายธนกรกล่าวต่อไปว่า คณะกรรมการฯ จะทำหน้าที่กำหนดแนวทางการบูรณาการ และขับเคลื่อนให้ส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐถือปฏิบัติเพื่อให้การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ และบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนให้คลี่คลายลงโดยเร็ว รวมทั้งกำหนดแผนเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์ในระดับวิกฤตเศรษฐกิจให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรมตามนโยบายที่รัฐบาลกำหนด และกำกับ ติดตาม ประเมินผลการดำเนินงานตามแนวทางการบูรณาการ และขับเคลื่อน ในการแก้ไขปัญหาหรือบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน และรายงานผลการดำเนินงานต่อนายกฯ หรือคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขณะที่คณะอนุกรรมการฯ จะทำหน้าที่ติดตาม และตรวจสอบ วิเคราะห์ และประเมินผลกระทบที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์วิกฤตเศรษฐกิจและกลั่นกรอง ให้ข้อเสนอแนะ หรือความเห็นในการแก้ไขหรือบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนจากผลกระทบจากสถานการณ์วิกฤตเศรษฐกิจต่อคณะกรรมการฯ รวมทั้งจัดทำแผนเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์ในระดับวิกฤตเศรษฐกิจเพื่อเสนอต่อคณะกรรมการฯ
“จากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อทั้งเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย ทำให้หลายประเทศรวมทั้งไทยต้องประสบปัญหาการปรับตัวสูงขึ้นของราคาพลังงานเชื้อเพลิงและสินค้าอุปโภคบริโภค รวมทั้งการขาดแคลนวัตถุดิบที่สำคัญในห่วงโซ่การเกษตร อันส่งผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อการดำเนินชีวิตของประชาชน ซึ่งการจัดตั้งกลไกคณะกรรมการฯ และคณะอนุกรรมการฯ ดังกล่าว จะเป็นเครื่องมือสำคัญของรัฐบาลในการแก้ไขและบรรเทาผลกระทบของเศรษฐกิจโลก การค้าการลงทุน พลังงาน การควบคุมราคาสินค้า และมาตรการด้านการเงินการคลังเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจ เพื่อดูแลความเป็นอยู่ของประชาชน ให้สามารถแก้ไขปัญหาไปในทิศทางเดียวกันอย่างรวดเร็ว ซึ่งนายกฯ ได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินมาตรการและแนวทางการแก้ไขปัญหา ตลอดจนแผนเตรียมความพร้อมรองรับวิกฤตการณ์ด้านพลังงานและอาหาร ทั้งในระยะเร่งด่วน ระยะสั้น และระยะยาว อย่างรอบคอบ ยืนยันว่ารัฐบาลจะเดินหน้าแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่ ให้ทันต่อสถานการณ์ เพื่อให้เกิดผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนและการขับเคลื่อนด้านเศรษฐกิจของประเทศให้น้อยที่สุด” นายธนกร กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'เศรษฐา' ชวนคนไทยเชียร์ตัวแทนทีมชาติไทยในโอลิมปิกปารีส 2024
นายกฯ ส่งกำลังใจเชียร์ทัพนักกีฬาตัวแทนประเทศไทยร่วมแข่งขันโอลิมปิก ปารีส 2024 ครั้งที่ 33 วันที่ 26 กรกฎาคม - 11 สิงหาคม 2567 นี้ เชิญชวนคนไทยร่วมเชียร์และรับชมถ่ายทอดสด
รัฐบาลฝันประชุม JTC ครั้งที่ 3 ดันมูลค่าการค้ากระฉูด
นายกฯ ผลักดันต่อยอดความร่วมมือไทย-มาเลเซียทุกมิติต่อเนื่อง เชื่อมั่นการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้าไทย-มาเลเซีย ครั้งที่ 3 จะส่งเสริมตัวเลขการค้าระหว่างสองประเทศเพิ่มขึ้นในทุกมิติ
รัฐบาลฟุ้งปรับโครงสร้างพลังงานไฟฟ้าลดการผูกขาดเอกชน!
โฆษกรัฐบาลเผย รัฐบาลปรับโครงสร้างพลังงานไฟฟ้า ลดการผูกขาดภาคเอกชน ดำเนินโครงการนำร่องการซื้อขายไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดในรูปแบบการทำสัญญาซื้อขายพลังงานไฟฟ้าได้โดยตรง
ตีปี๊บงานซอฟต์พาวเวอร์ชวนคนไทยเข้าชมฟรี 28-30 มิ.ย.ศูนย์ประชุมสิริกิติ์
นายกฯ เชื่อมั่นศักยภาพ Soft Power ไทยพร้อมโชว์สู่สายตานานาชาติ ผ่านการจัดงาน THACCA SPLASH - Soft Power Forum 2024 ครั้งแรกในไทย 28 – 30 มิ.ย. นี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
รัฐหนุน 'จุดเดียวครบถึงเบี้ย' ให้คนพิการเข้าถึงสวัสดิการ
รัฐบาลสนับสนุน One Stop Service จุดเดียวครบถึงเบี้ย ส่งเสริมการเข้าถึงสิทธิสวัสดิการคนพิการ อำนวยความสะดวกด้วยการขึ้นทะเบียนบัตรประจำตัวผ่านระบบดิจิทัล
ทุ่ม3หมื่นล้าน ‘ปุ๋ยคนละครึ่ง’ ลุ้นข่าวดีค่าไฟ
ครม.ไฟเขียว “ปุ๋ยคนละครึ่ง” ลดภาระต้นทุนช่วยชาวนาปี 67/68 วงเงินเกือบ 3 หมื่นล้านบาท