‘ส.อ.ท.’ คาดครึ่งปีหลังเศรษฐกิจไทยแต่ไม่สมดุล กังวลเงินเฟ้อ-บาทอ่อน-ราคาพลังงานแพงกระทบต้นทุน ห่วงเอสเอ็มอีอ่วมสุด วอนรัฐเร่งหาแหล่งทุนเสริมสภาพคล่อง
18 ก.ค. 2565 – นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า แนวโน้มเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังปี 2565 จะฟื้นตัวในลักษณะ K-Shaped ซึ่งเป็นรูปแบบการฟื้นตัวที่ขาดสมดุล โดยสิ่งที่กังวลคืออัตราเงินเฟ้อของไทย ที่คาดว่าครึ่งปีหลังจะรุนแรงขึ้น จากระดับราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากแรงกดดันต้นทุนการผลิตที่ปรับตัวสูงจากทั้งราคาวัตถุดิบ ค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) งวดใหม่ (ก.ย.-ธ.ค.) ที่จะปรับเพิ่มขึ้นอีก เงินบาทที่มีสัญญาณยังคงอ่อนค่าลง รวมถึงอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น เหล่านี้จะทำให้เศรษฐกิจไทยจะยิ่งขาดสมดุลมากขึ้นหากไม่ได้รับการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ
“เศรษฐกิจไทยภายใต้วิกฤติสงครามรัสเซียและยูเครนยังคงยืดเยื้อก็มีโอกาส เช่น ภาคส่งออกโดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารที่คาดว่าปีนี้จะส่งออกได้รวม1.2-1.3 ล้านล้านบาทในปีนี้จาก 1 ล้านล้านบาท แต่ส่วนที่เป็นขาลงและอาจต้องล้มหายตายจากไปก็มีไม่น้อย เพราะนอกจากจะโดนดิสรัปจากเทคโนโลยีก็มาเผชิญกับโควิด-19 และสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ได้เห็นชัดมากขึ้น” นายเกรียงไกร กล่าว
ทั้งนี้ ผลกระทบจากรัสเซีย-ยูเครนส่งผลกระทบให้ไทยต้องเผชิญกับอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นต่อเนื่องจากการจากวิกฤติขาดแคลนวัตถุดิบ ราคาวัตถุดิบนำเข้าต่าง ๆ สูงขึ้น รวมไปถึงระดับราคาน้ำมันที่แพง แม้ล่าสุดระดับราคาน้ำมันดิบตลาดโลกในช่วงปลายสัปดาห์อ่อนค่าลงต่ำกว่า100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลเพราะกังวลเศรษฐกิจโลกจะถดถอย และจีนกลับมาล็อดาวน์เมืองหวู่กังที่อาจทำให้ความต้องการน้ำมันตกต่ำแต่ก็ยังคงต้องติดตามใกล้ชิดจากความไม่แน่นอนของภาวะสงครามว่าจะบานปลายหรือไม่
อย่างไรก็ตามไทยยังมีปัจจัยค่าเอฟทีที่จะทำให้ค่าไฟฟ้ารวมเพิ่มขึ้น หลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดรับฟังความเห็นการปรับขึ้น3 รูปแบบโดยเฉลี่ยปรับขึ้น 90-100 สตางค์ต่อหน่วยไม่ว่าจะเลือกแนวทางใดก็จะกระทบกับต้นทุนโดยรวมให้สูงขึ้น
“เงินบาทที่อ่อนค่าไม่เพียงกดดันต้นทุนนำเข้าวัตถุดิบ น้ำมัน ยังกดดันการลงทุนใหม่ ๆ ผมคิดว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คงติดตามใกล้ชิด แต่การขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อของไทยไม่จำเป็นต้องขึ้นแรงและเร็ว แน่นอนว่าดอกเบี้ยที่ปรับขึ้นย่อมกระทบต้นทุน โดยเฉพาะเอสเอ็มอี ดังนั้นรัฐบาลต้องเร่งหาแหล่งเงินกู้ที่จะเสริมสภาพคล่องให้เอสเอ็มอีอย่างเร่งด่วน” นายเกรียงไกรกล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จับแล้ว! 2 แม่ลูก แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ลูบคม 'ปธ.กมธ.ตำรวจ'
พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 5 (ผบก.สอท.5) พ.ต.อ.อุกฤช ศรีนิติวรวงศ์ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ
รมว.คลังนัดแบงก์ชาติถกกรอบเงินเฟ้อบ่ายนี้
รายงานข่าวระบุว่า ช่วงบ่ายวันนี้ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง มีนัดหมายกับ นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ