เครดิตบูโรย้ำ “ไม่มีการบังคับสหกรณ์ที่มีธุรกรรมสินเชื่อต้องเข้าเป็นสมาชิกเครดิตบูโร” ความเข้าใจผิดที่ต้องเรียนชี้แจง
15 ก.ค. 2565 – เครดิตบูโรขอชี้แจง “ไม่มีการบังคับสหกรณ์ที่มีธุรกรรมสินเชื่อต้องเข้าเป็นสมาชิกเครดิตบูโร” จากกรณีความเห็นเกี่ยวกับ “ร่างกฎกระทรวง การบริหารจัดการและการกำกับดูแลทางการเงินของสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน พ.ศ…..” ภายในงานเสวนาซึ่งจัดโดยสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย (สสท.)
ตามที่ปรากฏข่าวจากหลายสำนักเกี่ยวกับงานจัดเวทีเสวนา เรื่อง “ร่างกฎกระทรวงฯ ฉบับที่ 2 มุมมองของคนสหกรณ์ จะไปต่อหรือพอแค่นี้ ?” และรับฟังความคิดเห็นร่างกฎกระทรวงฉบับที่ 2 (ร่างกฎกระทรวง การบริหารจัดการและการกำกับดูแลทางการเงินของสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน พ.ศ..) โดย สสท. ความตอนหนึ่งสรุปผลการถกและเสนอความคิดเห็นระบุถึงประเด็นที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของสหกรณ์และสมาชิกจากร่างกฎกระทรวงฯ อันเกี่ยวกับการตรวจสอบข้อมูลจากบริษัท ข้อมูลเครดิต (เครดิตบูโร) ตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจข้อมูลเครดิต ว่า “ร่างกฎกระทรวงฯ ได้กำหนดให้การกู้เงินทุกประเภทที่เกิน 2 ล้านบาท จะต้องเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบเครดิตบูโร ส่งผลให้สมาชิกเข้าสู่ระบบการกู้เงินของสหกรณ์ได้ยากขึ้น เนื่องจากมีระบบการตรวจสอบ ที่เข้มข้นแต่ระบบสหกรณ์เป็นระบบที่มีความพิเศษแตกต่างจากธนาคารและสถาบันการเงินอื่นๆ เช่น สหกรณ์มีการค้ำประกันโดยสมาชิก มีทุนเรือนหุ้น มีเงินฝากและสามารถหัก ณ ที่จ่ายได้ การบังคับเข้าระบบเครดิตบูโร อาจส่งผลกระทบต่อสมาชิกโดยตรง คือ สมาชิกส่วนใหญ่อาจจะกู้ไม่ได้ หรือกู้ได้ยากขึ้น และเป็นการผลักดันให้สมาชิกต้องกู้นายทุนและกู้นอกระบบ ที่ดอกเบี้ยแพง ส่งผลต่อปากท้องของประชาชนคนรากหญ้า………..”
นายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร) ขอชี้แจงทำความเข้าใจต่อกรณีดังกล่าวว่า “จากความเห็นข้างต้นประกอบถ้อยคำของร่างกฎกระทรวงฯ ข้อ 6. (1) ที่กำหนดว่า “การให้กู้ยืมเงินที่รวมกันทุกสัญญาแล้วตั้งแต่สองล้านบาทขึ้นไป สหกรณ์ต้องกำหนดหลักเกณฑ์ให้สมาชิกผู้กู้ส่งข้อมูลเครดิตจากบริษัทข้อมูลเครดิตตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจข้อมูลเครดิตเพื่อประกอบการพิจารณาให้เงินกู้” นั้น
จะเห็นได้ว่าร่างกฎกระทรวง ฯ ระบุให้ผู้กู้มาตรวจสอบข้อมูลของตนเองที่เครดิตบูโร (ตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจข้อมูลเครดิตคือการใช้สิทธิตรวจสอบข้อมูลของเจ้าของข้อมูลตามมาตรา 25) แล้วนำส่งให้แก่สหกรณ์ที่ตนเองขอกู้ยืมเพื่อประกอบการพิจารณา มิใช่การบังคับให้สหกรณ์เข้าระบบเครดิตบูโร กรณีการนำสหกรณ์เข้าสู่ระบบเครดิตบูโรจะต้องเป็นการที่สหกรณ์มาสมัครเป็นสมาชิกเครดิตบูโร สามารถเรียกดูข้อมูลตรงมายังเครดิตบูโรภายใต้ความยินยอมของผู้กู้ (ตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจข้อมูลเครดิตดำเนินการในฐานะสมาชิกตามมาตรา 20) และต้องส่งข้อมูลประวัติการชำระหนี้สัญญาเงินกู้ด้วยทุกเดือน ซึ่งเป็นคนละกรณีกับร่างกฎกระทรวงฯ นี้โดยสิ้นเชิง และสหกรณ์นั้น ๆ จะต้องสมัครใจและมีความพร้อมจึงจะเข้าระบบเครดิตบูโรได้“
อย่างไรก็ดี ปัจจุบันมีสหกรณ์ออมทรัพย์หลายรายที่ได้เข้าสู่ระบบเครดิตบูโรแล้วในฐานะสมาชิกแม้ไม่มีร่างกฎกระทรวงฯ ฉบับนี้ ด้วยความสมัครใจเนื่องจากเห็นประโยชน์ในภาพรวมของการบริหารจัดการเงินฝากของสมาชิกที่นำมาปล่อยกู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ สหกรณ์หลายแห่งก็ยังดำเนินการออกเกณฑ์การกู้ยืมเงินโดยให้ผู้กู้มาตรวจสอบข้อมูลของตนเองที่เครดิตบูโรแล้วนำส่งให้แก่สหกรณ์ประกอบคำขอกู้เป็นปกติแม้วงเงินกู้ยืมไม่ถึงสองล้านบาทเช่นกัน
การที่ผู้ให้กู้ยืมนำข้อมูลจากเครดิตบูโรไปร่วมพิจารณาถึงความสามารถในการชำระหนี้ เพื่อให้ได้เห็นวงเงินเป็นหนี้รวมตามความจริงว่าจะเป็นภาระในการผ่อนชำระแก่ผู้กู้มากเกินไปหรือไม่ ตามหลักการให้สินเชื่ออย่างมีความรับผิดชอบ (Responsible Lending) กล่าวคือ ผู้ให้กู้ยืมจะต้องดูให้แน่ใจว่าให้สินเชื่อไปแล้วคุณภาพชีวิตลูกหนี้ดีขึ้นหรือเลวลงนั่นเอง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
“รวมไทยสร้างชาติ” เดินหน้าเสนอแก้กฎหมายปลดล็อคประชาชนติดเครดิตบูโรยาวนานให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ได้ง่าย ลดปัญหาถูกขึ้นบัญชีดำ จนหันไปกู้เงินนอกระบบ
เมื่อวันที่ 10 มกราคม ที่รัฐสภา นายวิทยา แก้วภราดัย สส.บัญชีรายชื่อ พร้อมด้วย สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ ประกอบด้วย รศ.ดร.ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง สส.บัญชีรายชื่อ นายวิชัย สุดสวาสดิ์ สส.ชุมพร นายพงษ์มนูญ ทองหนัก สส.พิษณุโลก
ธอส.กาง 7 เคล็ดลับ ผ่อนบ้านหมดไว! ชู “ชำระเกิน-รีบโปะ-อย่าสร้างหนี้เพิ่ม” ช่วยลดภาระลูกหนี้
ช่วงที่ผ่านมา มีประเด็นที่เป็นข้อถกเถียงกันบนโซเชียลมีเดียพอสมควร นั่นคือเรื่อง “การผ่อนบ้าน” ขณะเดียวกันในฝั่งสถาบันการเงินเองก็มีการแข่งขันกันออกโปรโมชั่นในการ Refinance (รีไฟแนนซ์) อย่างดุเดือดเพื่อดึงดูดใจลูกค้า
‘อรรถวิชช์’ ลุยปฏิรูปเครดิตบูโร เตรียมรวมหมื่นชื่อเสนอกฎหมายเข้าสภา
‘อรรถวิชช์’ จับมือ ‘ภาคประชาชน - นักการเงิน’ ร่างกฎหมาย ปฏิรูปเครดิตบูโรยุติแช่แข็งลูกหนี้ เตรียมรวม 10,000 ชื่อเสนอกฎหมายเข้าสภาฯ
‘กรณ์’ ชำแหละปัญหาส่วนต่างดอกเบี้ย แนะวิธีการลดดอกเบี้ยเงินกู้
เหตุผลที่ดอกเบี้ยเงินกู้เราสูงมีหลากหลาย ข้อเท็จจริงคือธนาคารไทยมีสัดส่วนทุนเทียบกับสินทรัพย์เสี่ยงที่สูงเมื่อเทียบกับที่อื่น
'เครดิตบูโร' ร่ายยาวนโยบายยกเลิกแบล๊กลิสต์ของนักการเมือง
ตามที่มีการประกาศนโยบายยกเลิกแบล๊กลิสต์และเสนอแนวทางการใช้เครดิตสกอร์ริ่งมาแทนในระบบสินเชื่อ