“คลัง” ปักหมุดภาคอสังหาริมทรัพย์ไทยปี 2565 ฟื้นตัวแน่นอน เป็นเครื่องยนต์ช่วยเข็นเศรษฐกิจฟื้นตัวต่อเนื่อง จ่อถก “ธปท.” ขยายเวลามาตรการกระตุ้นเพิ่ม ด้าน “ธอส.” ประกาศตรึงดอกเบี้ยยาวถึง ต.ค. นี้ ฝ่ากระแสทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น ยอมแบกภาระ 1 พันล้านบาท หวังช่วยดูแลประชาชนผู้มีรายได้น้อย ฟุ้งครึ่งปีปล่อยสินเชื่อใหม่พุ่ง 1.34 แสนล้านบาท การันตีสิ้นปียอดแตะ 3 แสนล้านบาทไม่เกินฝัน
12 ก.ค. 2565 – นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.การคลัง กล่าวปาฐกถาในหัวข้อ “อสังหาฯ เครื่องยนต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยได้จริงหรือ?” ในงาน “PROPERTY INSIDE2022 ทางรอดอสังหาฯ หลังโควิด-ไฟสงคราม” ว่า ทิศทางของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทยในปีนี้เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัว สอดคล้องกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ซึ่งภาคอสังหาริมทรัพย์ถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องยนต์สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ มีสัดส่วน 8-9% ของจีดีพี รองจากภาคการส่งออกซึ่งมีสัดส่วนถึง 60% ของจีดีพี และภาคการท่องเที่ยว ที่มีสัดส่วน 12% ของจีดีพี
ทั้งนี้ กระทรวงการคลัง เตรียมจะหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และกระทรวงมหาดไทย ในการขยายเวลามาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ อาทิ มาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนอง และการผ่อนปรนมาตรการ LTV ที่จะหมดอายุสิ้นปีนี้ รวมถึงจะมีการหารือว่าจะมีมาตรการกระตุ้นอะไรบ้างที่จะเข้าไปช่วยเหลือได้ต่อไป
นายอาคม กล่าวอีกว่า กรณีการส่งสัญญาณการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) นั้น ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ กนง. ว่าจะดำเนินการเรื่องนี้อย่างไร แต่หากจะขึ้นดอกเบี้ยจะต้องดูทิศทางตลาดการเงินด้วย รวมถึงไม่อยากให้การขึ้นดอกเบี้ยเป็นภาระกับผู้ประกอบการและประชาชนมากจนเกินไป
“เรื่องดอกเบี้ยถือเป็นต้นทุนของทั้งผู้ประกอบการและประชาชน ส่วนเรื่องที่มีการวิจารณ์เกี่ยวกับขณะนี้มีเงินทุนเคลื่อนย้ายออกไปต่างประเทศเยอะในภาวะที่อัตราดอกเบี้ยขาขึ้นนั้น เรื่องนี้ ธปท. จะจับตาดูเป็นพิเศษ มองว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย จะต้องดูทิศทางอัตราดอกเบี้ยในตลาดโลกอีกครั้ง ขณะเดียวกันมีปัจจัยเสี่ยงจากเรื่องราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้นจากปัญหาสงคราม ทำให้ทุกประเทศเผชิญปัญหาเดียวกันหมด การดำเนินการทั้งหมดจึงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ” นายอาคม กล่าว
สำหรับการกู้เงินของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจากสถาบันการเงินนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา แต่ยอมรับว่ามีความกังวลในเรื่องสภาพคล่องของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า เชื่อว่าในปีนี้ กนง.จะขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอย่างน้อย 2 ครั้ง ครั้งละ 0.25% แต่ ธอส.จะพยายามตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้จนถึงเดือน ต.ค. เพื่อลดผลกระทบสำหรับประชาชนผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง โดยการตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ครั้งนี้ จะทำให้ธอส.ได้รับผลกระทบเรื่องต้นทุนประมาณ 1 พันล้านบาท
ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าทิศทางอัตราดอกเบี้ยในตลาดอยู่ในช่วงขาขึ้น การพูดว่าไม่ขึ้นมันฝืนหลายอย่าง ซึ่งเป็นผลมาจากหลายปัจจัย ทั้งจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ขณะที่แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ กนง. คงเป็นการทยอยขึ้น ซึ่งบทบาทของ ธอส. ที่ยังต้องทำหน้าที่อยู่ตามนโยบายรัฐ คือ การดูแลกลุ่มผู้มีรายได้น้อย แม้ว่าผลกระทบจากต้นทุนที่เกิดจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยจะสูงขึ้น แต่ ธอส. มองว่าธนาคารยังเป็นอีกกลไกที่สามารถเข้าไปช่วยพยุงภาคอสังหาริมทรัพย์ได้ในช่วงดังกล่าว ขณะเดียวกันผู้ประกอบการและผู้บริโภคก็ต้องเร่งปรับตัว
“หากกนง.ขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ส.ค.นี้ ธอส.จะยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยทันที แต่จะตรึงไว้และขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งแรก เดือนต.ค. แต่จะไม่ขึ้นระดับเดียวกับที่ กนง. ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย โดยประเมินว่าหาก กนง. ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ธอส. อาจจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.15% ต่อปี และจะตรึงต่อไปยาวจนถึงเดือน ม.ค. 2566 จะมีการพิจารณาอีกครั้ง เพื่อให้ลูกค้าเกิดการปรับตัว โดยภาระที่เพิ่มขึ้นจากการตรึงดอกเบี้ยราว 1 พันล้านบาทนั้น อยู่ในบริบทที่ธนาคารยังรับได้” นายฉัตรชัย กล่าว
สำหรับภาพรวมการปล่อยสินเชื่อของ ธอส. ในช่วง 6 เดือนของปี 2565 (ม.ค.-มิ.ย.) อยู่ที่ 1.34 แสนล้านบาท โดยภายในสิ้นปีนี้คาดว่าน่าจะปล่อยสินเชื่อได้ 2.6-3 แสนล้าบาท สูงกว่าปีก่อนที่ปล่อยสินเชื่อได้ที่ระดับ 2.26 แสนล้านบาท ส่งผลให้สินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 1.52 ล้านล้านบาท และมีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) อยู่ที่ 4.41%
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ผู้ใช้แรงงานเฮ! พิพัฒน์เผยเริ่ม 1 พ.ย.นี้ ประกันสังคมลงทุนหมื่นล้าน! จับมือ ธอส.ปล่อยกู้ ให้ผู้ประกันตนมาตรา 33, 39, 40 ซื้อบ้าน ซื้อที่ดิน ซ่อมบ้าน วงเงินไม่เกินคนละไม่เกิน 2 ล้านบาท ดอกเบี้ยต่ำ เฉลี่ยผ่อนคืนแค่เดือนละ 4 พันบาท เท่านั้น
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวถึงเรื่องสินเชื่อบ้านให้ผู้ประกันตนมาตรา 33, 39, 40 ได้มีที่อยู่อาศัย
"พิพัฒน์" จับมือ ธอส. ปล่อยสินเชื่อซื้อบ้าน ดอกเบี้ยต่ำ 1.59% ต่อปี วงเงิน 10,000 ล้านบาท เพื่อเพิ่มสิทธิประกันสังคม ให้ผู้ประกันตนมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง
วันที่ 26 กันยายน 2567 เวลา 13.30 น. นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน
ธอส. MOU โครงการ GHB Big Family ร่วมกับ SAM ซื้อทรัพย์สินรอการขายจาก SAM วันนี้ มีโอกาสรับสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำจาก ธอส.
วันนี้ (24 กรกฎาคม 2567)นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และนางสาวนารถนารี รัฐปัตย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท
'คารม' แจงยิบยัน 'กยศ.' คิดดอกเบี้ยอัตรา 1%
'คารม' ย้ำ กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษาคิดดอกเบี้ยอัตรา 1% ตั้งแต่เริ่มกู้จนชำระเสร็จสิ้น ไม่มีการคิดดอกเบี้ยซ้อนดอกเบี้ย ขอให้ผู้กู้ยืมชำระหนี้ตามจำนวนที่แจ้งในหน้าแอปพลิเคชัน กยศ.Connect
ธอส. โชว์ปล่อยสินเชื่อบ้านทะลุ 4.7 หมื่นล้าน
ธอส. เผยผลการดำเนินงาน 4 เดือนแรกของปี 2567 ปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ 47,784 ล้านบาท คิดเป็น 20% ของเป้าหมายที่ตั้งไว้
ธอส. จัดทำ 7 มาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากพายุฤดูร้อน จ. อุตรดิตถ์
ธอส. ร่วมให้กำลังใจชาวอุตรดิตถ์ จัดทำ 7 มาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติหลังประสบภัยจากพายุฤดูร้อน หนักสุดในรอบ 60 ปี