เตือน..! อย่าหลงเชื่อแก๊ง Call Center อ้างเป็นจนท. 'คปภ.' เรียกเงินเพื่อช่วยเหลือเคลมประกันโควิด

เลขาธิการ คปภ. เตือน..! อย่าหลงเชื่อกลุ่มมิจฉาชีพ แก๊ง Call Center แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ คปภ. เรียกเงินเพื่อช่วยเหลือเคลมประกันภัยโควิด สั่งการสายกฎหมายและคดี ดำเนินการตามกฎหมายในทุกกรณีความผิด

30 มิ.ย. 2565 -นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า ด้วยขณะนี้มีกลุ่มมิจฉาชีพใช้โทรศัพท์ผ่านระบบ Call Center โทรศัพท์ไปหาประชาชนแอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) ข่มขู่และแจ้งข้อกล่าวหาว่ามีการปลอมแปลงเอกสารในการเคลมประกันภัยโควิด เพื่อให้ผู้เสียหายเกิดความหวาดกลัว ต่อจากนั้นแก๊ง Call Center ก็จะเสนอวิธีการแก้ไขปัญหาเพื่อไม่ให้ถูกดำเนินคดี โดยให้ผู้เสียหายโอนเงินให้เพื่อยุติเรื่องดังกล่าว

นอกจากนี้ แก๊ง Call Center ที่แอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากสำนักงาน คปภ. ยังขอตรวจสอบกรมธรรม์ประกันภัย และขอเอกสารเกี่ยวกับการเคลมประกันภัยโควิดเพิ่มเติม โดยมุ่งเป้าไปที่ข้อมูลทางการเงิน เช่น เลขที่บัญชีธนาคารพาณิชย์ เลขที่บัตรประชาชน เพื่อให้ผู้เสียหายโอนเงินให้กับแก๊ง Call Center เพื่อแลกกับการอำนวยความสะดวกในการเคลมประกันภัยโควิดได้รวดเร็วยิ่งขึ้น รวมทั้งแก๊ง Call Center ยังมีพฤติกรรมเหิมเกริม โดยอาสาเป็นผู้ดำเนินการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนให้กับผู้เสียหาย แต่ขอให้ผู้เสียหายจ่ายค่าดำเนินการให้ล่วงหน้าก่อน ซึ่งการกระทำดังกล่าวอาจทำให้ประชาชนหลงเชื่อ หรือตกเป็นเหยื่อของแก๊ง Call Center เหล่านี้ได้

เลขาธิการ คปภ. กล่าวว่า สำนักงาน คปภ. เป็นหน่วยงานของรัฐที่มีบทบาทหน้าที่ในการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย รวมถึงการให้ความคุ้มครองสิทธิประโยชน์ด้านประกันภัยกับประชาชน ไม่มีนโยบายให้เจ้าหน้าที่สำนักงาน คปภ. โทรศัพท์ไปหาประชาชนเพื่อขอข้อมูลทางการเงินหรือให้การช่วยเหลือไม่ให้ถูกดำเนินคดีอาญา ซึ่งการกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายเป็นความผิดฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญา ทั้งนี้ได้สั่งการให้สายกฎหมายและคดี ดำเนินคดีร้องทุกข์กล่าวโทษและแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการทางกฎหมายต่อกลุ่มมิจฉาชีพในทุกกรณีความผิด โดยเฉพาะความผิดที่เข้าข่ายการฉ้อฉลประกันภัย ตามมาตรา 108/5 แห่งพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2562 ที่ระบุว่า ผู้ใดเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นเพื่อให้มีการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนหรือจ่ายเงินหรือผลประโยชน์ตามกรมธรรม์ประกันภัยที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ดังนั้น จึงขอให้ประชาชนอย่าได้หลงเชื่อ การกระทำผิดของกลุ่มมิจฉาชีพดังกล่าว หากได้รับการติดต่อแอบอ้างเกี่ยวกับการปลอมเอกสารหรือเพื่อช่วยเหลือในการเคลมประกันภัยโควิด โดยมีการขอข้อมูลทางการเงินหรือช่วยเหลือไม่ให้ถูกดำเนินคดีอาญา และแอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่สำนักงาน คปภ. ไม่ว่าจะเป็นทางโทรศัพท์ อีเมล์ หรือช่องทางใด ๆ ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นการหลอกลวงประชาชน และให้รีบแจ้งข้อมูลไปยังสำนักงาน คปภ. โดยตรง ผ่านสายด่วน คปภ. 1186 เพื่อจะได้ดำเนินการตามกฎหมายโดยเคร่งครัดต่อไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รวบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ลวงคุณปู่วัย 81 โอนเงินพร้อมจำนองบ้านหมดตัว 22 ล้าน

พ.ต.อ.อดิชาต อมรประดิษฐ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนร่วมกันจับกุม นางอัจฉรา อายุ 54 ปี ชาวหนองคาย แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตามหมายจับ “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน

ตำรวจไซเบอร์เตือนภัยพี่น้องชาวมุสลิม มิจฉาชีพสร้างเพจปลอมหลอกลงทุนหุ้นอิสลาม

สืบเนื่องจากเพจปลอมหลอกลงทุนออนไลน์กำลังระบาด ซึ่งมิจฉาชีพใช้วิธียิงแอดบูสต์โฆษณาเพื่อให้ผู้คนเห็นโพสต์ได้มากขึ้น โดยตำรวจไซ

สืบนครบาล วางแผนรวบหมอเก๊ ตุ๋นบุคลากรแพทย์-ข้าราชการสูญเงินหลักล้าน

พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.อิสเรศ ปาลาพงศ์ รอง ผบก.สส.บช.น

แนะประชาชน ต้องรู้ทัน ไม่หลงเชื่อกลโกงมิจฉาชีพ

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากกรณีที่ยังพบมีการหลอกลวงประชาชนจากมิจฉาชีพอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดข้อมูลกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมระบุ ในช่วงตั้งแต่