'ดร.กอบ'ชี้จุดเปลี่ยนสำคัญตลาดทุนในสหรัฐ 'เงินเฟ้อ-ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ' ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดต่อเนื่อง ต่ำสุดในรอบปี การคาดการอนาคตของเศรษฐกิจสหรัฐใน 6 เดือนข้างหน้า ต่ำสุดในรอบ 18 ปี แนะลงทุนด้วยความระมัดระวัง
29 มิ.ย.2565- ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความ หัวข้อ จุดเปลี่ยน มีเนื้อหาดังนี้
สิ่งที่นักลงทุนมองหากัน ก็คือ จุดเปลี่ยน หรือ Turning Point
เพราะจากราคาสินทรัพย์ต่างๆ ก็ต้องถือว่าลงมาพอสมควรแล้ว
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บางบริษัท ซึ่งมีอนาคตดี ต่อไปน่าจะสำคัญยิ่งในเศรษฐกิจ 4.0 ที่ดูน่าสนใจมาก
เพียงแต่ว่า ที่ว่าต่ำแล้ว อาจจะต่ำได้อีก
การปรับตัวยังไม่สุด ยังไม่สะเด็ดน้ำ
ทุกคนที่กำลังมองหา "จุดเปลี่ยน" เพื่อเข้าสู่ตลาด ก็ยังมองเห็น Turning Point นั้น ไม่ชัดนัก
สำหรับในสหรัฐ ที่เป็นตลาดที่ทุกคนจับตาอย่างใกล้ชิด
จุดเปลี่ยนสำคัญคงมีอยู่ 2 เรื่อง
(1) เงินเฟ้อ ว่า แนวโน้มเงินเฟ้อเป็นอย่างไร peak หรือยัง จะลงมาเป็นปกติที่ 2% หรือจะค้างอยู่ที่ 3-4%
ที่ดูตัวนี้ก็เพราะว่า มีนัยยะต่อเฟด และจะช่วยให้เข้าใจได้ว่า เฟดจะต้องขึ้นดอกเบี้ยไปอีกแค่ไหน จะมี Surprise ให้ตลาดอีกหรือไม่
ที่สำคัญอีกอย่าง ที่เฟดบอกว่า 3.8% นั้น จะพอหรือไม่ เอาเงินเฟ้ออยู่หรือไม่
(2) ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ ว่า ข้อมูลที่ออกมาเริ่ม stabilized หรือนิ่งแล้วหรือไม่ หรือเศรษฐกิจยังคงดำดิ่ง ตกเหวลงไปอยู่อย่างต่อเนื่อง
ที่ดูตัวนี้ก็เพราะว่า ถ้าการปรับตัวของเศรษฐกิจมีผลต่อผลประกอบการของบริษัทต่างๆ
ถ้าการปรับตัวยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น ก็หมายความว่า บริษัทต่างๆ จะมีผลประกอบการที่น้อยกว่าตลาดคาด ออกมาอีกระยะ
ยิ่งคนหมดความมั่นใจ และมั่นใจน้อยลงไปทุกที
กำลังซื้อหดหาย
รายได้บริษัทต่างๆ ก็จะลดถอยตามไปด้วย
อย่างล่าสุด เมื่อคืนนี้ ตัวเลขที่ทำให้ตลาดปรับ
Nasdaq -3%
S&P500 -2%
Dow Jones -1.6%
ก็คือข้อมูลจาก The Conference Board ที่เป็นหนึ่งในแหล่งข้อมูลสำคัญที่สุดของสหรัฐ ที่ออกมาว่า
ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดต่อเนื่อง ต่ำสุดในรอบปี
การคาดการอนาคตของเศรษฐกิจสหรัฐใน 6 เดือนข้างหน้า ต่ำสุดในรอบ 18 ปี!!!
ถ้าผู้บริโภคซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนหลัก เป็นเสาหลักของเศรษฐกิจสหรัฐยังกังวลใจ จากราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้น จากดอกเบี้ยที่สูงขึ้น จากเศรษฐกิจที่มืดมนมากขึ้น ผู้บริโภคก็จะระวังในการจับจ่ายใช้สอย
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การซื้อบ้าน รถ อุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ
นอกจากนี้ในเรื่อง Business Outlook ผู้บริโภค 30% คิดว่าธุรกิจจะแย่ลงในช่วง 6 เดือนข้างหน้า (เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 26%)
คนที่คิดว่าจะดีขึ้นใน 6 เดือนข้างหน้า ลดลงเหลือเพียง 14.7% (จากเดิมมีอยู่ 16.4%)
ทั้งหมดยังชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังเสียการทรงตัว และยังคงต้องปรับตัวไปอีกระยะ
จุดเปลี่ยนที่ทุกคนมองหา คงยังต้องอีกระยะ
และช่วงนี้ ตลาดก็จะผันผวน แปรปรวน เหวี่ยงไปมามากกว่าปกติ
ถ้าข้อมูลเศรษฐกิจจะ "3 วันดี 4 วันไข้"
ตลาดที่มองข้อมูลอย่างใกล้ชิด ก็จะ "3 วันดี 4 วันไข้" เช่นกัน
ขอให้อดใจไว้อีกนิด ลงทุนด้วยความระมัดระวัง
เขาบอกกันว่า "นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ ก็คือ นักลงทุนที่อดทนได้มากกว่าคนอื่น" ครับ
#ท่องเศรษฐกิจกับดรกอบ #จุดเปลี่ยน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'เอ็ดดี้' ชำแหละ! แผนรัฐบาลคุม 'แบงก์ชาติ' บรรลุ 6 เป้าหลัก
นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "เอ็ดดี้ อัษฎางค์" ในหัวข้อ "อะไรคือจุดประสงค์ของการแทรกแซงแบงก์ชาติจากฝ่ายการเมือง"