กบน. เคาะกู้เงินอุ้มดีเซล คุมเพดานไม่เกิน 30 บาท/ลิตร เตรียมพร้อมนำเสนอ ครม. เห็นชอบ เสริมสภาพคล่องเงินกองทุนน้ำมันเชื่อเพลิง ปัดข่าวกองทุนฯส่งเงินเข้ารัฐกว่า 2 หมื่นล้านบาท ยันใช้เงินตามข้อกฎหมาย
2 พ.ย. 2564 นายสมภพ พัฒนอริยางกูล โฆษกกระทรวงพลังงาน เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ครั้งที่ 9/2564 เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2564 ที่ผ่านมา โดยมีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน ว่าที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบเนื้อหาและสาระสำคัญร่างหลักเกณฑ์การกู้ยืมเงินตามที่สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงนำเสนอ เพื่อเตรียมพร้อมสภาพคล่องในการตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาท/ลิตร และได้มอบหมายให้สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงไปจัดทำหลักเกณฑ์การกู้เงินตามกรอบของ พ.ร.บ.กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ไม่เกิน 20,000 ล้านบาท ซึ่งหลังจากนี้จะนำเสนอร่างหลักเกณฑ์การกู้เงินดังกล่าวต่อที่ประชุมครม.ให้ความเห็นชอบ คาดว่า ภายในเดือนนี้
“การกู้เงินดังกล่าวเพื่อลดผลกระทบต่อค่าครองชีพประชาชนในช่วงที่สถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกยังคงมีแนวโน้มผันผวนต่อเนื่อง ตามความเห็นชอบของคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง) เมื่อวันที่ 20 ต.ค. 2564 ที่ผ่าน ซึ่งหลังจากนี้จะมีการนำเสนอร่างหลักเกณฑ์การกู้เงินดังกล่าวต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพื่อให้ความเห็นชอบต่อไป ขณะที่ตอนนี้ฐานะสุทธิกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเหลือประมาณ 7,000 ล้านบาท คาดว่า จะดูแลราคาน้ำมันดีเซลไม่เกิน 30 บาทต่อลิตรได้ถึงสิ้นปีนี้ เราจึงต้องกู้เงินไปสำรองไว้ก่อน เพื่อตรึงราคาน้ำมันดีเซลไว้ไม่ให้เกิน 30 บาท เนื่องจากน้ำมันดีเซล เป็นพื้นฐานของการดำเนินธุรกิจหากปล่อยให้มีราคาสูงเกินไปจะกระทบต่อผู้ประกอบการ ค่าขนส่ง ค่าสินค้าและบริการต่างๆ”นายสมภพ กล่าว
นายสมภพ กล่าวว่ากระทรวงพลังงานจะควบคุมการใช้เงินกู้อย่างเข้มงวด และเป็นไปตามข้อกฎหมาย ส่วนจะเริ่มกู้เมื่อไร ตามขั้นตอนต้องรอให้ครม.อนุมัติ หลังจากก็เป็นไปตามเงื่อนไขการกู้เงินของกระทรวงการคลัง ซึ่งเงินที่กู้มา จะใช้เท่าไร ยังไม่สามารถระบุได้ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ความจำเป็น อาจใช้ไม่ถึงก็ได้ แต่ต้องกู้มาไว้เสริมสภาพคล่องไว้ก่อน และในกรณีที่มีกระแสข่าวว่าที่ผ่านมาได้มีการโอนเงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ไปเป็นรายได้ให้กับรัฐบาลกว่า 20,000 ล้านบาทนั้น ได้ตรวจสอบกับสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงแล้ว พบว่าเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตามตั้งแต่ตั้งกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมายังไม่เคยนำเงินกองทุนฯ เข้านำส่งเป็นรายได้กระทรวงการคลัง พร้อมยืนยันว่าการบริหารเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงต้องเป็นไปตามกฎหมายและวัตถุประสงค์ของกองทุนฯอย่างเคร่งครัด โดยในมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2562 ได้กำหนดไว้อย่างชัดเจนให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมีวัตถุประสงค์เพื่อรักษาเสถียรภาพระดับราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมในกรณีที่เกิดวิกฤตการณ์ด้านน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งการดำเนินงานให้อยู่ภายใต้กรอบนโยบายการบริหารกองทุนฯ ตามที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติกำหนดเท่านั้น
“สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงขอยืนยันว่า ไม่มีการโอนเงินตามที่มีการนำเสนอข่าวแต่อย่างใด โดยการใช้เงินกองทุนฯ ที่ผ่านมาเป็นไปตามข้อกฎหมายและวัตถุประสงค์ของกองทุนฯ และเป็นไปตาม มติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ เพื่อลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน บรรเทาภาระค่าครองชีพประชาชน อย่างเช่น การตรึงราคาน้ำมันดีเซล 30 บาทต่อลิตรในขณะนี้ และการอุดหนุนราคาก๊าซแอบพีจี ครัวเรือนตลอดทั้งปี 2564 เพื่อบรรเทาผลกระทบประชาชนจากสถานการณ์โควิด-19”นายสมภพ กล่าว