'บางจาก' เผยให้ความร่วมมือรัฐกรณีค่าการกลั่น แต่ขอแจงผู้ถือหุ้น

“บางจาก” ชี้กรณีค่าการกลั่นพร้อมให้ความร่วมมือรัฐแต่ต้องชี้แจงผู้ถือหุ้น แนะอยากให้มองมาตรการระยะยาว พร้อมลุยเจรจารัฐหนุนใช้น้ำมัน E20 แทนแก๊สโซฮอล์ 95-91 ชี้ราคาเอทานอลยังถูก ทดแทนการนำเข้าน้ำมันเบนซิน เผยด้านผลการดำเนินงานปี 65 มีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้น กำลังการกลั่นทะลุ 102%

27 มิ.ย. 2565 – นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP กล่าวถึงประเด็นที่รัฐบาล โดยกระทรวงพลังงานขอความร่วมมือกลุ่มโรงกลั่นน้ำมัน ให้นำส่งกำไรค่าการกลั่นน้ำมันดีเซล การจัดเก็บค่าการกลั่นน้ำมันเบนซิน โรงแยกก๊าซ เพื่อเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงว่า ในขณะนี้ภาครัฐอยู่ระหว่างการหารือกันว่าจะมีข้อสรุปอย่างไรในกรณีที่จะขอความร่วมมือกับกลุ่มโรงกลั่น หรือจะออกกฎหมายมาบังคับอย่างไร แต่พร้อมให้ความร่วมมือกับภาครัฐภายใต้กรอบของกฎหมายและการค้าเสรีเนื่องจากบางจากเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งก็ต้องชี้แจงผู้ถือหุ้นให้ได้

“อะไรที่เราทำได้ก็พร้อมที่จะทำ เหมือนกับที่ก่อนหน้านี้ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นเราก็ออกแคมเปญทำคูปองลดราคาน้ำมันให้ลิตรละ 1 บาทเพื่อดูแลลูกค้าของปั๊ม แต่ทั้งนี้อยากให้มองว่ากรณีที่เกิดขึ้นนั้นมาจากผลกระทบระดับโลก ก็อยากให้มีมาตรการเข้ามาดูแลในระยะยาวมากกว่า เนื่องจากมองว่าหากอนาคตมีความเปลี่ยนแปลงอาจจะกระทบต่อความมั่นคง ในขณะเดียวกันด้านบางจากเองก็จะต้องทำตามมาตรการที่ตอบโจทย์กับผู้ถือหุ้นและผู้ร่วมทุนได้ทุก ๆ ถ้าไม่มีปัญหาก็พร้อมที่จะทำ”นายชัยวัฒน์ กล่าว

นายชัยวัฒน์ กล่าวว่าปัจจุบันเข้าใจว่าราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก จากการส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปของรัสเซียที่หายไป 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ส่งผลเกิดเหตุการณ์ที่น้ำมันในคลังของยุโปรอยู่ต้ำสุดในรอบ 14 ปี และฝั่งอเมริกาอยู่ต่อสุดในรอบ 16 ปี ซึ่งทางบางจากเองก็ได้ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดโดยในเบื้อต้นได้หารือกับภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ผลักดันการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 เป็นน้ำมันพื้นฐานแทนการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 และ 91 เพื่อส่งเสริมการใช้เอทานอลเพิ่มขึ้น เนื่องจากสามารถผลิตได้เองในประเทศ อีกทั้งราคาเพียง 25-26 บาทต่อลิตร เทียบกับเนื้อน้ำมันเบนซินที่ต้องนำเข้ามาผสมอยู่ที่ 34-35 บาทต่อลิตร

โดยคาดว่าจะช่วยลดราคาน้ำมันลงได้ 80 สตางค์ ถึง 1 บาทต่อลิตร เพราะการผสมเอทานอลทุก 10% จะทำให้ประหยัดลง 1 บาท ซึ่งก็เป็นทางออกหนึ่งช่วงราคาน้ำมันแพง ขณะที่สถานการณ์ทิศทางราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกคาดว่ายังทรงตัวในระดับสูงล่าสุดราคาน้ำมันดิบอยู่ที่ 110 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล อาจจะปรับตัวลงมาเล็กน้อย ส่วนราคาน้ำมันดีเซลอยู่ที่ประมาณ 170 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล แต่ในช่วงฤดูหนาวของยุโรป และสหรัฐอเมริกาปลายปีนี้คาดว่าราคาน้ำมันจะปรับตัวเพิ่มขึ้นจะส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะน้ำมันดีเซล และ LPG และหากสงครามยังยืดเยื้อคาดว่าราคาน้ำมันดีเซลมีโอกาสแตะ 200 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล

ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2565 นั้นยังไม่สามารถบอกได้ แต่ถ้าดูจากกำลังการกลั่นแล้วสูงกว่าไตรมาส 1/2565 และสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้ในช่วงไตรมาส 2/2565 คาดว่าจะมีกำไรจากสต๊อกน้ำมันเล็กน้อย ขณะที่กำลังการกลั่นของบางจากในปัจจุบันอยู่ในระดับ 122,000 – 123,000 บาร์เรลต่อวันมีกำลังการกลั่นอยู่ที่ 102% เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนภาพรวมในปี 2565 ก็คาดว่าจะสามารถรักษาระดับการกลั่นได้ที่ 122,000 บาร์เรลต่อวัน

นายชัยวัฒน์ กล่าวถึงธุรกิจผลิตปิโตรเลียมในประเทศนอร์เวย์ ว่า หลังจากที่ OKEA ASA ซึ่งเป็นบริษัทย่อยบางจากถือหุ้นในสัดส่วน 46% ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายแหล่งปิโตรเลียมในทะเลเหนือ 3 แหล่ง ( 35.2% ในแหล่ง Brage, 6.4% ในแหล่ง Ivar Aasen, และ 6% ในแหล่ง Nova) ซึ่งจะเพิ่มปริมาณการผลิตปิโตรเลียมในปี 2565 ของ OKEA อีกประมาณ 5,000- 6,000 บาร์เรลต่อวัน จากปัจจุบันผลิตอยู่ที่ 2.5 หมื่นบาร์เรลต่อวัน นอกจากนี้ยังมีโอกาสที่ OKEA จะซื้อแหล่งปิโตรเลียมใหม่เพิ่มเติม เนื่องจากในนอร์เวย์ยังมีแหล่งปิโตรเลียมขนาดใหญ่ศักยภาพในการผลิตถึง 1 แสนบาร์เรลต่อวัน

เพิ่มเพื่อน